“สนธิ” ย้ำเหตุผล ทำไมต้องสู้เพื่้อ “ในหลวง” ลั่น 3 สถาบันจะขาดจากกันมิได้ พระเจ้าอยู่หัวไม่มีที่พึ่งอีกแล้วนอกจากประชาชน ตอกย้ำ นช.แม้วต้องการให้สถาบันกษัตริย์เป็นแค่สัญลักษณ์เหมือนที่ฮุนเซนทำ นัดพี่น้องรวมตัวอีกครั้ง ถวายพระพรในหลวง 5 ธ.ค.
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (15 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีรวมพลังรักชาติของประชาชนทั่วประเทศ ณ ท้องสนามหลวง เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ถึงเหตุผล “ทำไมต้องสู้เพื่อในหลวง” ว่าวันนี้ชาติต้องการพลังของประชาชน เพราะชาติคือศาสนาและพระมหากษัตริย์ เพราะเมื่อสถาบันแข็งแกร่งชาติก็จะแข็งแกร่ง และนี่คือสิ่งที่จะแยกจะออกจากกันไม่ได้ ประเทศไทยในวันนี้เกิดขึ้นมาได้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีเพราะบรรพบุรุษได้ลุกขึ้นมาต่อสู้ปกป้องแผ่นดินไทยจนมีอยู่ทุกในวันนี้ แต่การเมืองไทยในวันนี้มีแต่พวกนักการเมืองน้ำเน่าที่จ้องหากินบนผลประโยชน์ชาติซึ่งถือเป็นเรื่องที่อับอายเป็นอย่างยิ่ง
“ทำไมเราต้องสู้เพื่อในหลวง 4 ปีที่ผ่านมา ผมต้องทนเสียงก่นด่าหาว่า 'ดึงฟ้าลงต่ำ' แต่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าหากไม่มีพันธมิตรฯ วันนี้ประเทศคงไม่มีอะไรเหลือ การชุมนุม 193 วัน ที่เราเคยชุมนุม เคยพูดกันตลอดว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ที่พึ่งอีกแล้ว นอกจากพวกเรา อย่าไปปล่อยให้คนบางกลุ่มทำให้สถาบันกษัตริย์เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ เช่นเดียวกับนายฮุนเซน ที่ต้องการให้เป็นเหมือนกษัตริย์ของเขา” นายสนธิกล่าวและว่าการต่อสู้แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตและเลือดเนื้อ ก็ขอให้สถาบันเป็นพึ่งของพสกนิกร หากวันนี้สถาบันพระกษัตริย์อ่อนแอ สถาบันศาสนาก็เสื่อมถอย และวันนั้นชาติก็ล่มสลาย ดังนั้นสามสิ่งนี้ก็จะแยกขาดจากกันมิได้
ต่อมานายสนธิได้เล่าว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสรับประทานอาหารกลางวันกับเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยคนหนึ่ง เอกอัครราชทูตฯ ท่านนั้นถามตนว่าให้ช่วยอธิบายเหตุการณ์ทางการเมืองของเมืองไทยในวันนี้ให้ฟัง ตนจึงเล่าว่า
"ท่านทูตลองหลับตาจินตนาการย้อนหลังกลับไป 300 ปี ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดรถยนต์ ตัดไฟฟ้า ตัดเครื่องบินออกให้หมด เหลือแค่ช้าง ม้า วัว ควาย ปืนเอ็ม16 รถถังไม่มี เหลือแค่หอก ดาบ ง้าว ธนู ดั้ง กษัตริย์แห่งกรุงสยาม มีอัครมหาเสนาบดีอยู่คนนึง รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทมา 6 ปี แต่วันนึงถูกจับได้ว่าขี้โกงเงินพระคลังหลวง เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง พระองค์ท่านก็เลยลงโทษสถานเบา ในฐานะที่เคยเป็นอัครมหาเสนาบดี ก็ริบทรัพย์ เนรเทศออกไปนอกประเทศ อัครมหาเสนาบดีคนนี้ ... (เสียงระเบิด)"
ทั้งนี้ ในระหว่างที่นายสนธิปราศรัยในเวลาประมาณ 20.45 น.มีเสียงระเบิดดังขึ้นด้านหลังเวที ทำให้การปราศรัยชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง แต่นายสนธิ ยังคงปราศรัยต่อไป
จากนั้นนายสนธิจึงเล่าต่อว่า "อัครมหาเสนาบดีคนนี้ลี้ภัยออกไปนอกประเทศ แต่ก็ยังแอบเอาเงินคลังหลวงที่ตัวเองขโมย เอาไปให้พรรคพวกตัวเองซึ่งยังอยู่ในกรุงสยามมาก่อกวนกรุงสยามต่อไป เสร็จแล้วยังไม่พอ ยังสร้างความร้าวฉานในราชวงศ์ของพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยาม และในที่สุดตัวเองก็เดินทางมาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารของกษัตริย์เขมร ซึ่งอยู่ข้างๆ ประเทศไทย แล้วเข้าไปเป็นข้าในแผ่นดินของกษัตริย์เขมร ... ผมก็ถามท่านทูตบอกว่า ในกรณีอย่างนี้ท่านทูตจะทำยังไง ท่านทูตก็บอกว่า ในกรณีอย่างนี้ก็ไม่มีทางเลือก นอกจากจะต้องจัดการปราบคนทรยศต่อชาติอย่างเด็ดขาด เมื่อปราบคนทรยศต่อชาติอย่างเด็ดขาดแล้ว ท่านทูตก็บอกว่าพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยามก็ต้องระดมรี้พล สะสมกำลัง อาหาร เพื่อรบกับประเทศเพื่อนบ้าน ..."
ทั้งนี้ นายสนธิระบุว่าท่านทูตท่านนั้นยังกล่าวต่อกับตนเองว่าบรรดาฝรั่งหลายส่วนยังเห็นพ้องกันว่าประเทศไทยโชคดีที่ยังมีสถาบันกษัตริย์อยู่ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเหตุใดจึงมีคนไทยบางส่วนไม่เห็นความสำคัญของสถาบันกษัตริย์
นายสนธิกล่าวว่า ออกมาชุมนุมในครั้งนี้ถือเป็นการให้กำลังใจพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้เป็นที่ประจักษ์ว่ายังมีพสกนิกรยืนเคียงข้างพระองค์ท่าน และขอรบกวนพี่น้องประชาชนอีกครั้งให้มารวมพลังกันอีกครั้งในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 52 นี้
คำต่อคำ "สนธิ ลิ้มทองกุล" ปราศรัย
"พ่อแม่พี่น้องครับ พี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกคน ทุกแห่งหน ทุกตำบล ทุกสี ทุกภาค วันนี้เรามารวมตัวกันเพียงเรื่อง 2 เรื่อง เรื่องแรกคือความรักชาติของพวกเราไม่มีที่สิ้นสุด ชาติต้องมาก่อน ไม่มีอะไรจะมาก่อนชาติได้ ชาติมาก่อนสี ชาติมาก่อนพวก แต่เมื่อเอาชาติเป็นตัวตั้งแล้ว จะไม่มีสี จะไม่มีพวก และทำไมชาติถึงสำคัญ เพราะชาติประกอบด้วย 2 อย่างเท่านั้นเอง คือศาสนา และพระมหากษัตริย์ เมื่อพวกเรารักชาติ ก็เท่ากับว่าพวกเรามีศรัทธาในศาสนา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตามที่เราเคารพ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม หรือศาสนาพุทธ เราศรัทธาในศาสนา เมื่อเราศรัทธาในศาสนา ศาสนาแข็งแกร่ง สถาบันกษัตริย์ก็ย่อมแข็งแกร่งด้วย เมื่อศาสนาแข็งแกร่ง สถาบันแข็งแกร่ง ชาติก็แข็งแกร่ง พี่น้อง
เพราะฉะนั้นแล้ว ศาสนาและพระมหากษัตริย์จะแยกออกจากกันไม่ได้โดยเด็ดขาดครับพี่น้อง
ทำไมเราต้องรักในหลวง เราเชื่อในความกตัญญูรู้คุณคน พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือว่าในคัมภีร์โกรานของศาสนาอิสลาม หรือในศาสนสคริสต์นั้น ทุกศาสนาเน้นในเรื่องความกตัญญูรู้คุณ ใช่/ไม่ใช่ ประเทศไทยวันนี้มีขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ พี่น้อง มีขึ้นมาได้เพราะเลือดเนื้อของทหารหาญ วีรกษัตริย์ วีรสตรีในอดีต พี่น้อง สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ทำไมถึงยอมไสช้างออกไปขวางกั้น แล้วยอมตัวตายเพื่อปกป้องพระมหากษัตริย์ พระมหาจักรพรรดิ เพียงเพื่อให้พระมหากษัตริย์ในยุคนั้นได้มีชีวิตอยู่เพื่อเป็นมิ่งขวัญของแดนสยาม ทำไมท้าวเทพกระษัตรีสตรี ท้าวศรีสุนทร ต้องลุกขึ้นมา ที่ถลางมาสู้กับพวกพม่า เพื่อปกป้องดินแดนไทย ทำไมย่าโมต้องลุกขึ้นมา ทั้งที่เป็นผู้หญิง ถือดาบสองมือ ก็เพื่อปกป้องแดนสยามเช่นกัน ทำไมชาวบ้านบางระจันต้องลุกขึ้นมารวมพวกต่อต้านพม่า ก็เพื่อปกป้องแดนสยาม ประเทศไทยวันนี้ที่พวกเรายืนอยู่ ที่ให้พวก ส.ส.น้ำเน่าทั้งหลายได้เข้ามาขากถุยในสภาแล้วออกไปบูชาบิดาเขาที่เขมร ที่พวกเขาอยู่ได้ก็เพราะว่าคนในอดีตนั้นเขาเสียสละชีวิตกันทั้งสิ้น ไม่ว่าพระเจ้าตากสินมหาราช ไม่ว่าราชวงศ์จักรี หรือแม้กระทั่งกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท วังหน้า ล้วนแลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระเอกทศรถ พระพี่นางสุพรรณกัลยา ที่ยอมให้พม่ากักตัวเอาไว้จนตาย เพื่อให้น้องชายนั้นมีชีวิตรอดกลับมายังสยามประเทศเพื่อกู้ชาติเช่นกัน
ประวัติศาสตร์ช่วงนี้เราจะลืมได้อย่างไรพี่น้อง พี่น้องทุกคนนั่งในที่นี้มีรากเหง้าทั้งสิ้น เรามาจากพ่อ เรามาจากแม่ พ่อแม่เราก็มาจากปู่ มาจากย่า มาจากตา มาจากยาย ปู่ย่าตายายบางคนมาจากเมืองจีน บางคนมาจากเมืองแขก แต่ว่าจะมาจากไหนก็ตาม เรามีที่รากเหง้าที่มาที่ไปของพวกเรา และเมื่อมาที่เมืองไทยแล้ว เราคือข้าในแผ่นดิน เป็นพสกนิกร เรามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทำไมเราต้องสู้เพื่อในหลวง 4 ปีกว่า พี่น้อง ที่จู่ๆ ผมลุกขึ้นมาแล้วบอกว่าเราจะสู้เพื่อในหลวง ผมถูกก่นด่า ถูกกระแนะกระแหน ถูกคดีความ บอกว่าคุณจะไปสู้ให้ในหลวงทำไม ในหลวงท่านอยู่ของท่านดีๆ แล้ว ก็ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเราที่ลุกขึ้นมาสู้เพื่อในหลวง ป่านนี้เราคงไม่มีอะไรเหลือแล้วใช่ไหมพี่น้อง วันนี้
กี่คน พี่น้อง กี่คนที่บอกเราว่าให้เราอยู่เฉยๆ ก็เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม พระองค์ไม่ถือโทษโกรธใคร ใครจะว่าพระองค์ท่าน ใครจะจาบจ้วงพระองค์ท่าน ใครจะเข้าไปทำพิธีในวัดพระแก้ว ถึงพระองค์ท่านจะไม่พอพระทัย พระองค์ท่านก็ได้แต่กล้ำกลืนลงไปในพระทัยของพระองค์ท่าน แต่พวกเรามีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ใช่/ไม่ใช่ พี่น้อง ก็ไม่ใช่เพราะพวกเราลุกขึ้นมาสู้อย่างนี้หรือ
จำได้ไหมพี่น้อง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม 193 วัน ผมเคยพูดกับพี่น้องและประชาชนทั่วประเทศ ผมพูดว่าอย่างไร ผมบอกว่าพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว นอกจากพวกเราเท่านั้น พ่อแม่พี่น้องเอ๊ย...
ทำไมประเทศไทยต้องมีสถาบันกษัตริย์ ประเทศไทยต้องมีสถาบันกษัตริย์ เพราะสถาบันกษัตริย์อยู่กับเรามาเป็นพันปีแล้ว ใช่/ไม่ใช่ เหมือนกับว่าทำไมเราต้องมีพ่อแม่ เพราะพ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิดเรา และเราต้องเคารพพ่อแม่เรา ไม่ใช่เกิดมาในยุคหลานเรา ลูกเรา แล้วมันบอกว่าไม่จำเป็นต้องมีพ่อแม่แล้ว นี่ไม่ใช่สังคมไทย ใช่/ไม่ใช่
เมื่อเราต้องมีสถาบันกษัตริย์ โชคของเราที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรมครับพ่อแม่พี่น้อง ท่านรักประชาชน ท่านเป็นห่วงเป็นใยประชาชน พระองค์ท่านใช้ชีวิตของพระองค์ท่าน 60 กว่าปี ในการเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เจ็บไข้ได้ป่วย เหน็ดเหนื่อยสาหัสากรรจ์ ประหยัด มัธยัสถ์ รองเท้าที่พระองค์ท่านซ่อมแล้วซ่อมอีก ยาสีฟันที่พระองค์ท่านบีบแล้วบีบอีก พระองค์ท่านจะใช้เงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์ พระองค์ท่านคิดอยู่เสมอ เพราะเงินต่างๆ นั้นเป็นเงินซึ่งมาจากภาษีอากร
พี่น้องครับ กษัตริย์ที่มอบชีวิตของพระองค์ท่านให้แผ่นดิน ให้พวกเรา จนกระทั่งพระองค์ท่านอายุมากขึ้น พระองค์ท่านเริ่มทำงานไม่ไหว ก็ดันมามีคนมองว่าพระองค์ท่านอายุมากแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วพวกนี้อยากจะทำอะไรกับพระองค์ท่านก็ทำตามใจที่เขาต้องการ เพราะเขามามองว่าประเทศไทยนั้น กษัตริย์ควรจะเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ เหมือนนายฮุน เซน มองเห็นเจ้านโรดมสีหนุ เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ เรื่องอย่างนี้ผมคนหนึ่งไม่ยอมแน่นอน พี่น้องยอมไม่ยอม(ไม่ยอม)
วันนี้เราเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องมา ที่สำคัญที่สุด เราต้องการให้สังคมโลกได้รู้ว่า กษัตริย์ไทยนั้น องค์ปัจจุบัน เป็นกษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม และเป็นที่รักของประชาชนทั่วประเทศครับพี่น้อง 4 ปีกว่าที่ผมใส่เสื้อ"เราจะสู้เพื่อในหลวง" เราต้องอดทน ผมต้องอดกลั้น ผมต้องมีขันติ ผมต้องยอมทุกอย่าง ผมต้องยอมให้คนอย่าง นายแก้วขวัญ วัชโรทัย ดูหมิ่นเหยียดหยามผม มาตำหนิผมว่า ถ้านายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร จะมาทำพิธีในวัดพระแก้ว จะเป็นอะไรไป ผมต้องยอมให้คนอย่าง นายธงทอง จันทรางศุ ผู้ที่อ้างตัวเองว่ารู้เรื่องในวังดีที่สุด มาต่อว่าผม ว่าผมเอาพระเจ้าอยู่หัวมาแอบอ้าง ดึงฟ้าลงมาต่ำ ผมต้องยอมให้หลายคน รวมทั้งนายเสนาะ เทียนทอง ที่บอกว่า ไปสู้เพื่อพระเจ้าอยู่หัวทำไม พระองค์ท่านอยู่ของพระองค์ท่านสบายแล้วอย่าไปยุ่งกับพระองค์ท่าน ผมต้องยอมให้นายดิสธร วัชโรทัย ลูกชายนายแก้วขวัญ วัชโรทัย พูดให้สัมภาษณ์มา บอกว่า ถ้ารักในหลวง ให้อยู่กับบ้าน ไม่ต้องออกมา ผมต้องยอมทุกอย่าง ผมต้องยอมโดนคดีความ จนกระทั่งอาทิตย์ที่แล้ว สังคมโลก สังคมในประเทศไทย เริ่มจะรู้ แล้วรู้เช่นเห็นชาติว่าที่พวกเราสู้เพื่อในหลวงนั้น เราสู้มาถูกต้องแล้ว ใช่/ไม่ใช่ครับพี่น้อง
การต่อสู้ของคนเรา พี่น้องจำได้ไหม ประชาชนทุกหมู่เหล่า หลายท่านที่มาที่นี่อาจจะไม่ชอบผมเป็นส่วนตัว แต่ขอกราบเรียนพ่อแม่พี่น้องที่มาที่นี่ ที่ไม่ชอบผมเป็นส่วนตัว ว่าผมไม่เคยสู้เพื่อตัวผมเองเลย ผมไม่เคยสู้เพื่อ 76,000 ล้าน ผมไม่เคยสู้เพื่อให้ตั้งตัวผมเองเป็นประธานาธิบดี ผมสู้แม้กระทั่งเลือดตกยางออก เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 ที่ถูกรุมฆ่าด้วยกระสุนปืน 200 กว่านัด เลือดตกยางออก ผ่าตัดสมอง 43 เข็ม วันที่เสียงปืนลั่นออกมาเป็นนัดแรก ผมก้มลงไป ตั้งสติ แล้วผมบอกว่าถ้าผมต้องตายเพราะเวรกรรม ก็ขอให้ผมตายไปเถอะ แต่ขอให้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จงมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อเป็นหลักของชาติบ้านเมืองครับพี่น้อง
เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาที่นี่ พ่อแม่พี่น้อง เราไม่ได้มาเพียงแค่แสดงความรักชาติ เพราะว่าชาตินั้นประกอบด้วยศาสนา และพระมหากษัตริย์ วันใดที่พระมหากษัตริย์อ่อนแอ ศาสนาก็ต้องอ่อนแอด้วย ใช่/ไม่ใช่ เมื่อพระมหากษัตริย์อ่อนแอ ศาสนาอ่อนแอ เราไม่มีชาติเหลือให้เราอีกต่อไปแล้ว พี่น้องครับ
พี่น้อง จำได้หรือเปล่าคำพูดของผม ไม่รู้จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมบอกพ่อแม่พี่น้องว่าอย่างไร ผมบอกว่า เราสู้ครั้งนี้ สู้เพื่อให้ลูกหลานของเราได้มีที่ยืนในสังคมในอนาคต ใช่/ไม่ใช่ พี่น้อง
พี่น้องครับ อาทิตย์ที่แล้ว ผมมีโอกาสรับประทานอาหารเที่ยงกับเอกอัครราชทูตประเทศหนึ่ง ผมขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อ คุยกันไปจนกระทั่งถึงกาแฟ ท่านถามผมว่า คุณสนธิ ช่วยอธิบายเหตุการณ์การเมืองในเมืองไทยในวันนี้ให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ผมบอก เอาอย่างนี้แล้วกัน ท่านทูตหลับตาจินตนาการย้อนหลังกลับไป 300 ปี ท่านทูตตัดอินเตอร์เน็ต ตัดรถยนต์ ตัดไฟฟ้า ตัดเครื่องบินออกให้หมด เหลือแค่ช้าง ม้า วัว ควาย ปืนเอ็ม-16 รถถัง ไม่มี มีแค่หอก ดาบ ง้าว ธนู โขน ดั้ง กษัตริย์แห่งกรุงสยามมีอัครมหาเสนาบดีอยู่คนหนึ่ง รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทมา 6 ปี แต่วันหนึ่งถูกจับได้ว่าขี้โกงเงินพระคลังหลวง เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง พระองค์ท่านก็เลยลงโทษสถานเบาในฐานะที่เคยเป็นอัครมหาเสนาบดี แทนที่จะตัดหัว 7 ชั่วโคตร ใช่/ไม่ใช่ ก็ริบทรัพย์ เนรเทศออกไปนอกประเทศ อัครมหาเสนาบดีคนนี้ (เสียงบึ้ม!!) ก็มีพรรคพวก มีพรรคพวกอยู่ อยู่ในประเทศ (มีอะไรหรือเปล่า ไม่มีครับ ไม่มีครับ เป็นพวกก่อกวนใช้ประทัดยักษ์พี่น้อง อ่าวๆ โห่หน่อยๆ)
อัครมหาเสนาบดีคนนี้ลี้ภัยออกไปนอกประเทศ แต่ก็ยังแอบเอาเงินคลังหลวงที่ตัวเองขโมย เอาไปให้ใครพี่น้อง เอาไปให้พรรคพวกตัวเอง ซึ่งยังอยู่ในกรุงสยาม มาก่อกวนกรุงสยามต่อไป เสร็จแล้วไม่พอยังสร้างความร้าวฉานในราชวงศ์ของพระเจ้าแผ่นดินกรุงสยาม และในที่สุดตัวเองก็เดินทางมาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารของกษัตริย์เขมร ซึ่งอยู่ข้างๆ ประเทศไทย แล้วเข้าไปเป็นข้าในแผ่นดินของกษัตริย์เขมร ผมถามท่านทูตว่า ในกรณีอย่างนี้ท่านทูตจะทำอย่างไร ท่านทูตบอกว่า ในกรณีอย่างนี้ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องจัดการปราบคนทรยศต่อชาติอย่างเด็ดขาด เมื่อปราบคนทรยศต่อชาติอย่างเด็ดขาดแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปท่านทูตบอกว่า พระเจ้าแผ่นดินกรุงสยามต้องระดมลี้พลสะสมกำลัง อาหาร เพื่อรบกับประเทศเพื่อนบ้าน แล้วยึดประเทศเพื่อนบ้านให้มาเป็นขอบขันธสีมาของกรุงสยามครับ
พี่น้องครับ พี่น้องจะเห็นได้ชัดว่าแม้กระทั่งทูต ทูตของประเทศที่เจริญแล้วในยุโรป เขายังเข้าใจเหตุการณ์อันนี้อยู่ เมื่อเขาเข้าใจเหตุการณ์อันนี้ เขายังพูดกับผม เขาบอกว่า เมืองไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ พี่น้องถ้าฝรั่งยังเห็นว่าเมืองไทยต้องมีกษัตริย์ แล้วคนทรยศ ชาติชั่วที่คิดว่าเมืองไทยไม่จำเป็นต้องมีกษัตริย์ สมควรจะเป็นมนุษย์ไหมพี่น้อง เพราะฉะนั้นพี่น้องครับ การต่อสู่ครั้งนี้ การเชิญพี่น้องมาครั้งนี้ เพื่อเป็นพลังของแผ่นดิน ให้กำลังใจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ว่าพระองค์ท่านยังมีพวกเราอยู่ ใช่ไม่ใช่พี่น้อง
พี่น้องครับ ผมจะขอพี่น้องเรื่องหนึ่ง มากันอีกครั้งหนึ่งวันที่ 5 ธันวาคม มาพี่น้อง มากันให้มากกว่านี้อีก 10 เท่า 100 เท่า มาเข้าแถวตั้งแต่หน้าพระบรมมหาราชวัง สวนจิตรลดา ยาวมาจนกระทั่งถึงพระบรมมหาราชวัง ให้คนเป็นแสนเป็นล้าน ให้ลูกหลานเห็น ให้ประชาคมโลกเห็น ให้ต่างชาติเห็น ให้ทุกๆ คนเห็นว่าพวกเรารักพระเจ้าอยู่หัว ครับ ขอบพระคุณครับ"