xs
xsm
sm
md
lg

กต.เล็งรื้อข้อตกลงเขมร-“คำนูณ"แนะบี้“ฮุนเซน”ถึงที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต
กระทรวงต่างประเทศ เดินหน้ามาตรการตอบโต้เขมร เล็งรื้อข้อตลงระหว่าง 2 ชาติ โดยเฉพาะยุค “แม้ว”หากมีประโยชน์ทับซ้อนพร้อมเลิกทันที ขู่หากยืนยันไม่ยอมส่ง “นช.แม้ว”ให้ไทย จะตอบโต้โดยไม่ส่งนักโทษกัมพูชาให้เช่นกัน ด้าน “คำนูณ”ชมเชย “มาร์ค”ตอบโต้เร็ว ย้ำต้องเดินหน้ากดดันให้ถึงที่สุด เชื่อ“แม้ว-ฮุนเซน”รวมหัวรุกหนัก พ.ย.-ธ.ค. ก่อนเส้นตายจดพระวิหารมรดกโลก-ยึดทรัพย์



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “คนในข่าว”   

 
รายการ “คนในข่าว” ทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ตั้งประเด็นสนทนาถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชา อันเนื่องมาจากกรณีที่สมเด็นฮุนเซน แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา โดยมีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขาณุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหาภาควิชาการ และนายสุริยะใส กตะศิลา ว่าที่เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ และผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาร่วมรายการ

นายชวนนท์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลไทยมีมาตรการตอบโต้กัมพูชา ด้วยการเรียกเอกอัคราชทูตกลับ ตามด้วยมาตรการอีกหลายข้อนั้น เนื่องจากเราได้อดทนมานานแล้ว และเคยเตือนสมเด็จฮุนเซนแล้ว ตั้งแต่ตอนที่มาประชุมอาเซียนซัมมิต แต่ทางกัมพูชาก็ยังแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณให้เป็นที่ปรึกษา แถมยังบอกว่าจะไม่ส่งตัวให้กับทางการไทยไม่ว่ากรณีใดๆ ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย เราจึงต้องมีมารตรการตอบโต้

นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการต่อไปของรัฐบาล จะมีการทบทวนพันธกรณีความร่วมมือต่างๆ กับกัมพูชา โดยเฉพาะกรณีที่นายฮุนเซนแข็งกร้าวกับประเทศไทย เราจะวิเคราะห์ว่ามาจากสาเหตุใด หากมาจากความไม่เข้าใจข้อมูล เราก็จะชี้แจง หรือเกิดจากความไม่พอใจรัฐบาลไทยที่การเจรจาไม่สมประโยชน์ ไม่ว่าเรื่องทางบกทางทะเล เรื่องจดทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเราก็ค้านมาตลอด เราจะดูว่าตรงนี้มีปัญหาหรือไม่ มีประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ การเจรจาข้อตกลงเหล่านี้ถ้ามีเหตุอะไรที่น่าสงสัยเราจะหยุดเจรจาก่อน แต่อะไรที่เป็นประโยชน์และมีความโปร่งใส ก็จะเดินหน้าต่อ ถ้าอันไหนยังระแวงกันอยู่ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเดินหน้าต่อไป ซึ่งเราจะศึกษารายละเอียดก่อน ทั้งนี้ เป็นมาตรการตอบโต้ตามที่เราแถลงออกมา

นายชวนนท์ กล่าวว่า พันธสัญญาเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีอยู่นั้น ถ้าทางกัมพูชาบอกว่าจะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณให้เราไม่ว่ากรณีใดๆ ก็เท่ากับว่าพันธสัญญานั้นไม่มี ดังนั้นต่อไปถ้ามีนักโทษกัมพูชาเราก็จะไม่ส่งให้เขา ทั้งนี้เราจะใช้มาตรการตอบโต้กัมพูชา ไปจนกว่าความรู้สึกของคนไทยจะได้รับการบรรเทา ซึ่งเขาต้องแสดงออกมา และเราจะรอดูท่าทีอีกครั้ง

ด้านนายคำนูณ กล่าวว่า มาตรการตอบโต้ที่รัฐบาลออกมาในวันนี้ ถือว่าตอบโต้ได้เร็ว และทำได้ดี แต่อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปอีก นายกฯ จะต้องเดินหน้าต่อ เกมๆ นี้เดินกันด้วยชีวิต มีประเทศชาตและราชบัลลังก์เป็นเดิมพัน เมื่อเดินหน้าต้องเดินให้สุด แต่ไม่ได้หมายถึงว่าต้องรบราฆ่าฟันกัน แต่เดินหน้านโยบายที่ทำให้สุด โดยมีมาตรการต่อเนื่อง ไม่ถอยง่ายๆ ซึ่งในชั้นต้นนี้ อยากให้เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ การที่นายกฯ เดินหน้าได้อย่างนี้ขอแสดงความชื่นชม

นายคำนูณ กล่าวต่อว่า สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น อยากพูดไว้เป็นปฐมว่า ไม่รู้เอาความแค้นส่วตัวหรือมิจฉาทิฐิใด มายอมรับการแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์ของประเทศเพื่อยบ้านได้ พ.ต.ท.ทักษิณประกาศมาตลอดว่ามีความจงรักภักดี แต่พอนายฮุนเซนซึ่งเป็นอดีตคอมมิวนิสต์ที่เอาเจ้ากลับมาปกครองกัมพูชา จะลงนามแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ได้ แต่ทำไมเอากษัตริย์เขมรมาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณจะเลือกเป็นข้า2เจ้าบ่าว2นาย อย่างนั้นหรือ เมื่อดูจากทวิตเตอร์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงว่าไม่รู้สำนึกเลย ยังบอกว่าขอบคุณที่ได้รับการแต่งตั้งจาก “คิงสีหมุนี” แถมยังตัดพ้อว่าถูกยึดพาสปอร์ด ถ้ายึดสัญชาติได้คงยึดไป เพราะทำงานมากไป ซึ่งอยากบอก พ.ต.ท.ทักษิณว่า ถ้าจะยึดสัญชาติไม่ใช่ยึดเพราะทำงานมากไป แต่ยึดเพราะขายชาติ

นายคำนูณ กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากมให้รัฐบาลทำต่อ ก็คือการถอนวาระการพิจารณากรอบข้อตกลงคณะกรรมาธิการเขตแดนไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ออกจากที่ประชุมรัฐสภาในสัปดาห์หน้า นอกจากนั้นให้พิจารณาเลิกบัทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)บางฉบับ โดยเฉพะเรื่องการแบ้งปันผลประโยชน์ทางทะเลที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำกับนายฮุนเซน เมื่อปี 2544

นายคำนูณได้วิเคราะห์การเดินเกมของนายฮุนเซนว่า ขณะนี้ถือว่า ฮุนเซนเล่นไพ่ทักษิณชนิดหงายไพ่เล่น ทั้งนี้เพื่อกลบปัญหาภายในบางอย่างของกัมพูชา โดยเฉพาะนายฮุนเซนที่มักจะหงอเวียดนามซึ่งมีอิทธิพลเหนือนายฮุนเซน จึงหันมาก้าวร้าวกับไทยเพื่อกลบเกลื่อนการหงอเวียดนาม

ส่วนปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทพระวิหาร ถ้าไม่เรียบร้อยก่อนเส้นตายในเดือน ก.พ.2553 ก็มีผลต่อการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งจะทำให้สูญเงินไม่น้อย และเป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลไทยขณะนี้ พูดยากกว่ารัฐบาลที่มี พ.ต.ท.ทักษิณสนับสนุน เขาจึงเห็นว่า ถ้ารัฐบาลประชาธิปัตย์ไปเสียได้ และให้รัฐบาลใหม่ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณหนุนหลังอยู่ก็จะก็จะง่ายสำหรับเขา การเปิดเกมรุกของฮุนเซนจึงสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ประกาศจะชุมนุมใหญ่เพื่อล้มรัฐบาลให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ เพราะต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยฮุนเซนต้องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารให้ได้ ขณะที่ทักษิณต้องการเงินที่ถูกอายัด 7.6 หมื่นล้านคืน และฮุนเซนมองเห็นว่าโอกาสที่เครือข่ายทักษิณจะล้มรัฐบาลประชาธิปัตย์มีความเป็นไปได้ เขาจึงยอมลงทุนหงายไพ่เล่น ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองและสถานการณ์ชายแดนในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ตึงเครียดขึ้นแน่นอน ถ้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ยอมทำอะไรก็จะถูกลดเครดิตลงเรื่อยๆ แต่ถ้านายอภิสิทธิ์แข็งขึ้นมา เขาก็ประเมินว่าความขัดแย้งวันนี้เป็นแค่เรื่องชั่วคราว และคงไม่ถึงขั้นต้องรบกัน ถ้าสู้จนถึงที่สุดแล้วได้ทักษิณกลับคือมาก็คุ้ม แต่ถ้าไม่ได้ก็ค่อยพลิกประเด็นใหม่

นายคำนูณ กล่าวต่อว่าเอ็มโอยู ปี 2543 เสี่ยงต่อการถูกตีความว่า เป็นการยอมรับแผนที่ 1 : 200,000 เพราะมีหลักฐานใหม่ เป็นหนังสือลับภายใน ของสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ม.ย. 2543 ลงนามโดย นายวรากรณ์ สามโกเศ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง มีข้อความชัดเจน ว่า พื้นฐานทางกฎหมาย การสำรวจและปักปันเขตุแดนทางาบก จะดำเนินการโดยใช้เอกสาร ตามอนุสัญญาฉบับปี ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญาฉบับปี ค.ศ. 1907 และแผนที่ ที่แสดงอัตราส่วน 1 : 200,000 ที่จัดทำขึ้นตามผลงานการปักปันเขตแดนของคณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีน ดังนั้น เอ็มโอยู 2543 ข้อ 1ค หมายถึงแผนที่ 1 : 200,000

ทั้งนี้ตนก็เข้าใจเหตุผลทางการเมืองจะให้ นายกฯ เอ่ยปากยอมรับ ว่า แผนที่ 1 : 200,000 ทำในสมัยพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ได้ เอาล่ะในเมื่อไม่ยอมรับก็ไม่ว่ากัน แต่ เอ็มโอยู 2544 เรื่องแบ่งผลประโยชน์ทางทะเล และ ทีโออาร์ 2546 เรื่องกำหนดแผนแม่บทในการ ปักหลักเขตุแดนที่กำหนดให้ใช้แผนที่ 1 : 200,000 สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ไปลงนามไว้ ให้ยกเลิกพวกนี้ก่อนไม่ได้หรือ

นายคำนูณ กล่าวทิ้งท้ายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดเกมรุกเต็มที่ พยายามรวมกำลังติดต่อทุกคนที่จะสามารถทำได้ หากจะเปรียบในวรรณคดี ก็เปรียบได้กับสามก๊ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ ดูยิ่งใหญ่ แต่หากถูกเผา ก็มอดทั้งกองทัพ ช่วง1-2เดือนที่ผ่านมา ทุกคนเปิดโฉมหน้าออกมาให้เห็นหมดแล้ว ดังนั้นนายกฯต้องเผา คำว่าเผาในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า จะต้องใช้ความรุนแรง ฆ่าฟันกัน แต่ต้องใช้จังหวะนี้ ดำเนินการให้เต็มที่ ที่สำคัญวันนี้ทำได้ดี แต่อย่าปล่อยให้นาทีทองผ่านไป เหมือนช่วงเดือนเมษา เมื่อเดินแล้วต้องเดินต่อให้สุด

ด้านนายสุริยะใส กล่าวว่า นายฮุนเซนกล้าเล่นเกมนี้ เพราะคิดว่านายอภิสิทธิ์ยังเด็ก และคิดว่าจะไม่กล้า แต่เมื่อถูกตอบโต้ออกไปวันนี้ ก็เป็นเรื่องที่เขาคาดไม่ถึง และคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจคิดผิดที่ใช้บริการฮุนเซน ส่วนปฏิกิริยาต่อไปของฮุนเซน อยู่ที่นายกฯ อภิสิทธิ์ ถ้านายกฯ แข็ง นายฮุนเซนก็อาจจะยอมดื้อๆ แต่อีกทางหนึ่ง ถ้าเขายังเชื่อว่านอมินีทักษิณยังอยู่ เขาก็จะเดินหน้าต่อ แต่ต้องดูอีกสักระยะ และให้ประชาชนไตร่ตรองดู นี่แค่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านยังสร้างปัญหากับเพื่อนบ้านได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นรัฐบาลจะชักศึกเข้าบ้านขนาดไหน

นายสุริยะใส กล่าวว่าพรุ่งนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะแถลงจุดยืน เรื่องเขาวิหาร เนื่องจากมีข้อมูลใหม่ ประกอบกับเรื่อง ฮุน เซน ตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ ซึ่งเรากังวลว่า เรื่องนี้อาจถูกขยายความ เป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมือง ทั้งนี้หากมีคนใส่เสื้อเหลือง แล้วไปเผาสถานทูตกัมพูชาในคืนนี้ แล้วบอกเป็นพันธิมตรฯ เราก็ซวยได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นการชิงความได้เปรียบ เสียเปรียบ สร้างคะแนนนิยมทางการเมือง เพราะจุดยืนของเราถ้ารัฐบาลทำดี ก็สนับสนุน อย่างวันนี้เราก็ขอชมว่า นายกฯ ทำถูกตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้อง

นอกเหนือจากนี้ก็ เรียกร้องให้รัฐบาลตั้งหลัก แปลวิกฤติเป็นโอกาส ใช้โอกาสนี้แก้ปัญหาเขาวิหารด้วย ซึ่งมันเกี่ยวเนื่องกันอยู่ เห็นชัดเจนว่าที่ ฮุน เซน เดินเกมมาทั้งหมด มี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเงาติดตามตลอด นอกจานี้ยังมีผลประโยชน์ทางการเมือง ใช้กัมพูชา กดดันไทย ดังน้นต้องตั้งหลัง แล้วสื่อสารกับต่างประเทศ อย่างเป็นขั้นตอน โอกาสที่ดีของรัฐบาลก็มีเยอะ เช่นนายกฯ และ ก.ต่างประเทศ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ตนเชื่อว่าไม่มี อีกอย่างต่อนนี้ ประธานอาเซียนก็เป็นนายกของไทย เลขาธิการอาเซียน ก็เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ โอกาสดีๆ อย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว
คำนูณ สิทธิสมาน
สุริยะใส กตะศิลา

กำลังโหลดความคิดเห็น