ณ บ้านพระอาทิตย์"
โดย...ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
การเคลื่อนไหวของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และนายฮุน เซน กำลังทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในประเทศไทย ที่กำลังให้คนไทยเริ่มรวมตัวด้วยความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา ได้ให้กษัตริย์แห่งกัมพูชาให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา
การเดินเกมนี้กำลังทำให้ ทักษิณ และ ฮุน เซน กอดคอกันตายทั้งคู่!
ฝ่ายนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กำลังมีคะแนนความนิยมตกต่ำลงเรื่อยๆ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในขณะที่ฮุน เซน ก็กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการถูกยกเลิกข้อผูกพันต่างๆและความช่วยเหลือจากประเทศไทย และยังถูกแรงกดดันอย่างหนักจากการเมืองและการทหารในกัมพูชาและนอกประเทศกัมพูชาเอง
นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร กระทำย่ำยีหนีศาลฎีกาซึ่งพิพากษาตัดสินคดีความภายใต้ “พระปรมาภิไธย” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทย แต่กลับไปรับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐบาลเขมรด้วยพระบรมราชโองการของกษัตริย์เขมร
เพียงแค่นี้คนไทยทั่วไปก็รับไม่ได้อยู่แล้ว เพราะนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่ตัดสินใจเป็นขี้ข้าของเขมรด้วยพระบรมราชโองการของกษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา แต่กลับไม่ยอมรับศาลฎีกาที่กระทำภายใต้ “พระปรมาภิไธย” แห่งราชอาณาจักรไทย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศนั้นอยู่ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงในเวลานี้
ด้านหนึ่งก็คือความขัดแย้งในเรื่องเส้นเขตแดนทางบก โดยเฉพาะการใช้แผนที่ และการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบให้เป็นมรดกโลกของประเทศกัมพูชา
ด้านหนึ่งก็คือการถูกรุกล้ำและยึดครองพื้นที่ของชาวกัมพูชาในพื้นที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นดินแดนของไทย
ด้านหนึ่งก็คือผลประโยชน์อย่างมหาศาลในพลังงานในอ่าวไทยที่มีมูลค่าอย่างมหาศาล ซึ่งนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ก็มีแผนที่จะลงทุนสัมปทานในเกาะกงและพลังงานในอ่าวไทยด้วย ทั้งๆที่เป็นคนที่ริเริ่มในการทำบันทึกความเข้าใจในการที่จะจัดตั้งคณะกรรมการสำรวจเขตแดน และแบ่งปันผลประโยชน์ทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชาเสียเอง
การที่นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร เคยเป็นนายกรัฐมนตรี รู้ข้อมูลภายในทุกอย่างทั้งในด้าน ความมั่นคง เศรษฐกิจ แต่กลับไปยืนอยู่ข้ากัมพูชาซึ่งมีผลประโยชน์ที่ตรงกันข้ามกับประเทศไทย เพียงประการแค่ประการนี้ ย่อมมีคนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยได้ว่า นักโทษชายทักษิณจะทรยศชาติหรือไม่?
ตามซ้ำมาด้วยปรากฏการณ์ “ผีเจาะปาก” นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่พูดผ่านนิตยสานไทมส์ออนไลน์ และวิทยุชุมชนทีได้บังอาจ เหิมเกริม พูดถึงเรื่องการสิ้นพระชนม์อย่างที่คนไทยไม่สามารถจะยอมรับได้!
นักโทษชายทักษิณ กับ ฮุน เซนจึงกำลังอยู่ในเรือลำเดียวกัน ถลำลึกดิ่งในหุบเหวของสถานการณ์อันเลวร้าย หวังเพียงประการเดียวคือการหยุดอำนาจรัฐบาลไทยชุดนี้ให้เร็วที่สุด
คำถามที่ประชาชนชาวไทยต้องถามไปยังนักโทษชายทักษิณ ชินวัตรข้าในขอบขันฑสีมาของราชอาณาจักรกัมพูชา หากมีอำนาจทางการเมืองกลับมาในเมือเมื่อใด ผลประโยชน์ที่ขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาเวลานี้ ไม่ยุติลงด้วยการยกผลประโยชน์ทั้งหลายให้เขมรหรอกหรือ?
ด้วยเหตุนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงได้จัดการชุมนุมด้วยสันติวิธีในวันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน 2552 ตั้งแต่ 16.00 น. – 22.00 น. เพื่อ “รวมพลังแผ่นดิน พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ณ ท้องสนามหลวง ประกาศเจตนารมณ์ “ศักดิ์ศรีประเทศไทย อย่าให้ใครมาย่ำยี” เพื่อเป็นการแสดงสัญญลักษณ์ให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลกว่า คนไทยรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ และพร้อมจะรักษาเกียรติภูมิของชาติด้วยความสามัคคีและเป็นเอกภาพ
งานนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้ประกาศเชิญคนทุกสี ทุกศาสนา ทุกเพศ ทุกวัย ทุกหมู่เหล่า ได้เข้าร่วมงานนี้กันอย่างพร้อมเพรียง โดยละวางความเชื่อและความแตกต่างทางการเมืองออกไปก่อน แล้วแสดงสัญญลักษณ์ของคนในชาติเพื่อเอาผลประโยชน์แห่งชาติเป็นที่ตั้ง
วันนั้นเราจะตั้งจิตอธิษฐานจากพระแก้วมรกต ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง พระสยามเทวาธิราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเมืองรอบท้องสนามหลวงช่วยขจัดภัยพาลในแผ่นดิน ช่วยปกป้องรักษาประเทศชาติ และร่วมกันตั้งจิตด้วยสมาธิของพสกนิกรชาวไทยเพื่อถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงและทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
เราจะร้องเพลงแห่งความรักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยความสามัคคีเป็นปึกแผ่นในฐานะที่เป็นพสกนิกรชาวไทยที่ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
การจัดกิจกรรมรวมพลังแผ่นดินในครั้งนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ออกมาเป็นแถลงการณ์ฉบับที่ 6/2552 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งปรากฏว่ามีคนเข้ามาชมในเว็บไซต์ของผู้จัดการในข่าวนี้ถึงเมื่อวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2552 ถึง 72,644 คน
มีความเห็นของคนที่โพสต์ข้อความแสดงความเห็นข่าวดังกล่าวมีมากถึง 491 ความเห็น และมีความเห็นที่มีผู้อ่านโหวตคะแนนให้สูงสุดนั้น มีข้อความที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ความเห็นที่ 28
ผมใส่เสื้อแดงไปได้ไหม (อันนี้ถามจริงๆ) ถ้าได้ผมขอเชิญเสื้อน้ำเงินและเสื้อ
ขาวไปด้วย ให้มันรู้ว่าคนไทยถึงแบ่งเป็นสี แต่เมื่อรวมตัวกันก็กลายเป็นสีธงชาติไทย ให้มันรู้ว่าเรื่องของไทย ไม่รบกวนให้ใครมาเจื......อ,,,,,,ก
เสื้อแดง
ความเห็นที่ 78
ไม่ควรใช้คำว่า "ทุกสี" อีกต่อไปครับ เรามีสีเดียวกันทั้งชาติครับ
ทุกคนต้องสามัคคีกัน อย่าไปแบ่งฝ่ายอีกต่อไป เรื่องความเห็นทางการเมือง เป็นรองไปแล้วครับ ควรร่วมมือร่วมใจกันขจัดสิ่งเลวร้ายของชาติที่เกิดขึ้นในเบื้องหน้าเราก่อนครับ เรื่องอื่นๆ เอาไว้เสร็จศึกแล้วค่อยมาพิจารณากันใหม่ก็ไม่สายครับ
ถ้าเรายังมีบ้านอยู่ ใครจะอยู่มุมใด หรือ ห้องใด ของบ้าน มันก็คือบ้านของพวกเราครับ ช่วยกันเรียกความ สงบ และ อบอุ่น ให้กลับมายสู่บ้านของเราด้วยครับ
ขึ้นให้ด้วยครับ
ความเห็นที่ 84
ผมสีแดงอะครับ แต่อยากไปด้วย ถ้าใส่สีแดงปะปน จะปลอดภัยมั้ยครับ แดงกลับใจ
ความเห็นที่ 132
อยากให้ใช้ชื่องานว่า "รวมพลังคนรักชาติไทย" ในเวที ในรถปราศัย ไม่ใช้ป้าย พธม เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นความสามัคคี ไปแบ่งแยกฝักฝ่าย ไม่แบ่งสีเสื้อ ใครจะใส่เสื้อสีอะไร ไปร่วมได้ทุกคนขอเชิญชวน คนรักชาติไทย ทุกคน เข้าร่วมแสดงพลังสามัคคี
ความเห็นที่ 112
วันที่ 15 พ.ย. วันรวมชาติ รวมสีครับ ผมเสื้อแดง ตาสว่างแล้วครับ โง่อยู่ตั้งนาน คนไทย
ความเห็นที่ 63
"ทุกสีเต็มแผ่นดิน" 15/11/2552 สันติภาพ
วันนี้ เพราะการกระทำของ ทักษิณ-ฮุน เซน แท้ๆ จึงทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยหูตาสว่าง เกิดความคิดเลิกแบ่งค่าย เลิกแบ่งสี และหันกลับมาสร้างความสามัคคีเพื่อผลประโยชน์ของชาติต่อต้านทรราชย์ของแผ่นดินร่วมกัน !
