xs
xsm
sm
md
lg

ซัดพัลลภหยามทหารไทยพล่ามมั่วถ้าทำสงครามจะรบแพ้เขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาระบุว่า หากเกิดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชาว่าทหารจะแพ้ทหารกัมพูชาว่า ไม่น่าเชื่อว่า คำพูดเช่นนี้จะออกมาจากปากของนายทหารระดับพลเอกของกองทัพไทย คำพูดเช่นนี้ ถือว่าเป็นการพูดดูถูกเกียรติศักดิ์ เกียรติภูมิของตัวเอง ดูถูกกองทัพของตัวเอง และประเทศของตัวเอง ไม่ทราบว่านายทหารที่ประจำการ จะรู้สึกอย่างไรกับคำพูดของทหารระดับพลเอกเช่นนี้
นายเทพไท กล่าวว่า ศักยภาพของกองทัพไทยไม่น้อยกว่าใครในภูมิภาคนี้ เพียงแต่ยุคนี้ไม่ใช่ยุคสงครามที่ต้องใช้กำลังเข้าประหารกัน สถานการณ์โลก สถานการณ์บ้านเมืองเลยจุดนี้มาแล้ว รัฐบาลไทยไม่ต้องการทำสงครามกับประเทศใดๆ แม้จะรู้ว่าเมื่อประกาศทำสงครรมแล้วสามารถที่จะเอาชนะประเทศคู่สงครามได้ แต่การสงครามนั้นไม่ได้มีฝ่ายแพ้หรือชนะ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ได้นำมาซึ่งความเสียหายกับประเทศคู่สงครามไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะ ยุคนี้สังคมโลกจึงเลี่ยงที่จะใช้กำลังใช้อาวุธ การจัดงบด้านการทหารของประเทศต่างๆ ปรับที่จะให้กองทัพเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การที่พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ออกมาพูดเช่นนี้ไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริง และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงการดูถูกประเทศตัวเอง
วันนี้ต้องถามพล.อ.พัลลภว่า เป็นทหารของประเทศไทย หรือว่าเป็นทหารของ ประเทศอื่น ฉะนั้นรัฐบาลไม่ว่าสถานการณ์จะตึงเครียดเลวร้ายอย่างไรก็ตาม รัฐบาลหลีกเลี่ยงการใช้กำลังหรือสงครามอย่างที่สุด แม้แต่การปิดพรมแดน ตามมาตรการทางการทูตแบบสากลขั้นสูง นายกรัฐมนตรียืนยันชัดเจนว่าจะไม่มีการปิดพรมแดนเพราะจะเสียหายกับประชาชน แต่การทำสงครามคือ ความเสียหายมากกว่าพฤติกรรมใดๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งมากกว่ามาตรการทางการทูต และไทยจะไม่เข้าสู่สงครามตามที่พล.อ.พัลลภท้าทาย โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงทัศนคดีการแบ่งแยกระหว่างความเป็นชาติ กับตัวบุคคล ของกลุ่มนายทหารอาวุโส และกลุ่มนายทหาร ตท.10เพื่อนร่วมรุ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายเทพไท กล่าวว่า อยากให้สังคมได้ตรวจสอบอุดมการณ์ของทหารเหล่านี้ว่า เปลี่ยนแปลงหรือไม่ หลายคนเคยถือน้ำพิพัธสัตยา เคยถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าธงชัยเฉลิมพลมาแล้ว แม้ว่าจะเป็นทหารนอกราชการ ความเป็นทหารยังคงอยู่ในสายเลือดไม่มีการละทิ้ง แต่คนเหล่านี้กลับละทิ้งอุดมการณ์ศักดิ์ศรีของ ความเป็นทหารไทย รับใช้คนๆ เดียวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ อยากให้คนเหล่านี้ทบทวน จุดยืนของตัวเองว่าความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กับความภักดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้เลือกว่าจะยืนอยู่ฝ่ายไหน
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ากรณีนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ระบุผ่านสื่อว่า สมเด็จฮุนเซน จะเข้ามามีส่วนช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ คืนสู่อำนาจ ซึ่งสอดรับการให้สัมภาษณ์ของนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.กับสื่อต่างประเทศ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาว่ามีการลักลอบส่งอาวุธขนาดเบาจากกัมพูชาเข้ามาไทย ผ่านผู้สนับสนุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในภาคอีสานโดยยืนยันว่ามีกลุ่มที่พร้อมจะใช้กำลังโค่นล้มรัฐบาล เพื่อนำพ.ต.ท.ทักษิณกลับสู่อำนาจในไทย เรื่องนี้อยากเรียกกร้องให้ นายประชา และนายจักรภพ ยืนยันสิ่งที่ระบุว่าเป็นจริงหรือไม่ หากเป็นจริงตามนั้นเท่ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวข้องกับเหตุจราจลเดือนเมษายน แต่ เท่ากับว่าเข้าข่ายกบฎ มีการยืมมือจากต่างชาติเข้ามาล้มรัฐบาล
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า มีการวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากพนมเปญโพสต์ ว่าความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชานั้น มีพ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลัง ส่วนตัวขอตั้งข้อสังเกตด้วยว่าเป็นการกระทำที่สมเด็จฮุนเซนต้องการตอบแทนบุญคุณ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปร่วมแทรกแซงทางการเมืองของกัมพูชาเมื่อปี 2537 ใช่หรือไม่
นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่าจากการติดตาม ผลการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค วันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอาเซียน ได้กล่าวปาถกฐาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ที่เข้าฟัง ทั้งผู้นำภาคธุรกิจ ผู้นำประเทศคู่เจรจา ที่ลุกขึ้นยืนปรบมือให้เกียรติ ซึ่งหลักสากลคือการแสดงความ ยอมรับอย่างสูง และการตอบรับของนายบารัค โอบามา ประธานธิบดีสหรัฐอเมริกา ในการหารือร่วมกับนายอภิสิทธิ์ในฐานะประธานอาเซียนเพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนา ส่งผลให้ประเทศอาเซียนได้รับความไว้วางใจ และสร้างความมั่นใจในการทำงานร่วมกันระหว่าง 2 ภูมิภาค
ผลการประชุมดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา และสมเด็จฮุนเซน ที่พยายามสร้างสถานการณ์และความเคลื่อนไหว โดยสัมภาษณ์ให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย เพื่อต้องการให้ประเทศไทยเสียหน้าในที่ประชุมสุดยอดผู้เอเปคนั้นไม่ประสบความสำเร็จ เพราะการประชุมดังกล่าวไม่มีผู้นำประเทศใดหยิบยกขึ้นมาหารือ
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังกลุ่มที่สร้างสถานการณ์ ให้ยุติการ กล่าวหาประเทศไทย และการกักขังชาวไทยในประเทศกัมพูชา เพราะขณะนี้มีหลักฐานว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะหวังผลทางการเมือง ไม่ได้มีความผิดตามที่ระบุ ซึ่งอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลกัมพูชาให้ปฏิบัติตามหลักสากล ที่อนุญาตให้ไทย เข้าไปดูแลความปลอดภัยและเข้าเยี่ยมคนไทยได้ หากไม่ยอมและเกิดเหตุร้ายกับคนไทย อาจทำให้ไทยมีมาตรการตอบโต้ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น