“ภูวดล” สับเละไม่มีนักการเมืองชาติไหนเลวบัดซบเท่านักการเมืองไทยอีกแล้ว เรียกร้อง นายทหาร พิสูจน์ความจงรักภักดีอย่างที่เคยถวายสัตย์ ปกป้องราชสำนักให้พ้นภัย “เพ็ญ” ชี้ปัญหาใหญ่สังคมไทยไม่ใช่แค่แก้ รธน.ฟอกมาร แต่หมายถึงการขับไล่รัฐบาลเฮงซวย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย
เมื่อเวลา 22.35 น.วานนี้ (28 พ.ค.) ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า รัฐไทยที่นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พยายามยกไปพูดกับสมาคมนักข่าวต่างประเทศนั้น ไม่ได้รู้จริงเลย ปัญหาคือว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่รู้กำพืดตัวเอง ก็พยายามอวดตัวเองว่าคุณรู้ จะบอกให้ว่าผู้สื่อข่าวต่างประเทศเกือบทุกคนที่มาอยู่ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นคนที่รู้เรื่องภูมิภาคศึกษาอย่างดี เชื่อว่าบางคนเก่งกว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยของเราด้วยซ้ำ ฉะนั้น เมื่อทันทีที่นายจักรภพพูดอย่างนั้น เขาก็ต้องตะลึง เพราะรัฐไทยไม่ว่าจะเรียนจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศสกุลไหน
ประเด็นต่อไป คือ วันนี้รัฐไทยเสื่อมทรุดเต็มที เพราะไอ้ทุนนิยมสามานย์ ในอดีตเรามีทุนศักดินาไม่มีใครเถียง นักวิชาการไทยหลายคนพยายามตัวเองขึ้นมาเป็นกูรู คือไม่รู้อะไรเลย แล้วให้ลูกศิษย์ยกหางตัวเอง แล้วก็สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยกันเล่นคำพูดมาตลอด เพราะฉะนั้นตรงนี้ทำให้วิชาการเราอ่อนด้อย ทำให้นักการเมืองที่ฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งไอ้หน้าเหลี่ยม ซึ่งมีกุนซือหลายคนที่เก่งประวัติศาสตร์ ชอบประวัติศาสตร์และมาร์กซิสม์ก็เข้ามาละเลงจนเละ
นายภูวดล กล่าวด้วยว่า วันนี้เรื่องเศรษฐกิจ ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าสงสาร เป็นประเทศที่ปลูกข้าวมากกว่าประเทศใดๆ ในโลก ก่อนหน้านั้นข้าวส่วนใหญ่ผลิตที่ลุ่มแม่น้ำอิรวดี อังกฤษก็บุกพม่าเพื่อเอาข้าวกับไม้สัก วันนี้คุณถึงไม่แปลกว่าทำไมพม่ากลัวที่สุดไม่ให้มหาอำนาจเอาเรือเข้าไปในน่านน้ำพม่า เพราะประวัติศาสตร์สอนพม่าให้จำจนตาย รุ่นแล้วรุ่นเล่า
นายภูวดล กล่าวต่อว่า พอมามองบ้านเรา ประเทศไทยน่าสงสาร ประเทศไทยตั้งแต่วินาทีแรกที่ปลูกข้าวขายให้ฝรั่งกิน ฝรั่งไม่ได้เอาไปขายกิน แต่เอาไปขายให้กับจับกังซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกจีน หรืออินเดียโพ้นทะเล ที่ตะวันตกเอามาใช้เป็นแรงงาน พวกนี้กินขนมปังไม่เป็น กินเป็นแต่ข้าวต้ม ข้าวสวย การทำนาข้าวครั้งแรกที่ทำธุรกิจการค้า คือคนจีนสิงคโปร์ ที่มาสร้างนาข้าวที่แม่น้ำบางปะกงไปคลองแสนแสบ
ความจริงแล้วฝรั่งไม่ได้ผูกขาดการขายข้าว แต่จริงๆ คือคนจีนแต้จิ๋วทั้งนั้น แล้วก็ส่งไปขายตลาดใหญ่ที่สิงคโปร์ และฮ่องกง ตั้งแต่ ค.ศ.1856 มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งแปลกแต่จริงคนผูกขาดข้าวของโลกรุ่นแล้วรุ่นเล่าอยู่ในมือจีนแต้จิ๋วทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นวันนี้คุณจะไม่แปลกว่าข้าวทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้สร้างความมั่งคั่งให้กับกลุ่มทุนต่างๆมากมาย
นายภูวดล กล่าวว่า นี่คือความฉิบหายของประเทศไทยเพราะเรามีนักการเมืองที่โง่และอวดเก่งเต็มไปหมด เช่น ด็อกเตอร์หัวหมาก นี่ก็จ้างเพื่อนของตนทำวิทยานิพนธ์ให้ นักการเมืองไทยเลวบัดซบที่สุดที่เคยเห็นมา
ไม่มีนักการเมืองไหนในเอเชียที่เลวบัดซบเท่านักการเมืองไทย ไปเที่ยวต่างประเทศ ก็ไปล้างผลาญเงินภาษี บอกไปดูงาน ก็ไปขนของหนีภาษี ไปเล่นไพ่ หลอกผู้ช่วยเลขาทั้งหลายไปทำมิดีมิร้าย นี่คือประเทศไทย ประเทศอันเป็นที่รักยิ่งของคุณ ที่เรียกร้องนักหนาให้มีระบอบประชาธิปไตย ประชาธิปไตยเฮงซวยอย่างนี้ผมว่าประชาธิปไตยในติมอร์ตะวันออก ยังดีเสียกว่า
“ผมไม่ขอพูดกับชาวบ้าน ขอพูดกับบรรดานายทหารนายพลในกองทัพไทย คุณเติบโตมาวันนี้ดื่มน้ำสัตย์สาบาน ทำพิธีถวายธงชัยเฉลิมพลของคุณกี่ครั้งในชีวิตคุณกว่าจะปลดเกษียณ วันนี้คุณต้องให้ลูกจีนอย่างผม มาเรียกร้องศักดิ์ศรีให้กับราชสำนักหรือ พวกคุณทำอะไรกัน มียางอายไหม ปากก็บอกว่ารักชาติ ผ่านพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาที ก็แต่งชุดเสียสวยหรู ควงลูกเมียไปถ่ายรูป แค่นั้นหรือ คนอย่างพวกผมไม่มีโอกาสเช่นนั้น แต่คนอย่างพวกผม ถูกสอนให้จงรักภักดี ถูกสอนไม่ให้แม้กระทั่งสบพระเนตรหรือองค์รัชทายาท พ่อแม่ของผมสอนว่านั่นของสูง มึงอย่ากระแดะ แต่นักการเมืองไทยวันนี้ เจอเจ้านาย ยิ้มบ้าง พยายามพูดด้วยบ้าง”
“เพราะฉะนั้น ขอร้องบรรดานายทหารผู้จงรักภักดีต่อชาติราชบัลลังก์ คุณทำให้เห็นเสียทีเถอะใน พ.ศ.นี้ ทำให้เห็นว่าคุณจงรักภักดีจริง คุณมาให้พวกผมต้องมาเรียกร้องเพราะความเฮงซวยของเพ็ญตลอดชีวิตหรือ ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ผมเลย”
นายภูวดล กล่าวด้วยว่า ขอว่าถ้าคุณรักลูกหลานรักตัวคุณขอให้คุณรักประเทศชาติสักนิด อย่าให้ระบอบเฮงซวยกลับเข้ามาอีกเลย วันนี้ปัญหาเรื่องรัฐธรรมนูญมันข้ามชอตไปแล้ว วันนี้ปัญหาของเราคือต้องให้ระบอบเฮงซวยและรัฐบาลเฮงซวยนี้มันหมดไปจากประเทศไทยของเรา
