xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ลุ้นปีหน้ารายได้เติบโต 10%อนาคตทุ่มเม็ดเงินลงทุนในตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ปตท.ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าโต 10% จากโครงการใหม่ที่แล้วเสร็จทั้งโรงแยกฯ 6 เอทิลีนแครกเกอร์ล้านตันและดาวน์สตรีม หากปัญหามาบตาพุดคลี่คลาย โดยปีนี้มีกำไรเท่าปีที่แล้ว 5.17 หมื่นล้านบาทสวนทางรายได้ทรุดฮวบ ตั้งงบลงทุนในอีก 5ปี (2557-2561)อีดฉีดเงินลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 20-30% เป็น 50%ของเงินลงทุนทั้งหมด เนื่องจากทรัพยากรในประเทศร่อยหรอ

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) (PTT) เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้เติบโตขึ้น 10% จากปีนี้ เนื่องจากปตท.มีกำลังการผลิตใหม่จากโรงแยกก๊าซฯหน่วยที่ 6 โครงการเอทิลีน แครกเกอร์ 1 ล้านตัน โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรวม 7 แสนตันของบมจ.ปตท.เคมิคอล ขณะที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้นทำให้ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ภายใต้สมมุติฐานว่าโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการผลิตได้ตามแผนที่วางไว้โดยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่มาบตาพุดได้รับการแก้ไขไปได้ด้วยดี

อย่างไรก็ตาม หากกรณีปัญหามาบตาพุดยังยืดเยื้อทำให้ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้ในบางโครงการ เชื่อว่ารายได้ของปตท.ในปีหน้าจะใกล้เคียงกับปีนี้หรือเติบโตเล็กน้อย เนื่องจากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโกล ในปีนี้ปตท.คาดว่าจะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงปีที่แล้ว 5.17 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้จะต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.00 แสนล้านบาท เนื่องจากปีนี้ไม่มีผลกระทบจากการขาดทุนสต็อกเหมือนปี 2551

“ในปีหน้าความต้องการใช้น้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไป แต่มาร์จินของปิโตรเคมีและการกลั่นจะแคบลง แต่เนื่องจากปตท.มีโครงการใหม่ขึ้นทำให้กำลังการผลิตที่เพิ่มมาชดเชยมาร์จินที่แคบลงได้ ทำให้ทั้งปีผลการดำเนินงานจะดีกว่าปีนี้ โดยขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคำสั่งศาลปกครองฯจะออกแบบใดในกรณีคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับ 76 โครงการในพื้นที่มาบตาพุด ”

นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า ปตท.วางนโยบายการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดย5 ปีนี้(2552-2556) สัดส่วนเงินลงทุนในต่างประเทศคิดเป็น 20-30%ของเงินลงทุนทั้งหมด 2.39 แสนล้านบาท แต่งบการลงทุน 5ปี(ปี 2557 -2561) สัดส่วนเงินลงทุนในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 50%ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยเม็ดเงินลงทุนในไทยไม่ได้ลดลง แต่ฐานธุรกิจใหญ่ขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับทรัพยากรพลังงานในประเทศมีจำกัด ส่งผลให้ปตท.รับรู้รายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 20%ในปี 2556 จากปัจจุบันรับรู้รายได้จากต่างประเทศเพียง 10%ของรายได้รวม และในปี 2563 รายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 50%ของรายได้รวม

“ เครือปตท.ฯมีแผนการลงทุนน 5ปี (2552-2556) ใช้เงินลงทุนรวม 9 แสนล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนของปตท.สผ. 4 แสนล้านบาท และปตท.2.3 แสนล้านบาท จากบทเรียนการเกิดเพลิงไหม้ที่แท่นเจาะและผลิตมอนทารา ออสเตรเลีย รวมทั้งกรณีปัญหามาบตาพุด ทำให้การลงทุนของปตท.นับจากนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบโดยให้มวลชนเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆและมาตรฐานสิ่งแวดล้อมด้วย ส่วนการซื้อกิจการนอกเหนือจากการทำดิวดิลิเจนท์แล้ว จะต้องเจาะลึกด้านเทคนิค ดิวดิลิเจนท์ด้วย”

ส่วนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในอนาคต เช่นปิโตรเคมีเฟส4 นอกเหนือจากพื้นที่มาบตาพุดนั้นเป็นเรื่องภาครัฐที่จัดหาสถานที่ลงทุนโครงการขนาดใหญ่ รวมไปถึงการจัดหาระบบสาธารณูปโภครองรับ โดยขณะนี้รัฐบาลได้มองพื้นที่ภาคใต้ไว้ แต่เห็นว่าการพัฒนาพื้นที่ใหม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน ขณะที่มาบตาพุดได้มีการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคพร้อม
กำลังโหลดความคิดเห็น