ไฟไหม้แท่นเจาะ ปตท.ร้อนถึง ครม.ผู้บริหารพล่าน! เร่งสยบข่าวเงียบ

เหตุไฟไหม้แท่นเจาะ ปตท.ร้อนที่ประชุม ครม.วันนี้ “วรรณรัตน์” แจงสถานการณ์ล่าสุด ได้มีการอพยพคนงานออกหมดแล้ว และกำลังเร่งกำจัดคราบน้ำมันที่ปล่อยออกสู่ทะเล พร้อมสกัดการรั่วไหล “อนนต์ สิริแสงทักษิณ” โวดับไฟสำเร็จแล้ว ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้ เตรียมเข้าตรวจความเสียหาย สัปดาห์หน้า พร้อมยืนยัน ผลกระทบไม่ได้ลุกลามบานปลาย โดยประสานงานกับรัฐบาลออสเตรเลียต่อเนื่อง เพื่อดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้านราคาหุ้น 2 วัน หลังมีข่าว รูดลงไปแล้วกว่า 10%

นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.ผลิตและสำรวจปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเพลิงไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ กลางทะเลของประเทศออสเตรเลีย โดยระบุว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย ปตท.สผ.สามารถดับไฟที่แท่นขุดเจาะ และแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมของแหล่งมอนทารา ได้เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้เกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา

“เราดับไฟได้แล้วเมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงตามเวลาที่กรุงเทพฯ ตอนนี้ เราก็ต้องรอเฝ้าดูให้แน่ใจว่า เราสามรถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด 100% ซึ่งทางฝ่ายบริหาร ปตท.ได้มีการติดตามประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง”

ขณะนี้ ปตท.สผ.มีความจำเป็นต้องอพยพพนักงานออกทั้งหมด โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุได้ร่วมมือกับรัฐบาลออสเตรเลียในการแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาตลอด ซึ่งสามารถจำกัดและควบคุมปัญหาได้ทั้งหมด ไม่ได้ขยายผลออกไปเช่นที่เป็นข่าว

สำหรับแหล่งขุดเจาะที่เกิดเพลิงไหม้นี้ ถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ คาดว่า จะสามารถผลิตน้ำมันได้ประมาณ 35,000-40,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมหลังดับไฟแล้วนั้น ได้ประสานกับรัฐบาลออสเตรเลียตลอด

ทั้งนี้ คาดว่า บริษัทจะทยอยส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบรายละเอียด และประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ในสัปดาห์หน้า รวมทั้งตรวจสอบโครงสร้างของแท่นขุดเจาะและแท่นหลุมผลิตว่าเสียหายอย่างไร

นายแพทย์ (นพ.) วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แหล่งมอนทารา ในประเทศออสเตรเลีย เกิดไฟลุกไหม้ ซึ่งรายงานต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า ขณะนี้ ปตท.สผ.อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งจะมีการสรุปความเสียหายทั้งหมด ภายในวันนี้

ทั้งนี้ ปตท.สผ.ได้มีการอพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งกำจัดคราบน้ำมันที่ปล่อยออกสู่ทะเล และดำเนินการสกัดการรั่วไหลของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ที่ได้มีการแก้ปัญหาด้วยการขุดท่อขนานแนวท่อที่มีน้ำมันและก๊าซที่รั่วไหล

ส่วนกรณีสาเหตุการเกิดไฟลุกไหม้ ขณะนี้ ยังไม่ทราบต้นตอที่ชัดเจน เบื้องต้นคาดว่า เป็นอุบัติเหตุและปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ไม่ใช่การบริหารของ ปตท.สผ.โดยได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดับไฟแล้ว คาดว่า จะดับไฟได้ในช่วงเย็นวันนี้

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนของ ปตท.เนื่องจากได้มีการทำประกับภัยไว้วงเงิน 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่มูลค่าความเสียหายไม่ถึงครึ่งหนึ่งของวงเงินประกัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยอมรับว่า ปัญหาดังกล่าวจะส่งผลให้ ปตท.สผ.สูญเสียโอกาสในการจำหน่ายน้ำมันและก๊าซ ช้าไปอีก 1-2 เดือน แต่ไม่กระทบต่อภาพรวมมากนัก เนื่องจากประเทศไทยยังมีแหล่งผลิตก๊าซ และน้ำมันจากแหล่งอื่นรวมประมาณ 240,000 บาร์เรลต่อวัน โดยแหล่งมอนทารา มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 บาร์เรลต่อวัน

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น PTTEP หลังเกิดเหตุการร์ไฟไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมัน ที่ประเทศออสเตรเลีย รวม 2 วัน ราคาหุ้น PTTEP ปรับตัวลดลง 15 บาท หรือคิดเป็น 10.34% โดยพบว่าราคาหุ้น PTTEP วันที่ 3 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาด โดย อยู่ที่ 136.50 บาท และระหว่างวันราคาหุ้นก็ได้ลดลงต่ำสุดที่ ราคา 128บาท หลังจากนั้นมีแรงซื้อเข้ามา ทำให้ราคาเมื่อปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 130 บาท ลดลง 7 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5.84 ล้านบาท

ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทอื่นๆ ในเครือ ปตท.ในช่วง 2 วันที่เกิดเหตุการณ์ ก็มีทิศทางปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน ดังนี้ บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH ปรับตัวลดลง 2.25 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 3.21% และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ปรับลดลง 1 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 2.42 % บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTTAR ลดลง 0.30 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 1.4 % ส่วนบริษัทแม่ของทั้งกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ในช่วง2 วันปรับตัวลดลง 12 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 5%