ASTVผู้จัดการรายวัน – นายกสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ชี้ตลาดรวมเริ่มคึกคัก คาดทั้งปีโต 5% ด้านเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ทุ่ม 25 ล้านบาท อัดแคมเปญ “Central Festival Phuket New Year Celebration 2010” ดูดนักท่องเที่ยวเข้าศูนย์ตลอดไตรมาสสี่ เดินหน้ารีโนเวทพื้นที่ พร้อมเพิ่มชั้น 4 ผุดแผนกเด็กและกิ๊ฟชอป เชื่อดึงคนไทยเข้าศูนย์เพิ่มขึ้น
นายธนภณ ตังคณานันท์ นายกสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่กิดขึ้น พบว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกไทย ช่วงต้นปีที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก แต่หลังจากช่วงไตรมาสสาม โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเติบโตดีขึ้น ทั้งนี้มองว่ามาจากภาคการส่งออก และภาคอุตสาหกรรม มีตัวเลขการเติบโตสูงขึ้นผู้บริโภคจึงมีค่าครองชีพที่ดีตามมา ทำให้มีกำลังในการใช้จ่ายสูงขึ้น โดยการขยายสาขาของผู้ประกอบที่เพิ่มสูงขึ้น ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพค้าปลีกดีขึ้นในช่วงหลัง ทั้งนี้เชื่อว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีนี้ น่าจะมีอัตราการเติบได้ประมาณ 4-5%
อย่างไรก็ตามมองว่า ไตรมาสสี่ ค้าปลีกน่าจะดีขึ้นมากเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน เพราะยังมองไม่เห็นปัจจัยลบ เว้นแต่เรื่องของการเมืองเท่านั้น ซึ่งหากการเมืองนิ่ง ก็จะทำให้ค้าปลีกเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ในส่วนของผู้ประกอบการยังพร้อมที่จะลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการขยายสาขา แต่ก็ต้องมีการศึกษาเรื่องของกฏหมายให้เข้าใจมากขึ้น
ส่วนการที่มีการจัดตั้งสมาคมเกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีกเพิ่มขึ้นนั้น มองว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยกันทำให้ค้าปลีกเข้มแข็งต่อไป
**เซ็นทรัลภูเก็ตเพิ่มพื้นที่
นายธนภณ ยังกล่าวในฐานะของ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เปิดเผยว่า ภาพรวมคนเดินเข้าศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้เติบโต 3% โดยในช่วงต้นปีค่อนข้างตกลงไปมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เริ่มดีขึ้น โดยไตรมาสสี่ น่าจะเติบโตได้กว่า 5.3% ถึงสิ้นปี น่าจะมีอัตราการเติบโตของตัวเลขคนเดินเข้าศูนย์ฯอย่างน้อย 5%
ปัจจุบันลูกค้ากว่า 70% เป็นคนไทย และ 30% เป็นชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว อัตราการใช้จ่าย เฉลี่ยคนไทยอยู่ที่ 1,500 บาท และต่างชาติอยู่ที่ 2,000 บาท ช่วงต้นปีไปถึงกลางปี ทางศูนย์ฯจึงหันมาโฟกัสกลุ่มคนไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบริการ และการปรับปรุงทางศูนย์ฯซึ่งปีนี้ใช้งบไปกว่า 100 ล้านบาท สำหรับรีโนเวทและพัฒนาพื้นที่
ล่าสุดกำลังจะเปิดพื้นที่บนชั้น 4 รวมกว่า 55,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น พื้นที่เช่า 2,000 ตารางเมตร และดีพาร์ทเม้นท์สโตร์อีก 3,500 ตารางเมตร โดยทางศูนย์ได้วางพื้นที่ชั้นนี้เป็นโซนเด็ก และกิ๊ฟชอปโดยเฉพาะ รวมไปถึงบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงเรียนกวดวิชา และพัฒนาการ เชื่อว่าจะเป็นพื้นที่อีกส่วนสำคัญที่จะช่วยดึงให้คนไทยเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯมากขึ้น
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้า เซ็นทรัล จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะนำมาใช้ในช่วงไตรมาสสี่ว่า ปีนี้เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต มีงบประมาณด้านการตลาดกว่า 20 ล้านบาท มีอีเวนต์ใหญ่ 5 งาน ล่าสุดจะมีแคมเปญส่งเสริมให้มีจำนวนคนเข้าศูนย์เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ ด้วยงบประมาณรวมกว่า 25 ล้านบาท กับแคมเปญ “Central Festival Phuket New Year Celebration 2010” ชูกิจกรรมส่งเสริมการขาย Welcome Package” ซึ่งเป็นแพกเกจส่วนลด มีมูลค่ารวมกว่า 2-2.5 หมื่นบาท จัดทำขึ้นมาเพียง 40,000 ชุด จะวางแจกทั่วโรงแรมในภูเก็ต และสถานที่สำคัญ
ให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมีการจัดให้มีรถชาร์ตเตอร์บัส อำนวยความสะดวกกว่า 3 เส้นทาง ให้นักท่องเที่ยวและคนไทยเข้ามาศูนย์ฯได้ง่ายขึ้น เชื่อว่าจะเป็นแคมเปญสำคัญที่จะช่วยทำให้ภาพรวมรายได้สิ้นปีนี้เติบโตได้ราว 5% ตามที่วางไว้ โดยแบ่งเป็น รายได้จากดีพาร์ทเม้นท์สโตร์กว่า 1,200 ล้านบาท และการเช่าพื้นที่อีกกว่า 400 ล้านบาท
นายธนภณ ตังคณานันท์ นายกสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่กิดขึ้น พบว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกไทย ช่วงต้นปีที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก แต่หลังจากช่วงไตรมาสสาม โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเติบโตดีขึ้น ทั้งนี้มองว่ามาจากภาคการส่งออก และภาคอุตสาหกรรม มีตัวเลขการเติบโตสูงขึ้นผู้บริโภคจึงมีค่าครองชีพที่ดีตามมา ทำให้มีกำลังในการใช้จ่ายสูงขึ้น โดยการขยายสาขาของผู้ประกอบที่เพิ่มสูงขึ้น ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพค้าปลีกดีขึ้นในช่วงหลัง ทั้งนี้เชื่อว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีนี้ น่าจะมีอัตราการเติบได้ประมาณ 4-5%
อย่างไรก็ตามมองว่า ไตรมาสสี่ ค้าปลีกน่าจะดีขึ้นมากเมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน เพราะยังมองไม่เห็นปัจจัยลบ เว้นแต่เรื่องของการเมืองเท่านั้น ซึ่งหากการเมืองนิ่ง ก็จะทำให้ค้าปลีกเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ในส่วนของผู้ประกอบการยังพร้อมที่จะลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการขยายสาขา แต่ก็ต้องมีการศึกษาเรื่องของกฏหมายให้เข้าใจมากขึ้น
ส่วนการที่มีการจัดตั้งสมาคมเกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีกเพิ่มขึ้นนั้น มองว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยกันทำให้ค้าปลีกเข้มแข็งต่อไป
**เซ็นทรัลภูเก็ตเพิ่มพื้นที่
นายธนภณ ยังกล่าวในฐานะของ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เปิดเผยว่า ภาพรวมคนเดินเข้าศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้เติบโต 3% โดยในช่วงต้นปีค่อนข้างตกลงไปมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เริ่มดีขึ้น โดยไตรมาสสี่ น่าจะเติบโตได้กว่า 5.3% ถึงสิ้นปี น่าจะมีอัตราการเติบโตของตัวเลขคนเดินเข้าศูนย์ฯอย่างน้อย 5%
ปัจจุบันลูกค้ากว่า 70% เป็นคนไทย และ 30% เป็นชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว อัตราการใช้จ่าย เฉลี่ยคนไทยอยู่ที่ 1,500 บาท และต่างชาติอยู่ที่ 2,000 บาท ช่วงต้นปีไปถึงกลางปี ทางศูนย์ฯจึงหันมาโฟกัสกลุ่มคนไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบริการ และการปรับปรุงทางศูนย์ฯซึ่งปีนี้ใช้งบไปกว่า 100 ล้านบาท สำหรับรีโนเวทและพัฒนาพื้นที่
ล่าสุดกำลังจะเปิดพื้นที่บนชั้น 4 รวมกว่า 55,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น พื้นที่เช่า 2,000 ตารางเมตร และดีพาร์ทเม้นท์สโตร์อีก 3,500 ตารางเมตร โดยทางศูนย์ได้วางพื้นที่ชั้นนี้เป็นโซนเด็ก และกิ๊ฟชอปโดยเฉพาะ รวมไปถึงบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงเรียนกวดวิชา และพัฒนาการ เชื่อว่าจะเป็นพื้นที่อีกส่วนสำคัญที่จะช่วยดึงให้คนไทยเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯมากขึ้น
นางสาวปิยวรรณ ลีละสมภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้า เซ็นทรัล จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะนำมาใช้ในช่วงไตรมาสสี่ว่า ปีนี้เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต มีงบประมาณด้านการตลาดกว่า 20 ล้านบาท มีอีเวนต์ใหญ่ 5 งาน ล่าสุดจะมีแคมเปญส่งเสริมให้มีจำนวนคนเข้าศูนย์เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ ด้วยงบประมาณรวมกว่า 25 ล้านบาท กับแคมเปญ “Central Festival Phuket New Year Celebration 2010” ชูกิจกรรมส่งเสริมการขาย Welcome Package” ซึ่งเป็นแพกเกจส่วนลด มีมูลค่ารวมกว่า 2-2.5 หมื่นบาท จัดทำขึ้นมาเพียง 40,000 ชุด จะวางแจกทั่วโรงแรมในภูเก็ต และสถานที่สำคัญ
ให้เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมีการจัดให้มีรถชาร์ตเตอร์บัส อำนวยความสะดวกกว่า 3 เส้นทาง ให้นักท่องเที่ยวและคนไทยเข้ามาศูนย์ฯได้ง่ายขึ้น เชื่อว่าจะเป็นแคมเปญสำคัญที่จะช่วยทำให้ภาพรวมรายได้สิ้นปีนี้เติบโตได้ราว 5% ตามที่วางไว้ โดยแบ่งเป็น รายได้จากดีพาร์ทเม้นท์สโตร์กว่า 1,200 ล้านบาท และการเช่าพื้นที่อีกกว่า 400 ล้านบาท
