ASTVผู้จัดการรายวัน – เซเว่นฯ นำทีมผู้ประกอบการค้าปลีกสายเลือดไทย รวมตัวก่อตั้ง ส.พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย หวังสร้างความแข็งแกร่งสู้ค้าปลีกนอก พร้อมช่วยเหลือโชว์ห่วยให้อยู่รอด หวังภาครัฐ หนุน โครงการ "โชว์ห่วยเข้มแข็ง" คนวงในระบุอาจจะเป็นหมากเกมใหม่ของเซเว่นฯต้องการส้างอิมเมจใหม่ ไม่ใช่โมเดิร์นเทรดต่างชาติ
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก มีการรวมตัวกันจัดตั้งสมาคมขึ้นมาหลายสมาคม แต่ยังไม่มีสมาคมไหนที่เป็นการรวมตัวของนักลงทุนที่เป็นสัญชาติไทยอย่างแท้จริง
ดังนั้นในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการคนไทยจึงได้มีการพูดคุยกับผู้ค้าปลีกไทย และรวมตัวกัน จัดตั้ง “สมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย” ขึ้นมา เพื่อนักลงทุนไทยอย่างแท้จริง โดยได้จดทะเบียนก่อตั้งมาตั้งแต่ 7 เดือนก่อน
ปัจจุบันมีสมาชิกอย่างเป็นทางการ กว่า 20 ราย เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น ตั้งฮั่วเส็ง ช้อยส์มินิมาร์ท โฮมโปร เป็นต้น จากสมาชิก 3 รูปแบบ คือ กิตติมศักดิ์, สามัญ และวิสามัญ จากจำนวนผู้ค้าปลีกตามสถิติที่ขึ้นทะเบียนกับทางกระทรวงพาณิชย์ ราว 4 แสนราย
สำหรับการรวมตัวกันครั้งนี้ เพื่อต้องการช่วยเหลือค้าปลีกไทยด้วยกัน ให้มีความแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันกับค้าปลีกต่างชาติต่อไปได้ อีกทั้งเพื่อช่วยเหลือโชว์ห่วยให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสมาชิกในสมาคมฯ สามารถเป็นสมาชิกของสมาคมอื่นได้ด้วย เช่นเดียวกันเซเว่น อีเลฟเว่น ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย แต่หลังจากก่อตั้งสมาคมฯนี้ขึ้นมาจะขอให้ความสำคัญและทำงานให้กับสมาคมฯนี้ก่อน โดยจะลดบทบาทในการทำงานจากการเป็นสมาชิกของ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยลงมา
อย่างไรก็ตาม การรวมตัวกันก่อตั้งสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทยนี้ ส่วนหนึ่งมาจาก สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ในปัจจุบันไม่ค่อยแอกทีฟมากนัก ต่างฝ่ายต่างกลับไปให้ความสำคัญในบริษัทของตนก่อน สืบเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย ที่สำคัญคือทำให้ผู้ค้าปลีกไทยเข้มแข็ง โดยที่ผ่านมาภาระกิจแรก คือ การให้ความช่วยเหลือผู้ค้าปลีกไทย โดยการจัดอบรมให้ความรู้ แนะแนวทางการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงการให้ความสำคัญในการช่วยเหลือโชว์ห่วย ทั้งในเรื่องของ การอบรม ด้านการเงิน และแนะแนวทางการรวมตัวกันเพื่อสั่งซื้อสินค้าให้ได้ในราคาที่ถูกลง
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับ พรบ.ค้าปลีก ในฐานะนายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย มองว่า อยากให้ พรบ.ค้าปลีกให้ความสำคัญกับค้าปลีกรายย่อย หรือ โชว์ห่วยให้มากขึ้น โดยอยากให้ลงรายละเอียดการให้ความช่วยเหลืออย่างชัดเจน มากกว่าเขียนไว้อย่างกว้างๆ
อย่างไรก็ตามในวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย. ตนจะเข้าไปร่วมงานประชาพิจารณ์ เรื่อง ค้าปลีก ที่หาดใหญ่ จ. สงขลา โดยในวันนี้ตนจะเรียกร้องให้ทางภาครัฐร่วมผลักดันโครงการ “โชว์ห่วยเข้มแข็ง” และขึ้นกล่าว แนะแนวทางช่วยเหลือโชว์ห่วยให้อยู่รอดต่อไปด้วย
**จับตาหมากเกมใหม่ของเซเว่นฯ
แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีก กล่าวให้ความเห็นว่า การออกมาเคลื่อนไหว โดยมีทางเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นแกนนำในการจัดตั้งสมาคมใหม่ดังกล่าวนี้ น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจจะเกิดความขัดแย้งทางด้านความเห็นและผลกระทบต่อธุรกิจกับหมู่สมาชิกในสมาคมเดิมคือ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ที่เซเว่นฯก็เป็นสมาชิกอยู่ด้วยเช่นกัน
อีกทั้งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับตัวร่างพรบ.ค้าปลีกอยู่ ซึ่งจะใกล้สรุปการประชาพิจารณ์ก่อนยื่นรายละเอียดให้กับทางคณะทำงานและคณะรัฐมนตรีรับทราบตามลำดับแล้ว
เซเว่นฯเองถูกติดร่างแหไปกับพรบ.นี้ร่วมกับทางกลุ่มโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ที่เป็นดิสเคานต์สโตร์ด้วย เพราะเมื่อพรบ.ใหม่นี้ออกมาประกาศใช้ จะถูกเข้มงวดในการขยายสาขาและการทำธุรกิจมากขึ้น ดังนั้นเมื่อพยายามยาแยกตัวออกมาจากสมาคมเดิม และสร้างภาพว่าเป็นกลุ่มทุนไทย ไม่ได้เป็นของต่างชาติ ในการเคลื่อนไหวผ่านสมาคมใหม่นี้ ก็น่าจะดูดีกว่าและเป็นอีกหนทางหนึ่งในการแก้เกมของเซเว่นฯก็เป็นได้ ซึ่งคงต้องจับตาดูกันต่อไป
“แต่จริงๆแล้วถามหน่อยว่า แซเว่นอีเลฟเว่นเป็นแบรนด์ต่างชาติหรือไม่ ไม่ว่า ซีพีจะบอกว่าใช้ทุนไทยในการลงทุนและเป็นกิจการที่ซีพีบริหารเองก็ตาม แต่ก็เป็นแบรนรนด์ต่างชาติ ต้องเสียค่าไลเซ่นส์ให้กับต่างประเทศอยู่ดี” แหล่งข่าวให้ความเห็น
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก มีการรวมตัวกันจัดตั้งสมาคมขึ้นมาหลายสมาคม แต่ยังไม่มีสมาคมไหนที่เป็นการรวมตัวของนักลงทุนที่เป็นสัญชาติไทยอย่างแท้จริง
ดังนั้นในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการคนไทยจึงได้มีการพูดคุยกับผู้ค้าปลีกไทย และรวมตัวกัน จัดตั้ง “สมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย” ขึ้นมา เพื่อนักลงทุนไทยอย่างแท้จริง โดยได้จดทะเบียนก่อตั้งมาตั้งแต่ 7 เดือนก่อน
ปัจจุบันมีสมาชิกอย่างเป็นทางการ กว่า 20 ราย เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น ตั้งฮั่วเส็ง ช้อยส์มินิมาร์ท โฮมโปร เป็นต้น จากสมาชิก 3 รูปแบบ คือ กิตติมศักดิ์, สามัญ และวิสามัญ จากจำนวนผู้ค้าปลีกตามสถิติที่ขึ้นทะเบียนกับทางกระทรวงพาณิชย์ ราว 4 แสนราย
สำหรับการรวมตัวกันครั้งนี้ เพื่อต้องการช่วยเหลือค้าปลีกไทยด้วยกัน ให้มีความแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันกับค้าปลีกต่างชาติต่อไปได้ อีกทั้งเพื่อช่วยเหลือโชว์ห่วยให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งสมาชิกในสมาคมฯ สามารถเป็นสมาชิกของสมาคมอื่นได้ด้วย เช่นเดียวกันเซเว่น อีเลฟเว่น ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย แต่หลังจากก่อตั้งสมาคมฯนี้ขึ้นมาจะขอให้ความสำคัญและทำงานให้กับสมาคมฯนี้ก่อน โดยจะลดบทบาทในการทำงานจากการเป็นสมาชิกของ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยลงมา
อย่างไรก็ตาม การรวมตัวกันก่อตั้งสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทยนี้ ส่วนหนึ่งมาจาก สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ในปัจจุบันไม่ค่อยแอกทีฟมากนัก ต่างฝ่ายต่างกลับไปให้ความสำคัญในบริษัทของตนก่อน สืบเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย ที่สำคัญคือทำให้ผู้ค้าปลีกไทยเข้มแข็ง โดยที่ผ่านมาภาระกิจแรก คือ การให้ความช่วยเหลือผู้ค้าปลีกไทย โดยการจัดอบรมให้ความรู้ แนะแนวทางการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงการให้ความสำคัญในการช่วยเหลือโชว์ห่วย ทั้งในเรื่องของ การอบรม ด้านการเงิน และแนะแนวทางการรวมตัวกันเพื่อสั่งซื้อสินค้าให้ได้ในราคาที่ถูกลง
นายสุวิทย์ กล่าวต่อว่า สำหรับ พรบ.ค้าปลีก ในฐานะนายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย มองว่า อยากให้ พรบ.ค้าปลีกให้ความสำคัญกับค้าปลีกรายย่อย หรือ โชว์ห่วยให้มากขึ้น โดยอยากให้ลงรายละเอียดการให้ความช่วยเหลืออย่างชัดเจน มากกว่าเขียนไว้อย่างกว้างๆ
อย่างไรก็ตามในวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย. ตนจะเข้าไปร่วมงานประชาพิจารณ์ เรื่อง ค้าปลีก ที่หาดใหญ่ จ. สงขลา โดยในวันนี้ตนจะเรียกร้องให้ทางภาครัฐร่วมผลักดันโครงการ “โชว์ห่วยเข้มแข็ง” และขึ้นกล่าว แนะแนวทางช่วยเหลือโชว์ห่วยให้อยู่รอดต่อไปด้วย
**จับตาหมากเกมใหม่ของเซเว่นฯ
แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีก กล่าวให้ความเห็นว่า การออกมาเคลื่อนไหว โดยมีทางเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นแกนนำในการจัดตั้งสมาคมใหม่ดังกล่าวนี้ น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาจจะเกิดความขัดแย้งทางด้านความเห็นและผลกระทบต่อธุรกิจกับหมู่สมาชิกในสมาคมเดิมคือ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ที่เซเว่นฯก็เป็นสมาชิกอยู่ด้วยเช่นกัน
อีกทั้งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับตัวร่างพรบ.ค้าปลีกอยู่ ซึ่งจะใกล้สรุปการประชาพิจารณ์ก่อนยื่นรายละเอียดให้กับทางคณะทำงานและคณะรัฐมนตรีรับทราบตามลำดับแล้ว
เซเว่นฯเองถูกติดร่างแหไปกับพรบ.นี้ร่วมกับทางกลุ่มโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ที่เป็นดิสเคานต์สโตร์ด้วย เพราะเมื่อพรบ.ใหม่นี้ออกมาประกาศใช้ จะถูกเข้มงวดในการขยายสาขาและการทำธุรกิจมากขึ้น ดังนั้นเมื่อพยายามยาแยกตัวออกมาจากสมาคมเดิม และสร้างภาพว่าเป็นกลุ่มทุนไทย ไม่ได้เป็นของต่างชาติ ในการเคลื่อนไหวผ่านสมาคมใหม่นี้ ก็น่าจะดูดีกว่าและเป็นอีกหนทางหนึ่งในการแก้เกมของเซเว่นฯก็เป็นได้ ซึ่งคงต้องจับตาดูกันต่อไป
“แต่จริงๆแล้วถามหน่อยว่า แซเว่นอีเลฟเว่นเป็นแบรนด์ต่างชาติหรือไม่ ไม่ว่า ซีพีจะบอกว่าใช้ทุนไทยในการลงทุนและเป็นกิจการที่ซีพีบริหารเองก็ตาม แต่ก็เป็นแบรนรนด์ต่างชาติ ต้องเสียค่าไลเซ่นส์ให้กับต่างประเทศอยู่ดี” แหล่งข่าวให้ความเห็น
