เชียงใหม่ -กระทรวงพาณิชย์ จัดรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่จังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติค้าปลีก ค้าส่ง ในยุคการแข่งขันแบบไร้พรมแดน
นางวัชรี วิมุกตายน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธิเปิดสัมมนา เรื่อง พ.ร.บ.ค้าปลีก : กติกาการอยู่ร่วมกันในยุคทุนไร้พรมแดน? ณ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้เพราะกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ ค้าปลีกหรือค้าส่ง พ.ศ..... เจตนารมย์ของกฎหมายเพื่อจัดระเบียบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบกับธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่งดั้งเดิม และเพื่อส่งเสริม และพัฒนาธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่งรายย่อยดั้งเดิม ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความพร้อมของประชาชน เพื่อให้เกิดความสมดุลในสังคม
พระราชบัญญัติค้าปลีก ค้าส่ง มีทั้งผลดีและผลเสียที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย การดำเนินการออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ต้องกระทำอย่างรัดกุม ให้ทุกกลุ่มอยู่ร่วมกันได้ และป้องกันปัญหาอันอาจจะเกิดขึ้น เพื่อรวบรวมความคิดเห็นที่ได้รับไปปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้สมบูรณ์ก่อนจะประกาศบังคับใช้
ในการเสวนาดังกล่าว นายกวีพจน์ วรยิ่งยง เลขาธิการสมาคมตลาดสดไทย เสนอว่า ควรมีการแบ่งขนาดธุรกิจค้าปลีก ค้าส่งออกเป็นขนาดย่อม ขนาดกลาง ขนาดใหญ่และขนาดใหญ่พิเศษ และต้องมีหลักเกณฑ์การให้อนุญาตที่ต่างกันตามขนาดของธุรกิจ ควรมีคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดเนื่องจากเข้าใจสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น อีกทั้งรัฐต้องให้ความช่วยเหลือผู้ค้าปลีกรายย่อยด้วยมาตรการทางภาษี
ขณะที่ นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าปลีกไทยกล่าวว่า การแก้ปัญหาร้านค้าปลีกหรือโชห่วยด้วยการควบคุมโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ไม่ให้โตหรือหยุดทำธุรกิจต่อไป ไม่น่าจะใช่วิธีการที่ถูกต้อง เนื่องจากธุรกิจโมเดิร์นเทรดยังสามารถแบ่งสัดส่วนการตลาดที่ยังมีอยู่ได้ แต่รัฐต้องบูรณาการทำงาน ด้วยการช่วยเหลือผู้ค้าปลีกรายย่อยด้วยมาตรการทางภาษีเชิงบวก ยกเลิกระบบเหมาจ่าย จัดระบบขนส่งต้นทุนต่ำ เป็นต้น
นางวัชรี วิมุกตายน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธิเปิดสัมมนา เรื่อง พ.ร.บ.ค้าปลีก : กติกาการอยู่ร่วมกันในยุคทุนไร้พรมแดน? ณ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้เพราะกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจ ค้าปลีกหรือค้าส่ง พ.ศ..... เจตนารมย์ของกฎหมายเพื่อจัดระเบียบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบกับธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่งดั้งเดิม และเพื่อส่งเสริม และพัฒนาธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่งรายย่อยดั้งเดิม ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความพร้อมของประชาชน เพื่อให้เกิดความสมดุลในสังคม
พระราชบัญญัติค้าปลีก ค้าส่ง มีทั้งผลดีและผลเสียที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย การดำเนินการออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ต้องกระทำอย่างรัดกุม ให้ทุกกลุ่มอยู่ร่วมกันได้ และป้องกันปัญหาอันอาจจะเกิดขึ้น เพื่อรวบรวมความคิดเห็นที่ได้รับไปปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้สมบูรณ์ก่อนจะประกาศบังคับใช้
ในการเสวนาดังกล่าว นายกวีพจน์ วรยิ่งยง เลขาธิการสมาคมตลาดสดไทย เสนอว่า ควรมีการแบ่งขนาดธุรกิจค้าปลีก ค้าส่งออกเป็นขนาดย่อม ขนาดกลาง ขนาดใหญ่และขนาดใหญ่พิเศษ และต้องมีหลักเกณฑ์การให้อนุญาตที่ต่างกันตามขนาดของธุรกิจ ควรมีคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดเนื่องจากเข้าใจสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น อีกทั้งรัฐต้องให้ความช่วยเหลือผู้ค้าปลีกรายย่อยด้วยมาตรการทางภาษี
ขณะที่ นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าปลีกไทยกล่าวว่า การแก้ปัญหาร้านค้าปลีกหรือโชห่วยด้วยการควบคุมโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ไม่ให้โตหรือหยุดทำธุรกิจต่อไป ไม่น่าจะใช่วิธีการที่ถูกต้อง เนื่องจากธุรกิจโมเดิร์นเทรดยังสามารถแบ่งสัดส่วนการตลาดที่ยังมีอยู่ได้ แต่รัฐต้องบูรณาการทำงาน ด้วยการช่วยเหลือผู้ค้าปลีกรายย่อยด้วยมาตรการทางภาษีเชิงบวก ยกเลิกระบบเหมาจ่าย จัดระบบขนส่งต้นทุนต่ำ เป็นต้น