xs
xsm
sm
md
lg

รายงาน:โมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้าง หรือนี้คือโอกาสในวิกฤติ..!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นับเป็นการเปิดศึกชิงส่วนแบ่งตลาดของโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้าน ที่ดุเดือดมากขึ้นทุกขณะ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ในขณะนี้ทิศทางการลงทุนของกลุ่มค้าวัสดุก่อสร้าง กลับตรงกันข้าม เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่อาจเรียกได้ว่า 5 เสือในวงการตลาดโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้าง ซึ่งประกอบไปด้วย ซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ท,โฮมโปร ,โฮมเวิร์ค, บุญถาวรและโกลบอลเฮาส์ ต่างเร่งขยายการลงทุนขยายช่องทางตลาดกัน ชนิดที่ทำเอาอุณหภูมิตลาดพุ่งขึ้นมาทันที เพราะทั้ง5บริษัทนี้ต่างเปิดศึกชิงแชร์ตลาดอย่างหนัก

โดยในส่วนของซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ทนั้น แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา ข่าวคราว จะเงียบหาไป แต่การขยายและปรับปรุงสาขานั้นหาได้หยุดไม่ เพราะที่ผ่านมา ซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ทยังคงเดินหน้า จับมือกับตัวแทนจำหน่าย(ดีลเลอร์)เดิม ให้เปลี่ยนมาเป็นคู่มือกับร้านค้า ปรับโฉมจากร้านค้าวัสดุก่อสร้างแบบโชว์ห่วยให้เป็นโมเดิร์นเทรด โดยปรับปรุงร้านค้าวัสดุก่อสร้างแต่เดิมให้เป็นรูปโฉมใหม่ ทันสมัย มีเนื้อหาการบริหารงานด้วยระบบการบริหารจัดการที่ดี

สำหรับกิจการซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ทจะแบ่งออกเป็น2 รูปแบบคือ ซิเมนต์ไทย โฮมมาร์ท แม็กซ์ เน้นบริการผู้บริโภคโดยตรง และ ซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ท บิลเดอร์ เน้นบริการกลุ่มช่างก่อสร้าง ซึ่งทั้ง2 รูปแบบนี้ ถือว่า สามารถตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มช่างรับเหมาก่อสร้างได้อย่างดี นอกจากนี้ จุดแข็งของซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ท ที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ คือ ฐานตัวแทนจำหน่ายที่มีกว่า 550 ราย ทั่วประเทศ โดยปัจจุบันมีการปรับโฉมให้ให้มีรูปแบบโมเดิร์นเทรดแล้วกว่า 400 สาขา ทำให้สามารถครองตลาดส่วนใหญ่ไว้ในมือ เพราะไม่จำกัดตลาดอยู่เฉพาะเมืองใหญ่หรือ กทม. นอกจากจุดแข็งในด้านฐานผู้แทนจำหน่ายแล้ว อีกหนึ่งความแข็ง คือ การเข้าถึงพฤตกรรมผู้บริโภคที่หันมาเลือกสินค้าในการซ่อมแซม และก่อสร้างที่อยู่อาศัยด้วยตัวเอง ทำให้หันมาเน้นการขยายสาขาซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ท บิลเดอร์ เพิ่มขึ้นเพื่อเก็บลูกค้ารายย่อยในตลาดไว้ในมือและเป็นฐานลูกค้าในอนาคต

ในขณะที่โฮมโปร และโฮมเวิร์ค นับว่าเป็นผู้ประกอบการ2รายหลักๆ ที่เปิดแนวรบกันซึ่งๆ หน้าในพื้นที่กทม. ปริมณฑล และเมืองท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสาขาแย่งลูกค้าในพื้นที่เดียวกัน และการจัดงานใหญ่ๆ ในระยะเวลาใกล้ๆ กันจนแทบจะเรียกได้ว่าระยะเวลาในการจัดงานช่วงเดียวกันก็ว่าได้ ถือว่าเป็นคู่แข่งที่สร้างความร้อนแรงในตลาดตลอดทั้งปีที่ผ่านมาก็ว่าได้

สำหรับจุดแข็งที่โฮมโปรฯ นำเข้ามาใช้ในการการขยายตลาดคือ เรื่องของคุณภาพ และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยปัจจุบันโฮมโปร เริ่มแทรกซึมลงสู่ตลาดระดับล่างอย่างรวดเร็ว จากเดิมเน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับบนด้วยราคาและบริการให้ความรู้ ข้อมูลลูกค้า ซึ่งเป็นจุดแข็งตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีของโฮมโปร จะเห็นได้จากการเพิ่มสัดส่วนของสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ (สินค้าผลิตจำหน่ายภายใต้แบรนด์โฮมโปร) ทำให้สามารถลดต้นทุนและขายในราคาที่เหมาะสมกับกำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มล่างได้ ไม่เพียงการขยายฐานลูกค้าลงมาในตลาดระดับล่าง แต่โฮมโปร เริ่มเจาะกลุ่มลูกค้าซ่อมแซมบ้านอย่างหนักด้วย

ในขณะที่โฮมเวิร์คนั้นถือว่าใช้จุดแข็งจากความที่มีความชำนาญด้านตลาดโมเดิร์นเทรด และทุนที่หนาจากกุ่มเซ็นทรัล ทำให้สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าความชำนาญในตลาดโมเดิร์นเทรดของกลุ่มเซ็นทรัล มีส่วนช่วยผลักดันให้โฮมเวิร์คก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของโฮมโปรฯในเวลาสั่นๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการวางตำแหน่งสินค้า(โปรดักส์ ) และการเลือกกลุ่มลูกค้านั้น ถือว่าครอบคลุมในทุกระดับ ตั้งแต่กลางลงล่าง ด้วยสินค้าที่หลากหลาย จากนั้นจึงเริ่มขยับเข้าสู่ตลาดระดับบน ทำให้มีฐานลูกค้าที่กว้างตั้งแต่เริ่มธุรกิจ

สำหรับศึกระหว่าง 2 ค่ายนี้ น่าจะเป็นการรบที่ยืดเยื้อ เพราะโฮมโปรชนโฮมเวิร์ค ต่างก็ชิงทำเลแข่งเปิดสาขาใหม่ในกรุงเทพฯปริมณฑล แถมในด้านขุมกำลังแล้ว ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกัน เพราะเบื้องหลังโฮมโปร คือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยักษ์ใหญ่ตลาดอสังหาฯ ด้านโฮมเวิร์คเองก็มีเซ็นทรัลที่หนุนหลังอยู่ จึงน่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่เรียกได้ว่าหนังยาว

แต่ที่น่าจับตามมองอย่างยิ่งคือ บุญถาวร และโกลบอลเฮาส์ หนึ่งใหม่ หนึ่งเก่า โดยเฉพาะโกลบอลเฮาส์น้องใหม่ที่พึ่งสร้างชื่อในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมาแต่ล่าสุด จดทะเบียนและนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว แถมประกาศแผนขยายสาขา ขอทาบชั้นโฮมโปร,โฮมเวิร์ค แบบไม่เกรงศักดิ์ศรีของรายใหญ่

โดยจุดแข็งของโกบอลเฮ้าส์คือ การเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกิดจากตลาดภูธร หรือต่างจังหวัด ทำให้ได้เปรียบรายใหญ่อย่างโฮมโปร,โฮมเวิร์ค ที่ยังมีฐานตลาดหลักอยู่ในกทม.และปริมณฑล ทำให้โกลบอลเฮาส์ฯมีฐานลูกค้าที่กว้างกว่า ซึ่งยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของโกลบอลฯ จะรุกการเปิดสาขาไปตามหัวเมืองใหญ่ ขยายให้ครอบคลุมเมืองสำคัญทุกภาคของประเทศทั้งภาคเหนือ ใต้ตะวันออก และตะวันตก

เพียงระยะเวลาไม่นาน ที่โกลบอลฯประกาศแผนเข้าตลาดหุ้น ก็ได้ขยายสาขาไปกว่า 8 สาขาแล้ว และในปีหน้ายังมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอีกทั้งในกทม. และต่างจังหวัด ยุทธ์ศาสตร์ที่นำมาใช้ในครั้งนี้เรียกได้เป็นยุทธ์ศาสตร์ป่าล้มเมือง ซึ่งถือว่าเป็นที่น่าจับตามมากสำหรับน้องใหม่ของวงการค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่ง

ส่วนอีกหนึ่งรายเก่า ที่ได้ทายาทคนรุ่นใหม่เข้ามาสานงานต่อ คือบุญถาวร ซึ่งถือว่าเก่าและมากด้วยประสบการณ์ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ผู้บริหารใหม่ไฟแรงเข้ามาสานต่อกิจการนั้น บุญถาวรได้วางนโยบายขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุเฉลี่ย 25-30 ปี เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้เทรนดี้มากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ "บุญถาวร" เพื่อขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่เน้นคนรุ่นเก่าและช่าง แต่ปัจจุบันหันมาเน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเลือกวัสดุและของตกแต่งบ้านด้วยตัวเอง

ไม่เพียงแต่การขยายฐานลูกค้าเท่นั้น ยังมีการขยายสาขาและปรับรูปแบบร้านค้าให้เป็นร้านค้าโมเดิร์น เทรด เพื่อรองรับพฤติกรรมการเลือกซื้อสิค้าของคนรุ่นใหม่ด้วย และเพียงระยะเวลาไม่นานบุญถาวรมีการขยายสาขาเพิ่มเป็นแห่งที่7 ในช่วง1-2เดือนที่ผ่านมา แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าการขยายสาขานั้นคือ ยอดขายที่เติบโตไล่จี้รายใหญ่อย่างโฮมโปร และโฮมร์คมาติดๆ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่เอื้อก็ตาม

เป็นที่น่าจับตาว่า ในช่วงเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยเช่นปัจจุบันแต่กลุ่มผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้างเหล่านี้กลับมีการทุ่มเม็ดเงินขยายสาขากันอย่างต่อเนื่องแถมยอดขายที่เข้ามายังส่วนกระแสกันภาวะเศรษฐกิจ หรือผู้ประกอบการเหล่านี้เค้าจะมองเห็นโอกาสในวิกฤตอย่างที่ผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจกล่าวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น