ผู้ลงทุนในกองทุนรวมบางท่านให้ความสนใจกับนโยบายการลงทุนและผลตอบแทนในอดีตของกองทุนเป็นหลัก แต่ลืมคำนึงถึงค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่กองทุนเรียกเก็บ ทั้งที่ค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีผลต่อผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับ หรืออย่างวันก่อนก็มีผู้ลงทุนสอบถามมาที่ ก.ล.ต. ว่า ทำไมเวลาไปซื้อขายหน่วยลงทุนที่บริษัทจัดการถึงได้เห็นตัวเลขราคาถึง 3 ตัวในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมกองเดียวกัน? ซึ่งเป็นคำถามที่ดีค่ะ
ตัวเลขราคา 3 ตัวที่ผู้ลงทุนเห็นก็คือ (1) มูลค่าหน่วยลงทุน (หรือมูลค่าทรัพย์สิน (NAV) ต่อหน่วย) (2) ราคาขายหน่วยลงทุน และ (3) ราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งเหตุที่ทำให้ราคาและมูลค่าเหล่านี้ต่างกันก็เพราะ "ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน "และ "ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน " ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้ บริษัทจัดการจะเก็บโดยตรงจากผู้ลงทุนที่ทำรายการ โดยคิดเป็นอัตราร้อยละของมูลค่าหน่วยลงทุน ซึ่งบริษัทจัดการจะนำมาบวกหรือลบออกจากมูลค่าหน่วยลงทุน นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องการสับเปลี่ยนกองทุนรวมที่ลงทุนอยู่ก็อาจมี "ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน " อีกด้วย
ที่เล่ามาเป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้ลงทุนเห็นชัดเจนในขณะที่ทำรายการซื้อหรือขายหน่วยลงทุนหรือสับเปลี่ยนกองทุนรวม แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเงินลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งอาจไม่เห็นเป็นจำนวนเงินชัดเจนเท่าค่าธรรมเนียมแบบแรก เนื่องจากบริษัทจัดการเก็บจากกองทุนรวม โดยหลัก ๆ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมในการจัดการ ค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้แก่ผู้ดูแลผลประโยชน์และนายทะเบียนหน่วยลงทุน ส่วนนี้บริษัทจัดการจะคิดเป็นอัตราส่วนร้อยละของมูลค่าทรัพย์สิน และมีผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมลดลง
นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวซึ่งบางกองทุนก็เก็บจากกองทุนรวม บางกองทุนบริษัทจัดการเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง หากเป็นอย่างประการหลังนี้จะไม่กระทบต่อมูลค่าของหน่วยลงทุนค่ะ ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขาย และยังมีค่าใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบริการเสริม เช่น การโอนเงินค่าขายหน่วยลงทุน การหักเงินจากบัญชีธนาคาร ซึ่งจะเรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุนตามที่บริษัทจัดการได้จ่ายออกไปจริง
เห็นรายการค่าใช้จ่ายหลายรายการอย่างนี้ ที่จริงแล้วแต่ละรายการเมื่อคิดเป็นจำนวนเงินออกมาถือว่าเป็นเงินเล็กน้อย แต่ที่ต้องแตกรายการออกมาก็**เพื่อความโปร่งใสค่ะ** ผู้ลงทุนจะได้ทราบว่า ค่าใช้จ่ายที่มีผลต่อมูลค่าทรัพย์สิน ราคา และผลตอบแทนของผู้ลงทุนนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง **และประโยชน์ที่สำคัญอีกอย่างคือ ผู้ลงทุนจะได้ใช้เปรียบเทียบระหว่างกองทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน** ทั้งนี้ กองทุนรวมต้องเปิดเผยค่าธรรมเนียมต่างๆ ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด โดยจัดทำเป็น “ตารางแสดงค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุนหรือกองทุนรวม” ตามมาตรฐานที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดด้วยค่ะ
อนึ่ง ตามที่ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่บทความในคอลัมน์ร่วมคิด-ชวนคุย ตอนระวัง! ถูกหลอกให้ลงทุน เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2552 โดยแจ้งรายชื่อบริษัทที่ประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนหรือนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแล้วจำนวน 14 ราย โดยมีบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. เป็นหนึ่งในรายชื่อบริษัทดังกล่าว ต่อมาบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. ได้ท้วงติงมายัง ก.ล.ต. ว่า บริษัทได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เพื่อประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทยได้โดยถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย นั้น
ก.ล.ต. ขอชี้แจงเกี่ยวกับบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. โดยขอให้ข้อมูลรายละเอียดว่า บริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. เป็นบริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นผู้ค้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับ ก.ล.ต. แต่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าสถาบันเท่านั้น จะให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยไมได้ และเหตุที่บริษัทนี้ถูกกล่าวโทษก็สืบเนื่องจากการที่ ก.ล.ต. เข้าตรวจค้นและพบหลักฐานที่เชื่อได้ว่าบริษัทได้ชักชวนให้บุคคลทั่วไป
ซึ่งรวมถึงลูกค้ารายย่อย เข้ามาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับน้ำมันดิบ ทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อันเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจเกินกว่าขอบเขตที่สามารถกระทำได้
โดยชอบตามกฎหมาย ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบริษัทต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวน จึงเรียนมาเพื่อให้ทราบและเข้าใจโดยทั่วกัน
**ขอเชิญพบกับ ก.ล.ต. ในงาน SET in the City 2009 วันที่ 12-15 พ.ย. 52 ณ สยามพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 “การลงทุนเรื่องหมู ๆ ...ให้ ก.ล.ต. ช่วยส่องทาง แล้วการลงทุนจะไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป” **รับฟรีสมุดฉีกรักษ์โลก 1 เล่ม เพียงตัดชิ้นส่วนนี้มารับของที่ระลึกที่บูธ ก.ล.ต.**
ตัวเลขราคา 3 ตัวที่ผู้ลงทุนเห็นก็คือ (1) มูลค่าหน่วยลงทุน (หรือมูลค่าทรัพย์สิน (NAV) ต่อหน่วย) (2) ราคาขายหน่วยลงทุน และ (3) ราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุน ซึ่งเหตุที่ทำให้ราคาและมูลค่าเหล่านี้ต่างกันก็เพราะ "ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน "และ "ค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน " ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้ บริษัทจัดการจะเก็บโดยตรงจากผู้ลงทุนที่ทำรายการ โดยคิดเป็นอัตราร้อยละของมูลค่าหน่วยลงทุน ซึ่งบริษัทจัดการจะนำมาบวกหรือลบออกจากมูลค่าหน่วยลงทุน นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องการสับเปลี่ยนกองทุนรวมที่ลงทุนอยู่ก็อาจมี "ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน " อีกด้วย
ที่เล่ามาเป็นค่าธรรมเนียมที่ผู้ลงทุนเห็นชัดเจนในขณะที่ทำรายการซื้อหรือขายหน่วยลงทุนหรือสับเปลี่ยนกองทุนรวม แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการเงินลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งอาจไม่เห็นเป็นจำนวนเงินชัดเจนเท่าค่าธรรมเนียมแบบแรก เนื่องจากบริษัทจัดการเก็บจากกองทุนรวม โดยหลัก ๆ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมในการจัดการ ค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้แก่ผู้ดูแลผลประโยชน์และนายทะเบียนหน่วยลงทุน ส่วนนี้บริษัทจัดการจะคิดเป็นอัตราส่วนร้อยละของมูลค่าทรัพย์สิน และมีผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมลดลง
นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวซึ่งบางกองทุนก็เก็บจากกองทุนรวม บางกองทุนบริษัทจัดการเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง หากเป็นอย่างประการหลังนี้จะไม่กระทบต่อมูลค่าของหน่วยลงทุนค่ะ ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขาย และยังมีค่าใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับบริการเสริม เช่น การโอนเงินค่าขายหน่วยลงทุน การหักเงินจากบัญชีธนาคาร ซึ่งจะเรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุนตามที่บริษัทจัดการได้จ่ายออกไปจริง
เห็นรายการค่าใช้จ่ายหลายรายการอย่างนี้ ที่จริงแล้วแต่ละรายการเมื่อคิดเป็นจำนวนเงินออกมาถือว่าเป็นเงินเล็กน้อย แต่ที่ต้องแตกรายการออกมาก็**เพื่อความโปร่งใสค่ะ** ผู้ลงทุนจะได้ทราบว่า ค่าใช้จ่ายที่มีผลต่อมูลค่าทรัพย์สิน ราคา และผลตอบแทนของผู้ลงทุนนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง **และประโยชน์ที่สำคัญอีกอย่างคือ ผู้ลงทุนจะได้ใช้เปรียบเทียบระหว่างกองทุนเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน** ทั้งนี้ กองทุนรวมต้องเปิดเผยค่าธรรมเนียมต่างๆ ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด โดยจัดทำเป็น “ตารางแสดงค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุนหรือกองทุนรวม” ตามมาตรฐานที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดด้วยค่ะ
อนึ่ง ตามที่ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่บทความในคอลัมน์ร่วมคิด-ชวนคุย ตอนระวัง! ถูกหลอกให้ลงทุน เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2552 โดยแจ้งรายชื่อบริษัทที่ประกอบธุรกิจเป็นตัวแทนหรือนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และ ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแล้วจำนวน 14 ราย โดยมีบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. เป็นหนึ่งในรายชื่อบริษัทดังกล่าว ต่อมาบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. ได้ท้วงติงมายัง ก.ล.ต. ว่า บริษัทได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เพื่อประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทยได้โดยถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย นั้น
ก.ล.ต. ขอชี้แจงเกี่ยวกับบริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. โดยขอให้ข้อมูลรายละเอียดว่า บริษัท WSD Financial (NZ) Ltd. เป็นบริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นผู้ค้าสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับ ก.ล.ต. แต่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าสถาบันเท่านั้น จะให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยไมได้ และเหตุที่บริษัทนี้ถูกกล่าวโทษก็สืบเนื่องจากการที่ ก.ล.ต. เข้าตรวจค้นและพบหลักฐานที่เชื่อได้ว่าบริษัทได้ชักชวนให้บุคคลทั่วไป
ซึ่งรวมถึงลูกค้ารายย่อย เข้ามาลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับน้ำมันดิบ ทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ อันเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจเกินกว่าขอบเขตที่สามารถกระทำได้
โดยชอบตามกฎหมาย ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบริษัทต่อกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวน จึงเรียนมาเพื่อให้ทราบและเข้าใจโดยทั่วกัน
**ขอเชิญพบกับ ก.ล.ต. ในงาน SET in the City 2009 วันที่ 12-15 พ.ย. 52 ณ สยามพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 “การลงทุนเรื่องหมู ๆ ...ให้ ก.ล.ต. ช่วยส่องทาง แล้วการลงทุนจะไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป” **รับฟรีสมุดฉีกรักษ์โลก 1 เล่ม เพียงตัดชิ้นส่วนนี้มารับของที่ระลึกที่บูธ ก.ล.ต.**
