บลจ.ทิสโก้ คาดค่าเงินนิวซีแลนด์อาจแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังล่าสุดปรับตัวสวนทางดอลลาร์สหรัฐ ดันผลงานกองทุนพันธบัตร TISCONZ เข้าเป้าที่ตั้งไว้ 6% เตรียมปิดกองจ่ายเงินคืนนักลงทุน 22 กันยายนนี้ มั่นใจกองตระกูลเดียวกันจะทยอยจ่ายเงินคืนนักลงทุนได้อีกในอนาคต
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัดปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวได้ส่งผลให้ราคาหน่วยลงทุนของ “กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์" (TISCONZ) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เพราะผู้ลงทุนทั่วโลกหันไปถือเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเหตุให้เงินสกุลหลักอื่นๆ รวมทั้งเงินสกุลดอลลาร์นิวซีแลนด์ เกิดความผันผวนและอ่อนค่าลงไปอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนได้ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้เป็นเวลา 1 วันทำการ โดย ณ วันที่ 22 กันยายน 2552 หน่วยลงทุน (NAV) ของ "กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์" (TISCONZ) มีมูลค่าเท่ากับ 10.6608 บาทต่อหน่วย และทำให้สามารถปิดกองทุนและคืนเงินลงทุนพร้อมผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ก่อนครบอายุกองทุน หลังจากใช้เวลาเพียง 2 เดือนเศษในการขอมติจากผู้ถือหน่วย
"หลังจากได้รับผลกระทบดังกล่าวทำให้ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาบริษัทจึงได้ทำการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อขอขยายอายุกองทุนออกไป หลังจากที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวและเชื่อว่าในระยะยาวค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์น่าจะแข็งค่ากลับมาได้อีกครั้ง ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนส่วนใหญ่ได้ให้การตอบรับและมีความยินดีที่จะถือหน่วยลงทุนเพื่อลงทุนต่อไป"นายธีรนาถกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีกำหนดเลิกกองทุนและดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ วันอังคารที่ 29 กันยายน 2552 นี้ ส่วนกองทุนนิวซีแลนด์กองอื่นๆ ของ บลจ.ทิสโก้ ก็น่าจะถึงเป้าหมายโดยเร็วในอนาคต
สำหรับกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนของในพันธบัตรนิวซีแลนด์ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเช่นเดิมแม้จะมีการยึดอายุกองทุน แต่มีการเพิ่มเงื่อนไขให้สามารถเลิกกองทุนได้ก่อนครบอายุโครงการ 2 ปี 6 เดือน 15 วัน หากหน่วยลงทุน (NAV) มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 10.62 บาท เป็นเวลา 1 วันทำการ
นายธีรนาถ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เพื่อเป็นการเตรียมรองรับลูกค้าบางส่วนที่อาจต้องการโยกเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีความเสี่ยงทางด้านเครดิตต่ำ อัตราดอกเบี้ยสูงและมีทิศทางการแข็งค่าของเงินต่อเนื่อง บลจ.ทิสโก้ จึงออกกองทุนเปิด “ทิสโก้ ตราสารหนี้ภาครัฐสกุลเงินออสเตรเลีย" ที่ให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการมารองรับ โดยจะเปิดขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนในวันที่ 1 ตุลาคม 2552 นี้
ทั้งนี้ "กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้ภาครัฐสกุลเงินออสเตรเลีย"เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรหรือหน่วยงานภาครัฐของประเทศออสเตรเลีย โดยกองทุนจะรับผลตอบแทนเป็นสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย จึงเป็นการเพิ่มโอกาสทำกำไรหากค่าเงินออสเตรเลียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น สำหรับจุดเด่นของกองทุนนี้อยู่ที่การมีสภาพคล่องสูงมาก เนื่องจากลูกค้าสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และผลตอบแทนไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาอีกด้วย
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัดปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวได้ส่งผลให้ราคาหน่วยลงทุนของ “กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์" (TISCONZ) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เพราะผู้ลงทุนทั่วโลกหันไปถือเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเหตุให้เงินสกุลหลักอื่นๆ รวมทั้งเงินสกุลดอลลาร์นิวซีแลนด์ เกิดความผันผวนและอ่อนค่าลงไปอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนได้ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้เป็นเวลา 1 วันทำการ โดย ณ วันที่ 22 กันยายน 2552 หน่วยลงทุน (NAV) ของ "กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์" (TISCONZ) มีมูลค่าเท่ากับ 10.6608 บาทต่อหน่วย และทำให้สามารถปิดกองทุนและคืนเงินลงทุนพร้อมผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ก่อนครบอายุกองทุน หลังจากใช้เวลาเพียง 2 เดือนเศษในการขอมติจากผู้ถือหน่วย
"หลังจากได้รับผลกระทบดังกล่าวทำให้ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาบริษัทจึงได้ทำการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อขอขยายอายุกองทุนออกไป หลังจากที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวและเชื่อว่าในระยะยาวค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์น่าจะแข็งค่ากลับมาได้อีกครั้ง ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนส่วนใหญ่ได้ให้การตอบรับและมีความยินดีที่จะถือหน่วยลงทุนเพื่อลงทุนต่อไป"นายธีรนาถกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีกำหนดเลิกกองทุนและดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ วันอังคารที่ 29 กันยายน 2552 นี้ ส่วนกองทุนนิวซีแลนด์กองอื่นๆ ของ บลจ.ทิสโก้ ก็น่าจะถึงเป้าหมายโดยเร็วในอนาคต
สำหรับกองทุนดังกล่าวมีนโยบายการลงทุนของในพันธบัตรนิวซีแลนด์ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเช่นเดิมแม้จะมีการยึดอายุกองทุน แต่มีการเพิ่มเงื่อนไขให้สามารถเลิกกองทุนได้ก่อนครบอายุโครงการ 2 ปี 6 เดือน 15 วัน หากหน่วยลงทุน (NAV) มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 10.62 บาท เป็นเวลา 1 วันทำการ
นายธีรนาถ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เพื่อเป็นการเตรียมรองรับลูกค้าบางส่วนที่อาจต้องการโยกเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีความเสี่ยงทางด้านเครดิตต่ำ อัตราดอกเบี้ยสูงและมีทิศทางการแข็งค่าของเงินต่อเนื่อง บลจ.ทิสโก้ จึงออกกองทุนเปิด “ทิสโก้ ตราสารหนี้ภาครัฐสกุลเงินออสเตรเลีย" ที่ให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการมารองรับ โดยจะเปิดขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนในวันที่ 1 ตุลาคม 2552 นี้
ทั้งนี้ "กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้ภาครัฐสกุลเงินออสเตรเลีย"เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรหรือหน่วยงานภาครัฐของประเทศออสเตรเลีย โดยกองทุนจะรับผลตอบแทนเป็นสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย จึงเป็นการเพิ่มโอกาสทำกำไรหากค่าเงินออสเตรเลียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น สำหรับจุดเด่นของกองทุนนี้อยู่ที่การมีสภาพคล่องสูงมาก เนื่องจากลูกค้าสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และผลตอบแทนไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาอีกด้วย
