xs
xsm
sm
md
lg

“ราเกซ” หนีไม่รอด ศาลแคนาดาส่งตัวกลับไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เดอะแคนาเดียนเพรส/ASTV ผู้จัดการศาลสูงสุดแคนาดาไม่รับคำร้องพ่อมดการเงิน “ราเกซ สักเสนา” ต้องถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาขึ้นศาลไทย อัยการนัดแถลงเช้านี้ ด้านคณะที่ไปรับตัวที่แคนาดาถึงสุวรรณภุมิ 3 ทุ่ม กองปราบเตรียมห้องขังรอ บิ๊ก บสก.แถลงไม่พบชื่อ “ราเกซ-นักการเมืองกลุ่ม 16” ในบัญชีลูกหนี้

รายงานข่าวจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค. เวลา 21.30 น.?ที่ผ่านมา สำนักงานเดอะ แคนาเดียน เพรส ระบุศาลสูงสุดแคนาดาได้ตัดสินไม่รับคำร้องของนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ผู้หนีหมายจับของทางการไทย ในข้อหายักยอกทรัพย์บีบีซี ที่ขอให้กลับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ ซึ่งจะทำให้เขาถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงหลายๆ กระทง

ทั้งนี้ คณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดได้กระทำตามธรรมเนียมปฏิบัติตามปกติ นั่นคือไม่มีการให้เหตุผลสำหรับคำพิพากษาคราวนี้ เป็นการปิดฉากศึกการต่อสู้ทางกฎหมายในแดนใบเมเปิลที่ยืดเยื้อถึง 13 ปี

นางเดบอราห์ สตรักคัน ทนายความของสำนักงานอัยการสูงสุดแคนาดา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลไทย กล่าวในวันพุธ (28) ว่า พวกเจ้าหน้าที่ของไทยมาอยู่ที่เมืองแวนคูเวอร์แล้ว เพื่อนำตัวนายราเกซขึ้นเครื่องบินกลับไทยเร็วที่สุดหลังจากที่ศาลตัดสิน และงานเอกสารต่างๆ เสร็จสิ้นเรียบร้อย

“ดิฉันทราบว่าทางตำรวจไทยตั้งใจที่จะมาอยู่ที่นี่ในเวลาที่มีการอ่านคำตัดสิน และถ้าหากศาลพิพากษาไม่ให้มีการปล่อยตัวจำเลยแล้ว พวกเขาก็จะเดินทางกลับไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

คำตัดสินของศาลสูงสุดคราวนี้ เท่ากับเป็นการปิดฉากการต่อสู้ในคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ยืดเยื้อยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของแคนาดาทีเดียว

นายราเกซถูกจับกุมที่เมืองวิสต์เลอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย เมื่อปี 2539 ตามหมายขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนของไทย ซึ่งกล่าวหาเขาว่าฉ้อโกงเงินจากธนาคารใหญ่แห่งหนึ่งเป็นจำนวนเกือบ 88 ล้านดอลลาร์แคนาดา และแทบจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยต้องคว่ำคะมำ

นับแต่นั้นเขาก็ต่อสู้ในทางกฎหมายเรื่อยมาเพื่อให้ได้สิทธิที่จะอยู่ในแคนาดาต่อไป รวมทั้งความพยายามที่ล้มเหลวในปี 2549 ที่จะขอให้ศาลสูงสุดพิจารณาคดีของเขา ระหว่างกระบวนการพิจารณาคดีในศาลหลายต่อหลายศาล เขาถูกสั่งกักตัวให้อยู่แต่ภายในบ้านพักบ้าง, ได้รับอิสรภาพโดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอันเข้มงวดบ้าง, กลับมาถูกคุมขัง แล้วก็ได้เป็นอิสระอีกครั้ง

ในช่วงเวลาเหล่านี้ มีรายงานว่าเขาล้มป่วยด้วยอาการเส้นโลหิตในสมองแตก และในการไปปรากฏตัวในศาลที่บริติชโคลัมเบียครั้งท้ายๆ ของเขาหลายครั้ง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น

นายราเกซให้การต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ถ้าถูกส่งตัวกลับประเทศไทย เขาจะได้รับอันตราย และจะไม่ได้รับการพิจารณาคดีด้วยความยุติธรรม ทว่าทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบตลอดจนรัฐมนตรียุติธรรมแคนาดาที่รับตำแหน่งต่อเนื่องกันมา ต่างคัดค้านไม่เห็นด้วยกับข้อโต้แย้งนี้

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์รัฐบริติชโคลัมเบียได้ตัดสินยกคำอุทธรณ์ของเขา ที่ขอให้กลับคำพิพากาษาของศาลชั้นต้น ซึ่งตัดสินให้ส่งตัวเขากลับไปพิจารณาคดีที่ประเทศไทย คำตัดสินของศาลสูงสุดเมื่อวานนี้ก็เป็นการยืนยันคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้นนั่นเอง

“คดีนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 13 ปีแล้ว และทุกๆ ขั้นตอนของเส้นทางนี้ ศาลชั้นต่างๆ ได้ยืนยันว่ามีหลักฐานเพียงพอรับฟังได้ว่ามีการประพฤติในทางฉ้อโกง ซึ่งเพียงพอที่จะส่งตัวเขากลับประเทศไทยเพื่อรับการพิจารณาคดี” นางสตรักคันแถลง

ที่เมืองไทย วันนี้ 30 ต.ค. เวลา 10.00 น. นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด จะมีการแถลงข่าวที่ห้องประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง ส่วนกำหนดการกลับเมืองไทยของคณะที่ไปรับตัวนายราเกซที่แคนาดา ประกอบด้วยอธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ ตำรวจกองปราบปราม และแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ จะกลับมา 3 ทุ่ม คืนนี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

กองปราบฯ เตรียมพร้อมห้องขัง

หลังศาลฎีกาแคนาดาพิพากษาให้ส่งตัวนายราเกซมาดำเนินคดีในไทย เจ้าหน้าที่จะนำตัวมาควบคุมไว้ที่ห้องคุมขังของกองปราบปราม โดยที่กองปราบปราม มีการจัดเตรียมห้องคุมขังที่ติดกับสิบเวรไว้ พร้อมฟูกขนาด 3 ฟุต และหมอนไว้พร้อมรับนายราเกซ อย่างไรก็ตาม จากที่มีข่าว นายราเกซ ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อาจจะนำเตียงเหล็กมาเสริมให้ และอาจต้องเพิ่มกำลังตำรวจคอมมานโด จากเดิมเฝ้ายาม 2 นาย เป็น 4 นาย ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือนายราเกซ ถ้าจะทำธุระส่วนตัว ขณะเดียวกัน อาจจะประสานขอรถพยาบาลมาเตรียมพร้อม หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น

บสก.ไม่พบชื่อ 'ราเกซ-กลุ่ม 16'

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด หรือ บสก. เปิดแถลงข่าวบ่ายวานนี้ว่า สิ่งที่ บสก.ยังต้องดำเนินการในฐานะสิทธิ์ในความเป็นเจ้าหนี้ ก็คือ การติดตามหนี้และบริหารหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยในส่วนของลูกหนี้ที่อยู่ต่างประเทศเราก็เร่งดำเนินการติดตามหนี้กลับคืนมาได้แล้ว คือ 1.หุ้นในบริษัท MOVENPICK ซึ่งลูกหนี้ของ บสก.ถือหุ้นอยู่ในบริษัทดังกล่าวและจดทะเบียนในตลาดหุ้นของประเทศแคนาดา ทำธุรกิจโรงแรม ไอศกรีม โดยได้มีการจำหน่ายหุ้นดังกล่าวและได้เงินกลับมาในรูปแบบเงินบาท 1,500 ล้านบาท และยังได้รับเงินสดอีกประมาณ 100 ล้านบาท 2.การขายอพาร์ตเมนต์ในเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ได้ในราคา 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงิน 194 ล้านบาท และ 3. ทรัพย์ประเภทอื่นๆ เล็กๆ รวมแล้ว บสก.สามารถติดตามและจำหน่ายทรัพย์ของลูกหนี้ที่อยู่ในต่างประเทศได้เป็นเงินทั้งสิ้น 2,000 กว่าล้านบาท

อย่างไรก็ดี บสก.ยังได้เป็นโจทย์ร่วมกับเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของแบงก์บีบีซี ฟ้องลูกหนี้บริษัทในประเทศแคนาดาอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคดีความาแล้ว 3 ปี โดยมีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยเป็นหนี้ไม่มีหลักประกัน

“จากการตรวจสอบหลักฐานและเอกสารต่างๆ ที่ บสก.ได้รับโอนเอ็นพีแอลจากบีบีซี ตามคำสั่งของกองทุนฟื้นฟูฯ ไม่ได้ปรากฏชื่อนายราเกซในฐานะผู้กู้เงินกับหรือเป็นลูกหนี้กับ บสก. เช่นเดียวกับนักการเมืองกลุ่ม 16 เข้าใจว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปก่อนโอนมาให้ บสก. แต่ในเรื่องของคดีอาญาแล้ว จะเป็นฟากของอัยการในเมืองไทยฟ้องนายราเกซ ในคดีข้อหาฉ้อโกงแบงก์บีบีซี แต่ด้วยที่ต้องพยายามติดตามจำเลยกลับมา เพราะตามกระบวนการของคดีอาญาแล้วจำเลยต้องรับคำกล่าวที่ศาล นั้นหมายความว่า หลังจากที่นายราเกซ ได้หลบหนีมา คดีดังกล่าวก็ยังไม่ได้เริ่มต้น ซึ่งถ้าได้นายราเกซกลับมาก็ต้องมีการสืบพยาน เริ่มต้นนับหนึ่งของศาลไทย” นายบรรยงกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น