xs
xsm
sm
md
lg

“ซาเล้ง” ราดน้ำมันรถไฟ จ่อไล่อีก 17 พ่วง “สาวิทย์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - จับตาสหภาพฯ รถไฟหยุดงานทั่วประเทศ หลัง “ยุทธนา” เติมเชื้อไฟ เตรียมไล่ออกเพิ่มอีก 18 คน “สาวิทย์” อาจถูกหางเลขคำสั่งอัปยศ นายกฯ ช้า บอกอีก 1-2 วันจะเรียกเคลียร์สหภาพฯ-ฝ่ายบริหาร ส่วน “ซาเล้ง” ไม่รับรู้ “ถาวร” ตัวกลางเคลียร์ปัญหา


วานนี้ (29 ต.ค.) นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ฝ่ายบริหารร.ฟ.ท. พร้อมพูดคุยกับแกนนำสหภาพแรงงานวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เพราะเวลาได้ล่วงเลยกว่า 2 สัปดาห์แล้ว คาดว่าข้อเรียกร้องต่างๆ น่าจะมีวิธีการจัดการได้ สำหรับความเสียหายจากการหยุดเดินรถตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.- 29 ต.ค. 2552 รวม 80.3 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าเสียหายจากค่าโดยสารจำนวน 64.5 ล้านบาท และค่าเสียหายจากการขนส่งสินค้า 15.8 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือนร้อนจะดำเนินการเรียกค่าเสียหายกับ ร.ฟ.ท.

ส่วนการลงนามในคำสั่งไล่ออกพนักงาน ร.ฟ.ท.6 คนนั้น นายยุทธนากล่าวยืนยันว่าทั้งหมดไม่ได้เป็นสมาชิกของสหภาพฯ แต่เป็นเพียงคณะทำงานของสหภาพฯเท่านั้น และพนักงานสามารถยื่นอุทธรณ์โทษได้ภายใน 15 วัน ตามกระบวนการ

เตรียมไล่เพิ่ม 18 คนมี “สาวิทย์”


นายยุทธนากล่าวว่า ใน 1-2 วันนี้จะมีคำสั่งไล่ออกพนักงานที่เข้าข่ายฐานขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย และขัดคำสั่งศาลด้วยการขัดขวางไม่ให้มีการเดินรถไฟตามปกติ อีก 18 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานสถานีหาดใหญ่ 10 ราย ส่วนกลาง 8 ราย โดยในวันที่ 30 ต.ค. นี้ จะขออำนาจศาลแรงงานไล่ออก ซึ่งมีรายงานว่าในจำนวนนี้มีชื่อ นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพฯรวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ แม้สหภาพฯ ขู่จะหยุดเดินรถก็เป็นสิทธิของสหภาพฯทำได้ ฝ่ายบริหารก็มีมาตรการเข้มงวด ในเรื่องของใบลาจะมีความเคร่งครัดมากขึ้น และทุกครั้งที่ยื่นใบลาต้องสมเหตุสมผล เพื่อป้องกันการลาโดยไม่มีเหตุผล สิ้นเดือนนี้จะเดินรถได้ 100% ส่วนที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ได้ไปเจรจากับ สร.รฟท.นั้น ทาง ร.ฟ.ท.ไม่ได้รับการประสานจากนายถาวรแต่อย่างใด ดังนั้น การเจราจะไม่มีผลผูกพัน เป็นการคุยกับคณะทำงานของ สร.รฟท.ไม่ได้คุยกับ สร.รฟท. โดยตรง แต่ก็เป็นผลดีที่ รมช.มหาดไทยไปคุย เพราะเป็นการช่วยแก้ปัญหาได้อีกทางหนึ่ง

เรียกสหภาพฯ-ฝ่ายบริหารเคลียร์


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในงานสัมมนา Thailand Tomorrow ประเทศไทย 2553 ถึงการแก้ปัญหาภายใน การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่า การพัฒนาระบบลอจิสติกส์ ซึ่งเป็นแนวทางระยะยาวที่ต้องเร่งแก้ไข คือ การหาข้อยุติเกี่ยวกับปัญหารถไฟที่เกิดขึ้นขณะนี้ เพราะวันนี้ถือเป็นสิ่งดีที่รถไฟวิ่งให้บริการตามปกติ แต่รัฐบาลจะไม่มองว่าใครผิดใครถูก สิ่งที่ยอมรับไม่ได้คือการใช้ประชาชนเป็นตัวประกันจากการเรียกร้องต่างๆ ดังนั้น เมื่อรถไฟสามารถให้บริการได้แล้ว จากนั้นจะเชิญฝ่ายบริหาร สหภาพฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน เพื่อวางแผนพัฒนาระบบรางให้มีความยั่งยืนในอนาคต

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่าขอยืนยันว่าพนักงานทุกคนจะได้รับความเป็นธรรม คนที่ถูกลงโทษสามารถอุทธรณ์ได้ หากการเดินรถไฟเป็นปกติเมื่อไร ก็ยินดีที่จะเชิญทุกฝ่ายมาพูดคุยกันถึงปัญหาของตัวองค์กร ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ซึ่งหากใครเห็นว่าเกิดความไม่เป็นธรรมไม่ครอบคลุมหรือใครมีข้อมูลที่จะร้อง เรียนก็ให้มาร้องเรียนได้ ส่วนกรณีที่สหภาพเข้ามายื่นหนังเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา ไม่ได้เขียนในภาพรวมไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกเรื่องหรือไม่ เพราะล่าสุดการรถไฟฯ ก็ออกมายอมรับว่าเป็นการทิ้งประชาชนผู้โดยสาร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรายินดีที่จะตรวจสอบทุกเรื่องแต่ขอให้บริการเป็นปกติ หากเดินรถได้เป็นปกติ ภายในวันสองวันจะได้มาคุยกัน เมื่อถามว่าการทิ้งผู้โดยสารถือเป็นความผิด มากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การทิ้งประชาชนถือเป็นความผิดอยู่แล้ว แต่จะถึงขั้นปลดออกจากตำแหน่งหรือไม่ตนตอบไม่ได้เพราะต้องไปดูว่าข้อเท็จจริงและระเบียบต่างๆเป็นอย่างไร และนำมาเทียบเคียงกับกรณีที่มีการดำเนินการไปแล้ว

“ซาเล้ง” ไม่รับรู้ 'ถาวร' เคลียร์


ที่คณะกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร นายปัญญา ศรีปัญญา ในฐานะประธานฯ ได้เชิญนาย โสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และนางสุพันธ์ โลบุญเลิศ หัวหน้ากองพัฒนาธุรกิจโครงการ ตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศไทยเข้าชี้แจง กรณีแนวทางการฟื้นฟูแผนปฎิบัติการเพื่อปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการของการรถไฟแห่งประเทศไทย

นายโสภณกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ไปเจรจากับแกนนำสหภาพการรถไฟ เนื่องจากเกรงว่าสหภาพฯ อาจจะมีเงื่อนไขเพื่อนำไปเป็นข้อต่อรองในอนาคต โดยที่ตนไม่ทราบ รวมทั้งอาจทำให้สหภาพอื่นๆ มาเรียกร้อง ในกรณีอื่นได้อีก เพราะกระทรวงคมนาคมจะต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนได้ตั้งกรรมการสอบสวนการแก้ปัญหาการหยุดเดินรถไฟขึ้นมา 4 คณะ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 3 สัปดาห์ จึงจะรู้ผล

นายโสภณกล่าวต่อว่า ส่วนการปรับปรุงโครงสร้างของการรถไฟ ตนยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนามาแอบแฝงที่จะแปรรูปการรถไฟ แต่ต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้สินกว่า 8 หมื่นล้าน ที่มีมายาวนานเท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจที่ผู้ว่าการรถไฟฯ ไม่มาชี้แจงด้วยตัวเอง จึงทำให้กรรมาธิการไม่ทราบปัญหาที่เกิดขึ้นไดั้้นก็ขอให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ก่อนค่อยคุยกันอีกครั้ง เมื่อถามว่า 34 สหภาพแรงงงานรัฐวิสาหกิจก็ประกาศจะร่วมมือกับสหภาพรถไฟฯ หากมีการสั่งปลดพนักงาน นายสุเทพกล่าวว่าก็ต้องว่ากันไปตามกฎเกณฑ์กติกา

6 พนง.รถไฟหาดใหญ่โวยถูกแกล้ง

ส่วนความเคลื่อนไหวของพนักงานการรถไฟหาดใหญ่ทั้ง 6 คนที่ถูกกฝ่ายบริหารมีคำสั่งไล่ออกเหตุละเมิดคำสั่งศาลจังหวัดสงขลา ขัดขวางการเดินรถไฟ ประกอบด้วย นายวิรุฬห์ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย สาขาหาดใหญ่, นายประชาวิวัฒน์ บัวศรี, นายสาโรจน์ รักจันทร์, นายธวัชชัย บุญวิสูตร, นายสราวุธ พ่อทองคำ และนายนิตินัย ชัยภูมิ ได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงและประกาศจุดยืน

โดยนายวิรุฬห์ 1 ในพนักงานที่ถูกไล่ออก กล่าวว่า พวกตนทั้ง 6 คนไม่ยอมรับคำสั่งดังกล่าวเพราะขัดกับข้อเท็จจริงที่ทางพนักงานและสมาชิกสหภาพฯรถไฟหาดใหญ่เคลื่อนไหวทั้งข้อกล่าวหาเรื่องยึดรถจักรและการขัดขวางการเดินขบวนรถ เพราะเป็นเพียงการรอซ่อมบำรุงระบบความปลอดภัยจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเห็นได้จากการที่ฝ่ายบริหารจัดการส่งหน่วยซ่อมและวิศวกรเป็นหัวหน้าควบคุมการซ่อมมาจากส่วนกลาง และการที่ไม่นำรถจักรออกไปทำขบวนนั้นเป็นการปฎิบัติตามข้อกรอบข้อบังคับและระเบียบการเดินรถ พ.ศ.2549 และข้อตกลงสภาพการจ้างฯข้อที่ 14 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2545 โดยมีเจตนาที่ดีกระทำไปเพื่อความปลอดภัยของขบวนรถ และยังปฏิบัติตามพรบ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ.2543 ในมาตรา 58 ซึ่งพนักงานมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย

เช่นเดียวกับกรณีของขบวนรถไฟที่ 463 ซึ่งหวิดเกิดอุบัติเหตุ พนักงานขับที่ส่งมาจากส่วนกลางฝ่าฝืนหอสัญญาณที่ยังไม่อนุญาติให้ออกรถจนเกือบตกรางและชนกับขบวนอื่น จนเกิดความชุลมุนตามมาซึ่งภาพที่ออกมาจึงดูเหมือนว่าสหภาพฯจะเข้าไปล้อมกรอบขัดขวางการเดินรถ แต่ในทางกลับกันทางแกนนำสหภาพฯพยายามเข้าช่วยคลี่คลายสถานการณ์และเจรจาจนสามารถนำพนักงานออกมาได้อย่างปลอดภัย

แฉ “ซาเล้ง” ร่ายมนต์อยู่เบื้องหลัง

นายวิรุฬห์กล่าวว่า คำสั่งไล่ออกเป็นคำสั่งที่ผู้บริหารจงใจกลั่นแกล้งเพราะเป็นการออกคำสั่งย้อนหลัง หลังจากที่มีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับฝ่ายผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ซึ่งมีนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทยเป็นคนกลาง เพื่อให้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของสหภาพฯรถไฟหาดใหญ่ ซึ่งการรถไฟยอมรับในข้อตกลง แต่กลับออกคำสั่งไล่ออกตามมา เท่ากับเป็นการจงใจล้มกระบวนการของสหภาพฯรถไฟหาดใหญ่ ที่เรียกร้องให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ตามที่ผู้บริหารได้ทำบันทึกข้อตกลงไว้กับสหภาพรถไฟมาหลายครั้งแต่ยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนออกมา ที่สำคัญการลงโทษพนักงานโดยมีคำสั่งไล่ออกนั้นมีการเมืองอยู่เบื้องหลังที่เชื่อมโยงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ส่วนการที่จะยื่นขออุทธรณ์หรือไม่นั้นจะให้ฝ่ายกฏหมายพิจารณาในรายละเอียดของคำสั่งดังกล่าวว่าชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ แต่ยืนยันว่าทั้ง6 คนจะขอสู้ตามกระบวนการของกฏหมายอย่างถึงที่สุดเพราะสิ่งที่สหภาพฯรถไฟหาดใหญ่ทำนั้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนและไม่มีการเมืองแอบแฝงอย่างที่ถูกนายอาคา เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่กล่าวหา ซึ่งประเด็นนี้นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เป็นผู้ที่ออกมายืนยันเองว่าสิ่งที่สหภาพฯ เทำนั้นเพื่อความปลอดภัยของประชาชนจริงๆ ไม่เกี่ยวกับการเมือง

43 องค์กร สรส.เริ่มขยับเคลื่อนไหว

นายวิรุฬห์ระบุว่า ขณะนี้เริ่มมีการส่งสัญญาณจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส.ซึ่งมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดอยู่ 43 องค์กรจะออกมาร่วมกันเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม รวมทั้งเริ่มมีพลังมวลชนในพื้นที่ออกมาร่วมต่อสู้

ด้าน นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ในส่วนของการลงนามคำสั่งไล่พนักงานของร.ฟ.ท. ออกทั้ง 6 คน นั้น การกระทำดังกล่าวของผู้ว่าร.ฟ.ท.เป็นการไล่ออกโดยพลการ เนื่องจากพนักงานไม่ได้กระทำผิดอะไร และพนักงานทั้งหมดเป็นกรรมการของสหภาพฯ ผู้ว่าฯไม่สามารถไล่ออกได้ ตามข้อตกลงที่ทำไว้ก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพนักงานทั้ง 6 คนถูกไล่ออกได้มีพนักงานและสมาชิกสหภาพรวมทั้งประชาชนใน อ.หาดใหญ่ นำดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจในการที่จะต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป นอกจากนั้นได้มีการจุดประทัดจำนวน 3,000 นัดขับไล่ขบวนรถไฟที่ 436 ขณะเคลื่อนออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ ปลายทางสุไหงโก-ลก เมื่อช่วงเช้าวานนี้ด้วย

เปิดเดินรถไฟสายใต้ตามปกติแล้ว

ส่วนบรรยากาศวันแรกของการเปิดเดินรถไฟขบวนท้องถิ่นเต็มรูปแบบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (29 ต.ค.) ตั้งแต่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ลงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประชาชนมาใช้บริการไม่มากนัก เพราะยังไม่มั่นใจและไม่ทราบว่าการรถไฟฯ เปิดให้บริการตามปกติแล้ว โดยรถขบวนแรกที่ออกจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ คือขบวนที่ 175 หาดใหญ่-สุไหงโกลก และตามมาด้วยรถไฟระยะทางยาวจากกรุงเทพฯ-สุไหงโกลก แม้จะเกิดความเข้าใจผิดสำหรับผู้โดยสารที่คิดว่ายังต้องเปลี่ยนมาใช้รถขบวนท้องถิ่น จึงขนสัมภาระลงจากขบวนรถเดิม แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงผ่านเสียงตามสาย จึงได้ขนสัมภาระกลับไปขบวนรถคันเดิม

ขณะที่การรักษาความปลอดภัยทั้งที่สถานีรถไฟต่างๆ และบนขบวนรถเป็นไปอย่างเข้มงวด ทำให้ผู้โดยสารที่มารอขึ้นรถมีความมั่นใจมากขึ้นว่ารถไฟจะถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ

อ้างหยุดวิ่ง 14 วัน เสียหาย 60 ล้าน

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผอ.ศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้เปิดเดินรถไฟขบวนท้องถิ่นและระยะทางยาวทั้งขาขึ้น-ขาล่องได้ทั้งหมดแล้ว ยกเว้นขบวนท้องถิ่น 452 สุไหงโกลก-นครศรีธรรมราช และขบวน 448 สุไหงโกลก-สุราษฎร์ธานี ที่ยังไม่สามารถเปิดเดินรถได้ เพราะรถพ่วงยังตกค้างใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่พนักงานประจำหัวรถจักร ทั้งพนักงานขับรถและช่างเครื่องที่ออกให้บริการในวันนี้ เป็นพนักงานของสถานีหาดใหญ่คนเดิม ซึ่งเริ่มกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในวันแรกเช่นกัน ส่วนพนักงานที่ถูกส่งมาจากส่วนกลางบางคนได้เริ่มทยอยกลับบ้านแล้ว

“การหยุดเดินรถไฟในช่วง 14 วันที่ผ่านมาสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับการรถไฟฯ ถึง 60 ล้านบาท ถึงแม้ว่าในวันนี้จะเปิดให้บริการแล้ว แต่ดูเหมือนว่าผู้โดยสารยังบางตา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังเปิดให้บริการตามปกติแล้ว รายได้ของผู้โดยสาร รวมถึงรายได้ของการรถไฟฯ จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ”

จับตาหวั่นรถไฟหยุดทั่วประเทศ

แหล่งข่าวจากสหภาพการรถไฟฯ กล่าวว่า ทางสหภาพจะมีการเคลื่อนไหวและหยุดงานทั่วประเทศครั้งใหญ่ภายใน 1-2 วันนี้ สาเหตุที่เปิดวิ่งในวันนี้เพราะทำตามข้อตกลงของถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ตกลงกัน แต่เมื่อเกิดการบิดพลิ้วไม่เป็นไปตามข้อตกจึงต้องมีการตอบโต้ด้วยการประท้วงหยุดงานทั่วประเทศ เพราะมีการปลดพนักงานรถไฟ

รถไฟยังตกรางรายวัน

เวลา 06.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ ทองลือ สวป.สน.บางขุนเทียน ได้รับแจ้งทางวิทยุว่ามีรถไฟตกราง ระหว่างสถานีวัดสิงห์ กับที่หยุดรถบางบอน แขวงบางบอน เขตบางบอน จึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม พบรถไฟสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ ขบวน 1211 มีจำนวน 4 โบกี้ พบว่าโบกี้ที่ 3 ล้อตกจากรางไถลออกนอกเส้นทางเป็นระยะทางกว่า 300 เมตร โดยมีผู้โดยสารกว่า 500 คน อยู่ในสภาพตกใจพากันยื่นหน้ามุงดู โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากการสอบสวนทราบว่า รถไฟขบวนดังกล่าววิ่งออกจากสถานีมหาชัย มุ่งหน้าไปวงเวียนใหญ่ ตั้งแต่เวลา 04.30 น. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุโบกี้ที่ 3 มีอาการตะกุกตะกัก ล้อได้ไถลออกนอกราง ซึ่งพนักงานขับรถไฟได้พยายามหยุดรถไฟ แต่ก็ไม่สามารถบังคับรถให้หยุดได้ จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวบริเวณท้ายซอยเพชรเกษม 83

นอตเหล็กยึดหมอนหลุดอื้อ

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัสดุ ณ ที่ทำการสารวัตรงานรถดีเซลรางสมุทรสาคร แจ้งว่า สาเหตุที่รถไฟไถลออกนอกเส้นทาง เพราะว่าเครื่องยึดเหนี่ยวรางรถไฟ ลักษณะคล้ายนอตเป็นเหล็ก ที่ทำการยึดหมอนคอนกรีตกับรางรถไฟมีสนิมขึ้นจำนวนมาก ได้หักออกจากหมอนรถไฟคอนกรีต โดยพบว่าเกิดการชำรุดเป็นระยะทาง 303 เมตร

ทั้งนี้ รางรถไฟสายดังกล่าวเป็นเส้นทางเฉพาะขบวนสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุมีป้ายบังคับให้รถไฟสามารถทำความเร็วได้เพียง 20 กม.ต่อชม. โดยแต่ละวันจะมีรถไฟวิ่งไป-กลับเส้นทางดังกล่าวทั้งสิ้น 34 ขบวน จะมีกองบำรุงมาคอยตรวจสอบสถาพเส้นทาง ถ้าหากพบว่าจุดใดชำรุดก็จะทำการซ่อมโดยการเกลี่ยก้อนหินในเข้าเสมอกับหมอนรถไฟ ทั้งที่เป็นช่วงหมอนคอนกรีตและหนอมไม้ ซึ่งกำลังมีการพิสูจน์สาเหตุทั้งหมดอยู่

ยอมรับสภาพเก่าตกรางบ่อย

ด้าน นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า สาเหตุคาดว่ามาจากหมอนรางรถไฟมีอายุการใช้งานนานมาก ประกอบกับเกิดฝนตกลงมาทำให้ดินยุบตัว จนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น

“สภาพรางของเส้นทางรถไฟสายวงเงียนใหญ่-มหาชัย และมหาชัย-แม่กลองนั้น มีอายุการใช้งานที่นานมากแล้ว ไม้หมอนรถไฟก็รับน้ำหนักได้เพียง 70 ปอนด์เท่านั้น ซึ่งต่างจากเส้นทางอื่นที่สามารถรับน้ำหนักได้ 100 ปอนด์ รวมทั้งเกิดฝนตกลงมาอีกทำให้เกิดอุบัติเหตุ”นายยุทธนา กล่าวและว่า“ขณะนี้สิ่งที่ต้องแก้ปัญหาก่อน หลังจากการรอการจัดสรรงบประมาณ คือ ได้กำชับให้พนักงานขับรถไฟวิ่งโดยใช้ความเร็วต่ำเพื่อแก้ปัญหาไปก่อน” นายยุทธนากล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น