xs
xsm
sm
md
lg

ฝ่ายบริหารสั่งยึดรถไฟสู่ จชต. หวิดเกิดวินาศกรรมซ้ำรอย‘เขาเต่า’!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การดื้อแพ่งของฝ่ายบริหารที่พยายามนำขบวนรถไฟขบวนที่ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก ให้บริการผู้โดยสารด้วยพนักงานและช่างเครื่องจากส่วนกลางหวิดเกิดอุบัติเหตุชนกับขบวนรถจากลังกาวี
รายงานโดย...ศูนย์ข่าวหาดใหญ่

ขบวนรถไฟสายที่มุ่งสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้หยุดให้บริการมาร่วม 2 สัปดาห์แล้ว ขณะเดียวกันฝ่ายบริหารก็พยายามเล่นเกมบิดเบือนให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม โดยเฉพาะในข้อหาทำให้ประชาชนเดือดร้อน ทั้งๆ ที่โดยข้อเท็จจริงแล้วการเคลื่อนไหวของ สร.รฟท.ครั้งนี้ตั้งอยู่บนฐานของการคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเป็นด้านหลัก

แถมที่ผ่านมา นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่า รฟท.เองก็จำนนด้วยหลักฐานออกมายอมรับแล้วว่า ฝ่ายบริหารเป็นผู้สั่งให้หยุดขบวนรถไปที่สถานีละแม จ.ชุมพร ซึ่งกว่าเรื่องนี้จะเป็นที่รับรู้ของประชาชนก็ล่วงเลยเวลาเกือบสัปดาห์ที่ สร.รฟท.ต้องถูกพี่น้องประชาชนเข้าใจผิด

ล่าสุดก็ได้เกิดเหตุการณ์ ฝ่ายบริหารสั่งให้เด็กในคาถายึดขบวนรถไฟที่จอดอยู่ ณ สถานีชุมทางหาดใหญ่ แล้วให้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างภาพหมายต้องการเอาชนะการชุมนุมกดดันของ สร.รฟท.สาขาหาดใหญ่ พร้อมๆ กับคิดว่าหากทำให้เปิดบริการรถไฟสายชายแดนใต้ได้สำเร็จ สร.รฟท.สาขาหาดใหญ่ก็จะได้ตกเป็นจำเลยของสังคมอีกคราครั้ง การเปิดฉากของฝ่ายบริหารในเกมนี้หวิดทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟตกรางซ้ำรอยเหตุการณ์ที่สถานีเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนนวนมาก เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ฝ่ายบริหารสั่งยึดขบวนรถไฟสายชายแดนใต้ ณ สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ครั้งนี้ สังคมคนใต้เมื่อได้ทราบข้อเท็จจริงแล้วต่างก็เกิดความสงสัยว่า แนวทางการแก้ปัญหาของผู้บริหาร รฟท.มีผลประโยชน์ใดอยู่เบื้องหลัง และความขัดแย้งกับ สร.รฟท.จะจบลงได้อย่างไร

เมื่อค่ำวันที่ 26 ต.ค.ประชาชนกว่า 300 คนรอรับขบวนรถเปล่าที่ตีกลับจากสถานีปัตตานี หลังจากเกิดเหตุฝ่ายบริหารสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและอาสาสมัครร่วม 100 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เข้ายึดรถไฟขบวนที่ 463 เป็นขบวนรถท้องถิ่นออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ มุ่งหน้าสู่สถานีปัตตานี โดยไม่ได้รับสัญญาณคิวจากนายสถานีแต่อย่างใด และพนักงานขับรถขบวนดังกล่าวล้วนเป็นคนที่ฝ่าบบริหารส่งมาจากส่วนกลาง โดยบนขบวนรถไฟไม่มีแม้แต่เงาของผู้โดยสารสักคนเดียว เมื่อรถถึงสถานีปัตตานีก็ให้เลี้ยวหัวกลับสู่สถานีชุมทางหาดใหญ่ทันที

นายวิรุฬห์ สะแกคุ้ม ประธาน สร.รฟท.สาขาหาดใหญ่ กล่าวว่า การนำขบวนรถออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่นั้น พนักงานรถจักรต้องลงนามรายงานตัวต่อหัวหน้างานทุกครั้ง และต้องมีขั้นตอนการตรวจขบวนรถ ที่สำคัญต้องมีพนักงานรักษารถคอยให้สัญญาณ ทั้งที่หัวรถและท้ายขบวนรถ รวมถึงต้องมีพนังงานหนีบตั๋ว แต่รถขบวนดังกล่าวมีเพียงพนักงานขับแค่คนเดียว และบรรทุกเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟกับ อส.อีกจำนวนหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้การหยุดให้บริการรถไฟขบวนท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะสายที่มุ่งสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงวันนี้ร่วม 2 สัปดาห์แล้ว หลังจาก สร.รฟท.ตกเป็นจำเลยสังคมในข้อหาทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่หลังจากประชาชนเริ่มติดตามข่าวสาร และได้รับข้อมูลที่เป็นจริงมากขึ้น ทำให้เกิดความเข้าใจว่าการหยุดเดินรถไฟก็เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยต่อประชาชน เพราะหัวรถจักรทุกคันไม่สมบูรณ์ เนื่องจากระบบเตือนคนขับหมดสติชำรุด

นางขนิษฐา อุบลขาว ชาวหาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า หลังจากได้ติดตามข่าวสารทั้งที่นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่า รฟท.ออกมาให้สัมภาษณ์ กับที่นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธาน สร.รฟท.ออกมาแถลงข่าว จะเห็นได้ว่าข้อมูลจะไม่เหมือนกันเลย ตนเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณที่จะเข้าใจที่นายสาวิทย์พูดได้ว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีอุปกรณ์หลายอย่างที่ชำรุด รวมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่สถานีเขาเต่าก็เกิดจากอุปกรณ์รถจักรไม่สมบูรณ์ และปัจจุบันสภาพรถไฟที่ใช้อยู่ก็เสื่อมโทรมมานานแล้ว

นอกจากนี้ เมื่อกระทรวงคมนาคมประกาศยืนยันต้องเดินรถไฟลงสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ ฝ่ายบริหารการรถไฟจึงส่งนักเรียนวิศวกรรมรถไฟจำนวน 56 คนให้มาทำหน้าที่แทนพนักงานขับรถ ซึ่งไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการ แต่นักเรียนวิศวรถไฟที่ถูกส่งมายังไม่ทันได้ทำหน้าที่ เพียงแต่มาถึงถูกกักตัวไว้ในโบกี้รถไฟ 2 คันที่จัดไว้ให้เฉพาะ มีการคุมเข้มด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ โดยไม่ให้ออกไปไหน และไม่ให้เจอใคร แถมกำชับไม่ให้มีการให้ข้อมูลใดๆ แก่สื่อและประชาชนทั้งสิ้น

จากการที่ฝ่ายบริหารพยายามเล่นเกมบิดเบือน เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ สร.รฟท.สาขาหาดใหญ่ได้ตกเป็นจำเลยของสังคมด้วยนั้น ในช่วง 2-3 วันมานี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสงขลา จึงออกมาเคลื่อนไหวในนามภาคประชาชนเพื่อสนับสนุนความเคลื่อนไหวของ สร.รฟท.สาขาหาดใหญ่ ซึ่งเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ก็ได้จัดขบวนรณรงค์แจกเอกสารทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในเมืองหาดใหญ่ ต่อจากนั้นก็ได้ตั้งเวทีให้ข้อมูลข่าวสารประชาชน ณ บริเวณลานประวัติศาสตร์หน้าสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่

นางเจริญ ภัณฑ์ทวี ชาวหาดใหญ่ กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวก็ได้ออกมาร่วมขบวนกับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยหลังจากทราบว่า ฝ่ายบริหาร รฟท.ส่งนักเรียนวิศวรถไฟมาขับรถไฟแทนพนักงาน เนื่องจากพอจะมีข้อมูลอยู่บ้างว่า การที่พนักงานรถไฟจะสามารถขับรถไฟเพื่อรับส่งผู้โดยสารได้อย่างน้อยต้องมีประสบการณ์ในการขับรถ 7-8 ปี ดังนั้นหากให้นักเรียนจบใหม่มาขับคงไม่มีความปลอดภัยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเส้นทางในพื้นที่ชายแดนภาคใต้หากพนักงานขับรถไม่มีความชำนาญในเส้นทาง ในเรื่องของความปลอดภัยก็อาจจะเป็นศูนย์ได้

ทั้งนี้สถานการณ์เริ่มตึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากฝ่ายบริหารมีคำสั่งให้ยึดขบวนรถไฟเพื่อเดินทางไป จ.ปัตตานีด้วยขบวนรถเปล่าเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ตามติดด้วยวันที่ 27 ต.ค.ก็มีการยึดขบวนรถไฟท้องถิ่นขบวนที่ 463 เส้นทางพัทลุง–สุไหงโก-ลก ออกจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่โดยฝ่าสัญญาณไฟแดงออกไปอีกครั้ง ซึ่งขบวนรถนี้ไม่มีในกำหนดในตารางเดินรถวันดังกล่าว โดยมีพนักงานขับรถและช่างเครื่องจากส่วนกลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟกับ อส.ประมาณ 20 นายอยู่บนขบวนรถ ไม่มีแม้เงาผู้โดยสารสักคนเดียวเช่นเคย

จึงเป็นเหตุให้หวิดเกิดอุบัติเหตุรถไฟตกราง เนื่องจากพนักงานขับรถไม่ชำนาญเส้นทาง แถมนำขบวนรถไปออกไปในเส้นทางเดียวกับขบวนรถไฟสายต่างประเทศ ลังกาวี-หาดใหญ่ เป็นขบวนรถท่องเที่ยวที่กำลังทำการสับรางเพื่อเข้าจอดที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ หลังจากได้ส่งผู้โดยสารลงที่สถานีเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าพนักงานขับรถขบวนท้องถิ่นดังกล่าวต้องหยุดรถอย่างกะทันหัน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ สร.รฟท.สาขาหาดใหญ่และพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่เห็นเหตุการณ์ เมื่อรถไฟจอดจึงได้ไปล้อมหัวรถจักรไว้ โดยให้พนักงานขับรถดับเครื่องยนต์ จึงทำให้สถานการณ์ชุลมุนวุ่นวายอยู่กว่า 1 ชั่วโมง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.หาดใหญ่และตำรวจรถไฟกว่า 100 นายเข้าควบคุมสถานการณ์ ซึ่งก็ได้ควบคุมตัวพนักงานขับรถและช่างเครื่องไปที่สถานีตำรวจรถไฟ เหตุการณ์จึงคลี่คลายลงได้

อย่างไรก็ตาม รถไฟขบวนท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ที่หยุดให้บริการมาร่วม 2 สัปดาห์ ขณะนี้หลายสายเปิดให้บริการแล้ว ยกเว้นเส้นทางสู่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังไม่มีความพร้อม โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ส่วนการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างฝ่ายบริหาร รฟท.กับ สร.รฟท.จะจบลงอย่างไร ก็คงต้องจับตากันอย่างใกล้ชิดต่อไป
นอกจากฝ่ายบริหารจะไม่แก้ปัญหาความพร้อมของอุปกรณ์และหัวรถจักร แต่กลับนำพนักงานส่วนกลางและส่งเจ้าหน้าที่ยึดหัวรถจักร แต่ไม่ได้คำนึงความปลอดภัยของประชาชนเลย
ปัญหาที่เกิดจากทั้งผู้บริหารรถไฟฯ และรัฐบาล ปลุกพลังพันธมิตรฯ สงขลาสนับสนุนการต่อสู้ของสหภาพฯ เพื่อสาธารณประโยชน์
กำลังโหลดความคิดเห็น