ASTVผู้จัดการรายวัน – “ประสาร” คาดดอกเบี้ยนโยบายขยับขึ้นช่วงไตรมาส 2 ปีหน้า อีก 0.25% หลังพบสัญญาณเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ส่วนสินเชื่อบ้านหลังมีดอกเบี้ยคงที่แข่งขันในตลาดมากขึ้นลดความเสี่ยงกับผู้กู้ พร้อมจับมือบตท.ขายพอร์ตสินเชื่อนำร่อง 500 ล้านบาทขยายฐานสู่กลุ่มเงินเดือน 1 หมื่นที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยของตนเอง
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยในระบบขณะนี้ยังถือว่าอยู่ระดับที่ต่ำโดยในส่วนดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ 1.25% ต่อไปจนถึงสิ้นปี จะปรับขึ้นอีก 0.25% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์เร่งตัวสูงขึ้น โดยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แต่จะปรับขึ้นเท่าไรนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับการแข่งขันในตลาดและผลิตภัณฑ์ทางการเงินของแต่ละสถาบันการเงินที่จะออกมา
สำหรับการปล่อยสินเชื่อโดยรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ยังหดตัว 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกที่ติดลบถึง 2.5% อย่างไรก็ตามจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น การส่งออกที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะคำสั่งซื้อสินค้าคงค้างที่เริ่มกลับเข้ามา รวมถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ จึงทำให้เชื่อว่าการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทยจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4-5%ได้
โดยในส่วนของสินเชื่อบ้านยังขยายตัวได้ดีเนื่องจากได้รับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำรวมทั้งสถาบันการเงินต่างออกรายการส่งเสริมการขายที่เน้นอัตราดอกเบี้ยคงที่ทำให้ประชาชนนำปัจจัยนี้มาพิจารณาจัดการความเสี่ยงในการยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้รวมทั้งมีทางเลือกในการบริหารจัดการทางการเงินของตนเองได้เพิ่มขึ้น
นายประสารกล่าวว่า นอกจากนี้ธนาคารได้ร่วมมือกับบรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย(บตท.) จัดโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยคงที่โดยมีทางเลือกอัตราดอกเบี้ย 4 แบบคือ แบบที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก 2.99% ต่อปี แบบที่2 คงที่2 ปีแรก 4.99% แบบที่3 คงที่ 3 ปีแรก 5.59% ต่อปี และแบบที่4 คงที่ 4 แรก 6.09% ต่อปี จากนั้น ลอยตัวที่อัตรา MLR – 0.25% จนครบสัญญา ระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี
“โครงการนี้จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่รายได้ตั้งแต่ 1 หมื่นบาทที่เราเลิกทำตลาดไประยะหนึ่งให้มีโอกาสมีที่อยู่อาศัยในอัตราดอกเบี้ยที่สอดคล้องกับรายได้และแนวโน้มของตลาด ปล่อยกู้วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทหรือ 65 เท่าของรายได้รับวงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน” นายประสารกล่าว
นางดวงพร อาภาศิลป์ กรรมการและผู้จัดการ บตท. กล่าวว่า โครงการนี้ธนาคารกสิกรไทยจะขายพอร์ตสินเชื่อให้กับบตท.โดยตั้งวงเงินไว้ที่ 500 ล้านบาท ซึ่งบตท.มีความตั้งใจที่จะออกผลิตภัณฑ์ดอกเบี้ยคงที่และมีระยะเวลากู้ยืมที่ยาวนานกว่านี้แต่ตลาดยังมีข้อจำกัดอยู่ และในอนาคตหากตลาดมีความต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ระยะยาวมากกว่านี้บตท.ก็พร้อมที่จะดำเนินการ
“ตอนนี้เราทำตลาดในรูปแบบซีเคียวรีไทเซชั่นร่วมกับพันธมิตร 3 รายคือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเกียรตินาคินและธนาคารกสิกรไทย ซึ่งคาดว่าโครงการที่ริเริ่มทำกันในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จและขยายผลกับสถาบันการเงินอื่นต่อไป เพื่อเป็นการพัฒนารูปแบบตลาดรองในประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นและเพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินในระบบได้มากขึ้น” นางดวงพรกล่าว
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยในระบบขณะนี้ยังถือว่าอยู่ระดับที่ต่ำโดยในส่วนดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ 1.25% ต่อไปจนถึงสิ้นปี จะปรับขึ้นอีก 0.25% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์เร่งตัวสูงขึ้น โดยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แต่จะปรับขึ้นเท่าไรนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับการแข่งขันในตลาดและผลิตภัณฑ์ทางการเงินของแต่ละสถาบันการเงินที่จะออกมา
สำหรับการปล่อยสินเชื่อโดยรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ยังหดตัว 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกที่ติดลบถึง 2.5% อย่างไรก็ตามจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น การส่งออกที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะคำสั่งซื้อสินค้าคงค้างที่เริ่มกลับเข้ามา รวมถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ จึงทำให้เชื่อว่าการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทยจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 4-5%ได้
โดยในส่วนของสินเชื่อบ้านยังขยายตัวได้ดีเนื่องจากได้รับอานิสงส์จากอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำรวมทั้งสถาบันการเงินต่างออกรายการส่งเสริมการขายที่เน้นอัตราดอกเบี้ยคงที่ทำให้ประชาชนนำปัจจัยนี้มาพิจารณาจัดการความเสี่ยงในการยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้รวมทั้งมีทางเลือกในการบริหารจัดการทางการเงินของตนเองได้เพิ่มขึ้น
นายประสารกล่าวว่า นอกจากนี้ธนาคารได้ร่วมมือกับบรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย(บตท.) จัดโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยคงที่โดยมีทางเลือกอัตราดอกเบี้ย 4 แบบคือ แบบที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก 2.99% ต่อปี แบบที่2 คงที่2 ปีแรก 4.99% แบบที่3 คงที่ 3 ปีแรก 5.59% ต่อปี และแบบที่4 คงที่ 4 แรก 6.09% ต่อปี จากนั้น ลอยตัวที่อัตรา MLR – 0.25% จนครบสัญญา ระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี
“โครงการนี้จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่รายได้ตั้งแต่ 1 หมื่นบาทที่เราเลิกทำตลาดไประยะหนึ่งให้มีโอกาสมีที่อยู่อาศัยในอัตราดอกเบี้ยที่สอดคล้องกับรายได้และแนวโน้มของตลาด ปล่อยกู้วงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาทหรือ 65 เท่าของรายได้รับวงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน” นายประสารกล่าว
นางดวงพร อาภาศิลป์ กรรมการและผู้จัดการ บตท. กล่าวว่า โครงการนี้ธนาคารกสิกรไทยจะขายพอร์ตสินเชื่อให้กับบตท.โดยตั้งวงเงินไว้ที่ 500 ล้านบาท ซึ่งบตท.มีความตั้งใจที่จะออกผลิตภัณฑ์ดอกเบี้ยคงที่และมีระยะเวลากู้ยืมที่ยาวนานกว่านี้แต่ตลาดยังมีข้อจำกัดอยู่ และในอนาคตหากตลาดมีความต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ระยะยาวมากกว่านี้บตท.ก็พร้อมที่จะดำเนินการ
“ตอนนี้เราทำตลาดในรูปแบบซีเคียวรีไทเซชั่นร่วมกับพันธมิตร 3 รายคือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเกียรตินาคินและธนาคารกสิกรไทย ซึ่งคาดว่าโครงการที่ริเริ่มทำกันในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จและขยายผลกับสถาบันการเงินอื่นต่อไป เพื่อเป็นการพัฒนารูปแบบตลาดรองในประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นและเพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินในระบบได้มากขึ้น” นางดวงพรกล่าว