ASTVผู้จัดการรายวัน-ครม.ไฟเขียวตั้ง “ชูเกียรติ” ผู้ว่ารฟม. หลังผลศาลปกครองชี้กระบวนการโปร่งใส ส่วนสัญญา 2-3 ทำสายสีม่วง คาดลงนามผู้รับเหมา 28 ต.ค.นี้
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (20 ต.ค.) มีมติเห็นชอบผลการสรรหาผู้ว่าฯรฟม.ตามการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาที่เสนอนายชูเกียรติ โพธยานุวัตร เป็นผู้ว่า รฟม. หลังก่อนหน้านี้ มีผู้สมัครเข้ารับการสรรหาบางรายยื่นฟ้องต่อศาลปกครองว่าการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. ไม่ถูกต้อง แต่ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าถูกต้อง โดยขั้นตอนจากนี้ บอร์ดรฟม.จะดำเนินการเรื่องการลงนามในสัญญาจ้างผู้ว่าฯรฟม.ต่อไป ซึ่งบอร์ดจะประชุมในวันที่ 29 ต.ค.นี้
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุดได้ให้ความเห็นชอบร่างสัญญาก่อสร้างโครงการก่อสร้างสัญญาที่ 2-3 แล้ว เชื่อว่าจะส่งกลับมาให้รฟม. ภายในสัปดาห์นี้ และสามารถลงนามในสัญญากับผู้รับงานทั้ง 2 สัญญาได้ในวันที่ 28 ต.ค.
ทั้งนี้ สัญญาที่ 2 ผู้รับเหมา คือ กลุ่มบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC วงเงิน 13,100 ล้านบาท ส่วนสัญญาที่ 3 คือ กลุ่ม PAR Joint Venture (บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON,บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE และบริษัท รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด) วงเงิน 5,025 ล้านบาท
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (20 ต.ค.) มีมติเห็นชอบผลการสรรหาผู้ว่าฯรฟม.ตามการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาที่เสนอนายชูเกียรติ โพธยานุวัตร เป็นผู้ว่า รฟม. หลังก่อนหน้านี้ มีผู้สมัครเข้ารับการสรรหาบางรายยื่นฟ้องต่อศาลปกครองว่าการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. ไม่ถูกต้อง แต่ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าถูกต้อง โดยขั้นตอนจากนี้ บอร์ดรฟม.จะดำเนินการเรื่องการลงนามในสัญญาจ้างผู้ว่าฯรฟม.ต่อไป ซึ่งบอร์ดจะประชุมในวันที่ 29 ต.ค.นี้
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุดได้ให้ความเห็นชอบร่างสัญญาก่อสร้างโครงการก่อสร้างสัญญาที่ 2-3 แล้ว เชื่อว่าจะส่งกลับมาให้รฟม. ภายในสัปดาห์นี้ และสามารถลงนามในสัญญากับผู้รับงานทั้ง 2 สัญญาได้ในวันที่ 28 ต.ค.
ทั้งนี้ สัญญาที่ 2 ผู้รับเหมา คือ กลุ่มบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC วงเงิน 13,100 ล้านบาท ส่วนสัญญาที่ 3 คือ กลุ่ม PAR Joint Venture (บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON,บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE และบริษัท รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด) วงเงิน 5,025 ล้านบาท