xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ผ่อนเงื่อนไขสร้างสายสีม่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ครม.เห็นชอบให้รฟม.ใช้เงื่อนไขอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาท ในสัญญางานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ หลังไจก้าเจ้าของเงินกู้ ไม่ยอมรับเงื่อนไข ชี้เป็นมาตรฐานสากล รฟม.เตรียมส่งสัญญาเพิ่มเติมให้ไจก้าอนุมัติก่อนให้ผู้รับเหมาลงมือก่อสร้างในพื้นที่
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (13 ต.ค.) เห็นชอบให้เพิ่มเงื่อนไขอนุญาโตตุลาการในการระงับข้อพิพาท ในสัญญาก่อสร้างงานโยธา สัญญาจ้างที่ปรึกษาบริหารและควบคุมโครงการ ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ จำนวน 3 สัญญา และสัญญางานวางราง 1 สัญญาตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และเป็นไปตามเงื่อนไขเงินกู้ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ทำไว้กับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า)
ทั้งนี้ จากที่ไจก้าได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการปรับปรุงสัญญาจ้างในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกการใช้อนุญาโตตุลาการในการะงับข้อพิพาทเพื่อให้เป็นไปตามมติครม.วันที่ 28 ก.ค.2552 แล้ว แต่ทางไจก้าเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีการร้องขอในการยกเว้นหลักเกณฑ์ต่างๆ ของไจก้าจากผู้กู้ยืมรายอื่น ซึ่งจะทำให้ไจก้าไม่สามารถรักษามาตรฐานที่ทำไว้ได้ ไจก้าจึงไม่อนุญาตให้ยกเลิกการใช้อนุญาโตตุลการในการระงับข้อพิพาท ซึ่งมติครม. 28 ก.ค.2552 ได้กำหนดว่า กรณีที่มีปัญหาหรือมีความจำเป็นหรือเป็นข้อเรียกร้องของคู่สัญญาอีกฝ่ายที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ให้เสนอครม.พิจารณาเป็นรายๆ ไป
นายชูเกียรติ โพธานุวัตร รองผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ภายใน 2-3 วันนี้ รฟม.จะจัดส่งสัญญาที่มีอนุญาโตตุลาการแนวท้ายส่งให้ไจก้าพิจารณา และคาดว่าไจก้าจะให้ความเห็นชอบและตอบกลับภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้กลุ่ม CKTC Joint Venture (บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และ บริษัท โตคิว คอนสตรัคชั่น จำกัด) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาในสัญญาที่ 1 ทำงานได้อย่างเต็มที่
ส่วนสัญญาที่ 2 และ 3 คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ ไจก้าจะแจ้งอนุมัติผลการประกวดราคา กลับมาให้รฟม.และหากร่างสัญญาก่อสร้างได้รับความเห็นชอบจากอัยการ รฟม.ก็จะสามารถลงนามในสัญญาก่อสร้างทั้ง 2 สัญญาได้ภายในเดือนต.ค.นี้ โดยภาพรวมการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงยังถือว่าเป็นไปตามแผนที่กำหนดไม่ล่าช้าแต่อย่างใด
สำหรับสัญญาที่ 2 ผู้รับเหมา คือ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC วงเงิน 13,100 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 ผู้รับเหมา คือ กลุ่ม PAR Joint Venture (บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON,บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE และบริษัท รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด) วงเงิน 5,025 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น