เมื่อเวลา 10.10 น.วานนี้ (18 ต.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการติดตามตรวจสอบทุจริตโครงการต่างๆของรัฐบาลว่า ในวันนี้ (19 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ตนพร้อมด้วยนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี รมว.คมนาคม ครม.ทั้งคณะ คณะกรรมการประกวดราคารฟม. รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จากกรณีการประกวดราคา และการอนุมัติโครงการรถไฟสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 11 ส.ค.52
นอกจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 11 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน สั่งชะลอการลงนามสัญญา และสั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากนายกฯ เพิกเฉยและมีความเสียหายเกิดขึ้นก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่าโครงการรถไฟสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ดังกล่าว พบข้อเท็จจริงว่า การประกวดราคาและอนุมัติจ้างบริษัทเอกชน เพื่อก่อสร้างงานโยธา มีการกระทำที่ส่อทุจริต ทำให้รัฐต้องสูญเสียเงิน 5,896 ล้านบาท น่าจะมีการเอื้อประโยชน์ในบางสัญญา ทำให้บริษัทเอกชนบางรายได้ราคาก่อสร้างสูง คือ กลุ่มบริษัท ช.การช่างได้วงเงิน 14,292 ล้านบาท บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรัคชัน จำกัด (มหาชน) ได้วงเงิน 13,100 ล้านบาท ประกอบกับพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนของนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ยิ่งส่อให้เห็นชัดเจนว่า น่าจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน เพราะนายโสภณ ได้รับหนังสือจากรฟม. เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ก็รีบทำหนังสือเสนอครม.ทันที ในวันที่ 6 ส.ค.52 ซึ่งต่อมา ครม.ก็ทำการอนุมัติในวันที่ 11 ส.ค. 52
เย้ยกฎเหล็ก9 ข้อนายกฯสนิมเขรอะ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ฏฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการติดตามตรวจสอบทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงว่า จนถึงขณะนี้ยังพบการร้องเรียนทุจริตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีการยัดเยียดสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการในหลายชุมชนทั่วประเทศ และมีเงินตกหล่นจากส่วนต่างของราคาสินค้าที่แพงเกินจริง
นอกจากนี้ในบางชุมชนยังไม่ได้รับสิ่งของใดๆเลย พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความจริงใจในการตรวจสอบทุจริต โดยตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางขึ้นมาตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียง อย่าซื้อเวลาหรือลอยตัวเหนือปัญหา กลบความทุจริตโครงการที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแล เราได้ตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ไม่กล้าตรวจสอบโครงการนี้อย่างจริงจังเป็นเพราะกลัวว่าจะไปสอบเจอพวกเดียวกันเองหรือไม่ กฎเหล็ก 9 ข้อ ของนายอภิสิทธิ์ คงขึ้นสนิมหมดแล้ว มาตรฐานการสอบสวนทุจริต จึงเป็นไปแบบลูบหน้าปะจมูก ซื้อเวลาแบบขอไปที
นอกจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 11 แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน สั่งชะลอการลงนามสัญญา และสั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากนายกฯ เพิกเฉยและมีความเสียหายเกิดขึ้นก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่าโครงการรถไฟสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ดังกล่าว พบข้อเท็จจริงว่า การประกวดราคาและอนุมัติจ้างบริษัทเอกชน เพื่อก่อสร้างงานโยธา มีการกระทำที่ส่อทุจริต ทำให้รัฐต้องสูญเสียเงิน 5,896 ล้านบาท น่าจะมีการเอื้อประโยชน์ในบางสัญญา ทำให้บริษัทเอกชนบางรายได้ราคาก่อสร้างสูง คือ กลุ่มบริษัท ช.การช่างได้วงเงิน 14,292 ล้านบาท บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรัคชัน จำกัด (มหาชน) ได้วงเงิน 13,100 ล้านบาท ประกอบกับพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนของนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ยิ่งส่อให้เห็นชัดเจนว่า น่าจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน เพราะนายโสภณ ได้รับหนังสือจากรฟม. เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ก็รีบทำหนังสือเสนอครม.ทันที ในวันที่ 6 ส.ค.52 ซึ่งต่อมา ครม.ก็ทำการอนุมัติในวันที่ 11 ส.ค. 52
เย้ยกฎเหล็ก9 ข้อนายกฯสนิมเขรอะ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ฏฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการติดตามตรวจสอบทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงว่า จนถึงขณะนี้ยังพบการร้องเรียนทุจริตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีการยัดเยียดสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการในหลายชุมชนทั่วประเทศ และมีเงินตกหล่นจากส่วนต่างของราคาสินค้าที่แพงเกินจริง
นอกจากนี้ในบางชุมชนยังไม่ได้รับสิ่งของใดๆเลย พรรคเพื่อไทย ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แสดงความจริงใจในการตรวจสอบทุจริต โดยตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางขึ้นมาตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียง อย่าซื้อเวลาหรือลอยตัวเหนือปัญหา กลบความทุจริตโครงการที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแล เราได้ตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ไม่กล้าตรวจสอบโครงการนี้อย่างจริงจังเป็นเพราะกลัวว่าจะไปสอบเจอพวกเดียวกันเองหรือไม่ กฎเหล็ก 9 ข้อ ของนายอภิสิทธิ์ คงขึ้นสนิมหมดแล้ว มาตรฐานการสอบสวนทุจริต จึงเป็นไปแบบลูบหน้าปะจมูก ซื้อเวลาแบบขอไปที
