“เด็จพี่” ยุส่งนายกฯ ปรับออก “โสภณ” เชื่อปัญหา รฟท.ผลประโยชน์ทับซ้อน

เพื่อไทยสร้างกระแสรายวันขู่ฟ้อง ป.ช.ป.สอบ ครม.มาร์คมีเอี่ยวผลผลประโยชน์ รฟม.ประกวดราคารถไฟสายสีม่วง แกว่งปากโวยคณะทำงานสอบทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ไทยเข้มแข็งสาธารณสุขไม่เป็นกลาง เชื่อเกมซื้อเวลา จี้นายกฯ เตะโด่ง “โสภณ” พ้น รมว.คมนาคม เชื่อมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่ดินเนวินบุรี

วันนี้ (18 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการติดตามตรวจสอบทุจริตโครงการรัฐบาลว่า ในวันที่ 19 ต.ค. เวลา 10.00 น. ตนพร้อมด้วยนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี รมว.คมนาคม ครม.ทั้งคณะ คณะกรรมการประกวดราคา รฟม. รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จากกรณีการประกวดราคาและการอนุมัติโครงการรถไฟสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่ ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2552 นอกจากนี้ ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 11.00 น. ของวันเดียวกัน เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน สั่งชะลอการลงนามสัญญา และสั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หากนายกฯ เพิกเฉยและมีความเสียหายเกิดขึ้นก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า โครงการรถไฟสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อดังกล่าว พบข้อเท็จจริงว่าการประกวดราคาและอนุมัติจ้างบริษัทเอกชน เพื่อก่อสร้างงานโยธา มีการกระทำที่ส่อทุจริต ทำให้รัฐต้องสูญเสียเงิน 5,896 ล้านบาท น่าจะมีการเอื้อประโยชน์ในบางสัญญาทำให้บริษัทเอกชนบางรายได้ราคาก่อสร้างสูงคือ กลุ่มบริษัท ช.การช่าง ได้วงเงิน 14,292 ล้านบาท บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรัคชัน จำกัด (มหาชน) ได้วงเงิน 13,100 ล้านบาท ประกอบกับพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนของนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ยิ่งส่อให้เห็นชัดเจนว่าน่าจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชน เพราะนายโสภณได้รับหนังสือจาก รฟม.เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ก็รีบทำหนังสือเสนอ ครม.ทันทีในวันที่ 6 ส.ค.2552 ซึ่งต่อมา ครม.ก็ทำการอนุมัติในวันที่ 11 ส.ค. 2552

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงการติดตามตรวจสอบทุจริตโครงการชุมชนพอเพียงว่า จนถึงขณะนี้ยังพบการร้องเรียนทุจริตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีการยัดเยียดสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการในหลายชุมชนทั่วประเทศ และมีเงินตกหล่นจากส่วนต่างของราคาสินค้าที่แพงเกินจริง นอกจากนี้ในบางชุมชนยังไม่ได้รับสิ่งของใดๆเลย พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแสดงความจริงใจในการตรวจสอบทุจริต โดยตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางขึ้นมาตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียง อย่าซื้อเวลาหรือลอยตัวเหนือปัญหากลบความทุจริตโครงการที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแล เราได้ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่ไม่กล้าตรวจสอบโครงการนี้อย่างจริงจังเป็นเพราะกลัวว่าจะไปสอบเจอพวกเดียวกันเองหรือไม่ กฎเหล็ก 9 ข้อ ของนายอภิสิทธิ์คงขึ้นสนิมหมดแล้ว มาตรฐานการสอบสวนทุจริตจึงเป็นไปแบบลูบหน้าปะจมูก ซื้อเวลาแบบขอไปที

นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบโครงการไทยเข้มแข็ง กรณีการจัดซื้อครุภัณฑ์ในกระทรวงสาธารณสุข ที่มี นพ.บรรลุ ศิริพานิช อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานนั้น พรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นพียงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเพื่อซื้อเวลา โดยขาดความจริงใจ เพราะหากรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีช่วยยังคงอยู่ในตำแหน่ง มีอำนาจให้คุณให้โทษข้าราชการได้ ถามว่าจะมีใครกล้าสอบสวนหรือให้ความร่วมมือบอกข้อมูลทุจริต ดังนั้นถ้านายอภิสิทธิ์มีความจริงใจก็ควรปรับ ครม.เอา รมว.สาธารณสุขหรือรมช.สาธารณสุขออกไปก่อน แล้วจึงทำการสอบสวน อยากรู้ว่าจะกล้าหรือไม่ วันนี้การดำเนินการแก้ปัญหาทุจริตต่างๆของรัฐบาลล้วนเป็นการซื้อเวลา กลบปัญหาแบบช่วยเหลือกันเอง โดยเฉพาะโครงการที่พรรคประชาธิปัตย์กำกับดูแล

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองมีคำสั่งประกาศให้ท้องที่ ต.มาบตาพุด จังหวัดระยอง เป็นเขตควบคุมมลพิษ โดยมีบริษัทเอกชนหลายรายตั้งอยู่บริเวณดังกล่าว ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ จากภาครัฐ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อทุกฝ่ายว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร ดังนั้น นายกฯ จึงควรหยุดสร้างภาพแก้ปัญหาด้วยปากและลงพื้นที่ไปตรวจสอบอย่างจริงจัง พร้อมทั้งประชุมแก้ปัญหาแบบบูรณาการ โดยในสัปดาห์หน้าที่นายกฯมีเวลาว่างควรเชิญประชาชน หน่วยงานรัฐ และ ภาคเอกชน มาร่วมกันหาทางออก ในเรื่องนี้ เพราะต้องไม่ลืมว่าการพัฒนาต้องทำควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบด้วย ไม่อยากให้รัฐบาลทำตัวเหมือนลูกโป่งลอยตัวอยู่เหนือปัญหาไปทุกเรื่อง

โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงความปั่นป่วนในกิจการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า จากปัญหาอุบัติเหตุรถไฟที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงหลังการหยุดบริการรถไฟโดยไม่มีเหตุผล การไม่กล้าตัดสินใจของฝ่ายบริหาร รวมทั้งการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพจับประชาชนเป็นตัวประกัน โดยล่าสุดมีการหยุดเดินรถไฟในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้คนใต้ช้ำใจมาก พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลและมี ส.ส.ภาคใต้จำนวนมากกลับไม่แก้ปัญหาอะไรเลย ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างบูรณาการ เบื้องต้นควรปรับย้ายนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เพราะไม่กล้าตัดสินใจ อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน สาเหตุหนึ่งที่ไม่กล้าแตะสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) อาจเป็นเพราะเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อที่ดินการรถไฟของนักการเมืองใหญ่ใน จ.บุรีรัมย์ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเองก็ไม่มั่นใจว่านายกฯ จะกล้าเข้ามาจัดการปัญหากิจการรถไฟมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากทราบดีว่า สร.รฟท.เป็นกลุ่มคนที่ใกล้ชิดกับพันธมิตรฯ และหวั่นใจว่าปัญหานี้จะไม่ได้รับการสะสาง ปล่อยให้เป็นการซื้อเวลารายวันเช่นเดียวกับที่เคยเกิดกับกรณีการแต่งตั้ง ผบ.ตร.