ASTVผู้จัดการรายวัน-“อลงกรณ์”สั่งพาณิชย์เดินสายติวเข้มอาจารย์ นิสิต นักศึกษา และ SMEs ทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมรับมือการค้าเสรี
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีนโยบายที่จะเดินสายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ และการเปิดเสรีทางการค้า (FTA) ของไทย มีกลุ่มเป้าหมาย คือ อาจารย์ในสถาบันการศึกษา นิสิต นักศึกษา ทั้งระดับอุดมศึกษา อาชีวศึกษา และสายอาชีพ รวมถึงผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(SMEs) เพื่อผลักดันให้คนเหล่านี้ มีความรู้พื้นฐานด้านการค้าระหว่างประเทศ และเตรียมความพร้อมในการใช้ประโยชน์จากการค้าเสรี
“กรมฯ จะผลักดันให้อาจารย์มีความรู้ ความเข้าใจในด้านการค้าระหว่างประเทศ และกระบวนการเปิดเสรีให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้นำข้อมูลไปใช้ประกอบการเรียนการสอนให้กับเยาวชนที่จะมาเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ภายใต้การดำเนินการตามความผูกพันของการเปิดเสรีทางการค้าและเป็นกลุ่มที่จะต้องประกอบอาชีพในกฏเกณฑ์ ซึ่งจะได้รับผลทั้งด้านที่เป็นประโยชน์และผลกระทบต่ออนาคตที่จะเกิดขึ้น”นางนันทวัลย์กล่าว
ทั้งนี้ กรมฯ ได้กำหนดจะลงพื้นที่ไปยังภาคใต้ โดยมีจังหวัดเป้าหมาย 5 จังหวัด คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และตรัง ซึ่งจะขยายพื้นที่ไปถึงจังหวัดพัทลุง และกระบี่ เพื่อผลักดันโครงการดังกล่าว ซึ่งจะจัดในเดือนพ.ย.นี้
นางนันทวัลย์กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมที่ลงลึกไปถึงอาจารย์ นิสิต นักศึกษา และ SMEs ในครั้งนี้ ถือเป็นการทำงานแนวใหม่ ตามนโยบายของนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการผลักดันให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเปิดเสรี เพราะนับจากนี้ไปการเปิดเสรีการค้าในกรอบเจรจาต่างๆ จะเริ่มมีมากขึ้นและเข้มข้นขึ้น
โดยในปี 2553 อาเซียนจะมีการเปิดเสรีการค้า โดยอาเซียนเดิม 6 ประเทศ จะลดภาษีลงเหลือ 0% ทุกรายการ และอาเซียนใหม่ 4 ประเทศ จะลดภาษีเหลือ 0% ในปี 2558 ซึ่งจะทำให้การค้ามีความคล่องตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันอาเซียนกำลังพัฒนาไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ที่จะมีการเปิดเสรีด้านการค้า การค้าบริการ การลงทุนและการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือที่เสรีมากขึ้นและยังมีการเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับประเทศคู่เจรจาภายใต้กรอบ FTA ได้แก่ อาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลีอาเซียน-อินเดีย อาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทำให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับคนของประเทศในทุกภาคส่วนเพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วม
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเสรีในกรอบ FTA ระหว่างไทยกับประเทศคู่เจรจา ได้แก่ ไทย-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-เกาหลี ไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์ มีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ไทยได้เข้าไปมีส่วนร่วม เช่น องค์การการค้าโลก (WTO) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ความร่วมมือภายใต้กรอบเอเชีย-ยุโรป (ASEM) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจทางตอนใต้ของไทย-มาเลเซีย-อินโดนีเซีย (IMT-GT) เป็นต้น
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ มีนโยบายที่จะเดินสายไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจในเรื่องการค้าระหว่างประเทศ และการเปิดเสรีทางการค้า (FTA) ของไทย มีกลุ่มเป้าหมาย คือ อาจารย์ในสถาบันการศึกษา นิสิต นักศึกษา ทั้งระดับอุดมศึกษา อาชีวศึกษา และสายอาชีพ รวมถึงผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(SMEs) เพื่อผลักดันให้คนเหล่านี้ มีความรู้พื้นฐานด้านการค้าระหว่างประเทศ และเตรียมความพร้อมในการใช้ประโยชน์จากการค้าเสรี
“กรมฯ จะผลักดันให้อาจารย์มีความรู้ ความเข้าใจในด้านการค้าระหว่างประเทศ และกระบวนการเปิดเสรีให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้นำข้อมูลไปใช้ประกอบการเรียนการสอนให้กับเยาวชนที่จะมาเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ภายใต้การดำเนินการตามความผูกพันของการเปิดเสรีทางการค้าและเป็นกลุ่มที่จะต้องประกอบอาชีพในกฏเกณฑ์ ซึ่งจะได้รับผลทั้งด้านที่เป็นประโยชน์และผลกระทบต่ออนาคตที่จะเกิดขึ้น”นางนันทวัลย์กล่าว
ทั้งนี้ กรมฯ ได้กำหนดจะลงพื้นที่ไปยังภาคใต้ โดยมีจังหวัดเป้าหมาย 5 จังหวัด คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และตรัง ซึ่งจะขยายพื้นที่ไปถึงจังหวัดพัทลุง และกระบี่ เพื่อผลักดันโครงการดังกล่าว ซึ่งจะจัดในเดือนพ.ย.นี้
นางนันทวัลย์กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมที่ลงลึกไปถึงอาจารย์ นิสิต นักศึกษา และ SMEs ในครั้งนี้ ถือเป็นการทำงานแนวใหม่ ตามนโยบายของนายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการผลักดันให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเปิดเสรี เพราะนับจากนี้ไปการเปิดเสรีการค้าในกรอบเจรจาต่างๆ จะเริ่มมีมากขึ้นและเข้มข้นขึ้น
โดยในปี 2553 อาเซียนจะมีการเปิดเสรีการค้า โดยอาเซียนเดิม 6 ประเทศ จะลดภาษีลงเหลือ 0% ทุกรายการ และอาเซียนใหม่ 4 ประเทศ จะลดภาษีเหลือ 0% ในปี 2558 ซึ่งจะทำให้การค้ามีความคล่องตัวมากขึ้น ขณะเดียวกันอาเซียนกำลังพัฒนาไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ที่จะมีการเปิดเสรีด้านการค้า การค้าบริการ การลงทุนและการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือที่เสรีมากขึ้นและยังมีการเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับประเทศคู่เจรจาภายใต้กรอบ FTA ได้แก่ อาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลีอาเซียน-อินเดีย อาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทำให้ต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับคนของประเทศในทุกภาคส่วนเพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วม
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเสรีในกรอบ FTA ระหว่างไทยกับประเทศคู่เจรจา ได้แก่ ไทย-จีน ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-เกาหลี ไทย-ออสเตรเลีย และไทย-นิวซีแลนด์ มีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ไทยได้เข้าไปมีส่วนร่วม เช่น องค์การการค้าโลก (WTO) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ความร่วมมือภายใต้กรอบเอเชีย-ยุโรป (ASEM) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจทางตอนใต้ของไทย-มาเลเซีย-อินโดนีเซีย (IMT-GT) เป็นต้น
