xs
xsm
sm
md
lg

ชำแหละ!ไส้ศึกในคราบขุนศึก ลูกกะจ๊อกในแผนชั่ว“ทักษิณ” นักการเมือง-ทหารซบเพื่อไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อ่านพาดหัวข่าว ในวันมีข่าวว่าพรรคเพื่อไทย คอกการเมืองของ“นักโทษหน้าเหลี่ยม”เสริมทัพ โดยรูปแบบเจ้าแห่งการตลาดตามถนัด ดึงอดีตพระเอกหนังไทยคนดัง สมบัติ เมทะนี เข้าคอกแล้ว ก็ขำๆ
โดยเฉพาะตัวเป้งๆบนหนังหนังสือพิมพ์ ที่ใช้คำได้จำกัด “บัติ” ซบ“เพื่อไทย”
“บัติซบเพื่อไทย”- “บัติซบแม้ว” ยิ่งอ่านยิ่งมัน??
ยังดีที่ วีระ มุสิกพงศ์ เจ้าของภาพยนตร์ “ไอ้ซ่าจอมเนรคุณ” เป็นหัวขวดอยู่บนเวทีเสื้อแดง เพราะหากอยู่ฝ่ายตรงข้าม ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์ระบอบทักษิณ ป่านนี้คงได้อ่านพาดหัวข่าว
วี-ระยำทักษิณ วี-ระยำเพื่อไทย อะไรทำนองนี้!
ที่ฮือฮาไม่แพ้กัน บรรดาขุนทหาร อดีตบิ๊กท็อปบูต ที่ทยอยตบเท้าเข้าค่ายการเมืองนอมินีของทักษิณ ระหว่างที่รอเพื่อนๆ ตท.10 ที่รอบินไปรับงานที่ดูไบ ตามที่พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี ป่าวประกาศ
เพื่อนตท.10 จะมาช่วยเพื่อนอีก 20-30 ราย!
ที่มาเปิดตัวเป็นน้ำจิ้ม แม้ไม่ใช่สมาชิกเตรียมทหารรุ่นเดียวกับนักโทษแม้ว แต่เป็น ตท.9 ที่เข้าพรรคเพื่อไทยพร้อมเสียงฮือฮา “บิ๊กจ๊อก” พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ อดีต รองผบ.ทบ. ที่เพิ่งปลดเกษียณหมาดๆ
อดีตนายทหารระดับสูง บิ๊กท็อปบูต ที่เพิ่งฮึ่มๆ กับม็อบเสื้อแดงมาหลายรอบ
เผลอกระพริบตาหน่อย ลืมตาอีกที “บิ๊กจ๊อก” กลายเป็นลูกกะจ๊อก“ทักษิณ” ซะแล้ว
เมื่อรู้ข่าว บิ๊กทหารรายนี้ประกาศตัวไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ถึงกับตกใจ ก็ต้อง พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ที่เคยสนับสนุนให้ พล.อ.จิรเดช ขึ้นเป็นแม่ทัพภาค 3 รับไม้ต่อจากตัวเอง ในยุค คมช.ที่มีภารกิจต้องสยบคลื่นใต้น้ำระบอบทักษิณ
อีกราย ก็คือ “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ.และประธานคมช. ที่รับช่วงโปรโมตให้ พล.อ.จิรเดช ขึ้นสู่บัญชี 5 เสือทบ. เพราะชื่นชมรายนี้คืออีก “น้องเลิฟ”
แต่จะว่าไป สำหรับ “บิ๊กบัง” ยังไม่มั่นใจในทีท่า เพราะแบบฉบับลับ ลวง พราง ส่งน้องไปดูลู่ทางไว้ แล้วตามไปด้วยหรือไม่ ต้องรอวันเวลาพิสูจน์ ??
เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ สองพี่น้อง (บิ๊กสีเขียวและสีกากี) แห่งเครือข่าย “ขั้วอำนาจใหม่” ที่ต้องรอพิสูจน์ธาตุแท้ และฤทธิ์แรงแค้น
สุดท้าย“คนอยากใหญ่” จะยอมลดตัวไปเป็นไพร่เบี้ยของอดีตผู้นำระบอบทุนสามานย์หรือไม่??
ที่น่าสนใจ สำหรับ พล.อ.จิรเดช กับการเข้าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับคนใกล้ชิดนักโทษหนีคดี เพราะสัมพันธ์ระหว่างบิ๊กทหาร กับระบอบทักษิณ มีมาพักใหญ่แล้ว
จากข้อมูลที่มีการเปิดออกมา จุดสำคัญที่ทำให้อดีต รองผบ.ทบ.รายนี้ คลิกกับพรรคเพื่อไทย นอกจากมีเพื่อนร่วมรุ่นตท.9 พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ มือขวาของพล.อ.ชวลิต เชื่อมต่อ
สมาชิกตท.9 ที่เป็นอีกขุมกำลังของพล.อ.ชวลิต และเคยมีกระแสจะก่อการปฏิวัติซ้อนในยุคคมช. มาแล้ว
นอกจากนี้ พล.อ.จิระเดช ยังสนิทสนมกับคนของทักษิณหลายสาย ทั้งนักการเมืองทางภาคเหนือ พื้นที่ที่เคยรับราชการ และอดีตแม่ทัพภาค 3 ที่ตบเท้าเข้าคอกการเมืองก่อนหน้า ทั้งพล.อ.อุดมชัย องคสิงค์ พล.อ.ขวัญชาติ กล้าหาญ
รวมทั้งแนบแน่นกับ “ผัวเจ๊เบียบ” เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมช.มหาดไทย ยุครัฐบาลไทยรักไทย
ส่วนสายสัมพันธ์อันดีที่เกิดขึ้น ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการพบรักระหว่างรบ เกิดจิตพิศวาสระหว่างโรมรันกับระบอบทักษิณ หรือ “รับงาน” มาล่วงหน้า
ทำหน้าที่เป็น“ไส้ศึก” ฝังตัวอย่างเนียนสุดยอด ?
ที่แน่ๆระยะหลังมานี้ คนดีลลงตัว สมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร ชิน คอร์ปฯ มืองานทักษิณ-พจมาน ทางธุรกิจน่าจะมีส่วนไม่น้อย
เพราะต่างเป็นคู่เกลอร่วมเครือข่าย “วตท.คอนเน็กชั่น” ร่วมชั้นเรียน หลักสูตรของตลาดหลักทรัพย์ฯ สถาบันวิทยาการตลาดทุนรุ่นที่ 6 ที่มีคนการเมืองสายทักษิณ อยู่หลายราย
โดย“บิ๊กจ๊อก-สมประสงค์” สนิทสนมกันมาก ไปมาหาสู่ นัดพบปะดื่มกินด้วยกันตลอดภายหลังเรียนจบหลักสูตร
ทั้งนี้ ที่น่าจับตา การปรับแผนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการดึงคนเข้ามาเสริมทัพ ไม่เฉพาะการเพิ่มสีสันฉูดฉาดด้วยดารานักแสดง และไม่ใช่เน้นอดีตคนมีสี ที่ได้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาเป็นแม่เหล็ก ดึงดูดนายทหารไลน์ฮาร์ดคอร์ มาเสริมทีม “สยองขวัญ”
พ่อใหญ่วี้ดดดด บึ้มมม “บิ๊กจิ๋ว” ตูม ตูม ตูม ??
เพราะแผนที่ “ทักษิณ” เดินคู่กันไปด้วยในการจัดทัพพรรคเพื่อไทย หากหวังผลไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ย่อมต้องเน้นที่กลุ่มคน“นักการเมืองมืออาชีพ”
การคิดจะปั้นหน้าใหม่ มือใหม่ มาทดแทนพวกที่หักหลังทรยศ ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ ทักษิณ ที่ไม่ว่าจะกระแส หรือกระสุนก็ได้เปรียบ เพียงแต่แผนการของทักษิณครั้งนี้ ต้องเอาที่ชัวร์
ดังนั้นบรรดา เสือ สิงห์ กระทิง แรด นักการเมืองอาชีพ ยิงเมื่อไหร่เป็นเข้า คือเป้าหมายที่นักโทษชาย พยายามเรียกกลับบ้าน และจะเห็นได้ว่า ช่วงนี้ถึงได้มีกระแสข่าวลือ ข่าวปล่อยออกมาจากปากของเสือ สิงห์ การเมือง ที่ต่างแอบทิ่มกันเอง
ทั้งข่าวความเคลื่อนไหว กลุ่มผู้มีบารมีในพรรคร่วมรัฐบาลหลายราย ต่อสายไปหานายใหญ่ ดูไบ เข้าเจรจากับนายหญิง แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ต้นตำรับแสบยัดไส้ รวมทั้งประสานงานเชื่อมโยงกับคนในเครือข่ายทักษิณ
โดยหากประเมินจากกลุ่มคนพันธุ์พิเศษ ที่คนปกติทั่วไปยากเข้าใจ คนเหล่านี้แสดงให้เห็นแล้วว่า อำนาจ และผลประโยชน์ กำหนดการตัดสินใจได้ เช่นครั้งภายหลังการเลือกตั้งเมื่อปลายปี 2550 ที่ต่างก็วิ่งแย่งเก้าอี้ ในการร่วม “รัฐบาลร่างทรง”
ดังนั้น ข่าวลือข่าวปล่อยที่มีออกมาให้รับรู้ ก็เริ่มที่จะไม่ใช่เพียงข่าวโคมลอย แต่มีสัญญาณแรงจัด ว่าแนวโน้มอาจจะเป็นจริง
ทั้ง“หลงจู๊เติ้ง” บรรหาร ศิลปอาชา ผู้มีสิทธิในการล้วงแต่เพียงผู้เดียวในพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ยังมีสายใยสัมพันธ์ และยังต่อสายกับนักโทษชายเสมอ เช่นเดียวกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ก็เคยมีชื่อเป็นนายกฯนอมินี ของทักษิณมาแล้ว
กลุ่มพินิจ จารุสมบัติ-ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ-ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ในพรรคเพื่อแผ่นดิน รวมทั้ง สุวิทย์ คุณกิตติ จากพรรคกิจสังคม แต่ละรายล้วนเป็นสุดยอดนักเจรจา เชี่ยวชาญการแสวงหากำไร ก็เคยมีข่าวยังข้องแวะ“นักโทษเงินหนา”
ขณะที่ กลุ่มของ พล.อ.ประชา พรหมนอก ในพรรคเพื่อแผ่นดิน และกลุ่ม ดร.มั่น พัทธโนทัย เงาของ วัฒนา อัศวเหม ก็เล็กเกินกว่าจะต้านแรงดึงดูด อีกทั้งก็มีกระแสข่าว อินทรีอีสาน พล.อ.ประชา ก็โฉบเฉี่ยวกับพวกพ้องของทักษิณเช่นกัน
ขณะที่ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ-ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ สองบิ๊กรวมใจไทยชาติพัฒนา ก็มีกระแสข่าวว่า เคยได้รับโฟนอินทางไกลจากตะวันออกกลาง เช่นเดียวกับอีกหลายรายในซับเซ็ตย่อยของพรรคภูมิใจไทย
ทั้งขั้วภาคกลาง ภาคตะวันออก เพื่อนพ้องกลุ่ม 16 รวมทั้งสายมัชฌิมาฯ ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน เริ่มที่จะลังเลกับการร่วมหัวจมท้ายอย่างที่ไม่เป็นสุข และยืดได้ไม่เต็มร้อย
เพราะวันนี้ “หมอผีเขมร” เนวิน ชิดชอบ เริ่มสยายปีกแผ่อิทธิพล เพื่อยึดครองอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในพรรคแต่เพียงผู้เดียว
แม้แต่ผู้ติดบัญชีแค้นอันดับต้นๆ ของทักษิณ อย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทั้งตัวเองเครือข่ายนักการเมือง นักวิชาการ ที่มีสัมพันธ์อันดี และมีข่าวเป็นส่วนหนึ่งในทีมที่ปรึกษาของ“บิ๊กจิ๋ว” ที่พร้อมจะเป็นโซ่เชื่อมต่อให้คนจรดูไบ ปลดแบล็กลิสต์ให้
สรุป จากการระดมไพร่พล ทั้งดึงคนดังเข้ามาสร้างกระแส อดีตบิ๊กเนม คนมีสีเข้ามาเสริมทัพ และพยายามกวาดต้อนบรรดานักเลือกตั้งอาชีพกลับมาแพ็กขั้วเดิม พอจะประเมินได้ว่า “ทักษิณ” มีเป้าหมายในการล้มล้างอำนาจ เพื่อไปสู่การเลือกตั้ง
แต่หากมองให้ลึกไปยิ่งกว่านั้น จะเห็นร่องรอยการ “ปรับแผนใหม่” โดยเฉพาะการดึงอดีตบิ๊กทหารจากกองทัพ ที่ไม่แน่ใจว่าเป็นสปายไส้ศึก ฝังตัวหาข่าวมานาน หรือเพิ่งจะไล่หว่านโปรยดึงตัวกันในระยะหลัง
ที่แน่ๆ การลดบทบาทกำลังด้านมวลชนลง แต่เพิ่มน้ำหนักไปที่อดีตนายทหาร ที่แม้จะเหมือนนักรบไร้ทวน แต่จากกรณีของ พล.อ.จิรเดช อดีตรอง ผบ.ทบ. จะเห็นได้ว่าทักษิณ เลือกเจาะเข้าไปลึกถึงชั้นในของขุมข่ายอำนาจในกองทัพ
เป้าของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้น่าจะไม่ธรรมดา
และหากระบอบทักษิณ เดินไปสู่แผนได้สำเร็จ ไม่ใช่ว่าจะเป็นหายนะแค่ความดำรงอยู่ของรัฐบาล หรือตัวผู้นำรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านั้น แต่จับสัญญาณให้ดี แผนร้ายนี้ดูเหมือนจะพุ่งตรงไปจุดสำคัญ สุ่มเสี่ยงอันตรายยิ่งยวดต่อสถาบันสำคัญของชาติ
ฉะนั้นเป็นเรื่องนายกฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายอย่าได้ประมาท มองเป็นสถานการณ์ปกติ เพราะวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่า กำลังอยู่ในภาวะสงครามและการต่อสู้ จึงต้องรับรู้ให้เท่าทันแผนร้ายสัญญาณอันตราย
และเตรียมตัวตั้งรับหาทางต่อกรตั้งแต่นี้!!
กำลังโหลดความคิดเห็น