ASTVผู้จัดการรายวัน – “ป๊อก” เอาคืนทันควัน สั่งทหารจับมือตำรวจ ค้นรังเสธ.แดงและลูกน้อง ตะลึง!อาวุธสงครามเพียบ ซุกซ่อน ทั้งในรถเสธ.แดง และในบ้านพักลูกน้องคนสนิท ปืน ระเบิด กระสุน เฉพาะเอ็ม 79 ชนิดหัวทองเจาะเกราะ 24 ลูก หัวดำเจาะเกราะ 8 ลูก ปลอกกระสุนเอ็ม 79 ยิงแล้ว 2 ปลอก ตำรวจระบุออกหมายจับได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเรียกมาสอบก่อน ส่วน "เสธ.แดง" เย้ยป๊อกเป็นทหารตุ๊ดแต๋ว ขู่บึ้มจนกว่าป๊อกจะออก
วานนี้ (21) เวลาประมาณ 14.30 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผบช.ส. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้เดินทางมาที่บก.ทบ. เพื่อประชุมร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. และพล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสธ.ทบ. โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็เดินทางมาร่วมประชุมด้วย
**"ไฟเขียวให้ตร.ค้นบ้าน"เสธ.แดง"
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในเบื้องต้น 5 เสือทบ. ซึ่งประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารบก รองผู้บัญชาการทหารบก ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก 12 นาย และเสนาธิการทหารบก ได้ประชุมร่วมกันก่อนเพื่อประเมินสถานการณ์ จากนั้นจึงประชุมร่วมกับนายสุเทพ และผู้บัญชาการตำรวจจาก 3 หน่วยงานดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง และมีรายงานว่าผู้บัญชาการทหารบก อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ที่อยู่ภายในกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.)
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เพียงสั้นๆว่า การประชุมดัง กล่าวเป็นการประเมินสถานการณ์ทั่วไปประจำสัปดาห์ตามปกติ ผบ.ทบ. ไม่ได้แสดงความกังวล หรือห่วงใยเรื่องใดเป็นพิเศษ และที่ประชุมไม่ได้หารือกรณีคนร้ายยิงระเบิดเข้ามาที่ บก.ทบ.
**ตร.-ทหาร ค้นบ้าน"เสธแดง"
ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีระ จิระวีระ ผกก.สน.เตาปูน พร้อมพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 1156/27 ชุมชนยานเกราะ ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ซึ่งอยู่ระหว่างถูกคำสั่งพักราชการ หลังได้รับรายงานว่ากองทัพบกได้มอบหมายให้ พ.ต.ประเสริฐ พิศมัย นายทหารพระธรรมนูญ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ทั้งของ ม. พัน 3 และ ม. พัน 4 นำโดยผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ผบ.ม.พัน 4 รอ.) ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทน ผบก.ป. ได้เข้าตรวจค้นในบ้านหลังดังกล่าว จึงประสานมาให้ตำรวจเข้าร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งเมื่อไปถึงพบพลทหารมนัสชัย อำพร และนายเอกลักษณ์ วิเศษวงษา อยู่ภายในบ้าน
จากการตรวจค้นภายในรถตู้เมอซิเดสเบนซ์ ทะเบียน ศข-112 กทม. พบอาวุธปืนออโตเมติก .32 จำนวน 1 กระบอก แม็กกระสุนปืน 2 แม็ก ระเบิดลูกเกลี้ยง 1 ลูก พร้อมกระสุนปืน.22 อีกหลายร้อยนัด ทางตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งคู่ไปสอบปากคำที่ สน.เตาปูน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำกำลัง เข้าตรวจค้นภายในแฟลต 3 ชั้นที่ 1 ห้องเลขที่ 9 ซึ่งเป็นบ้านพักของ จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช อายุ 50 ปี ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ (ผบ.) ยานเกราะ ซึ่งเป็นอดีตคนขับรถ และคนสนิทของพล.ต.ขัตติยะ
**ตะลึงพบคลังอาวุธสงคราม
จากการตรวจค้นภายในบ้านพักหลังดังกล่าว พบกระสุนเอ็ม 79 จำนวน 10 ลูก กระสุนปืน ปตอ.ขนาด 12.7 จำนวน 17 นัด ระเบิดควัน 2 ลูก ปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนเอ็ม 60 จำนวน 5 ชุด ระเบิดสังหารแบบเหยียบ 1 ลูก แม็กกาซีนกระสุนปืนอาก้า 4 แม็ก แม็กกระสุนปืนขนาด 9 CZ 1 แม็ก ระเบิดแค 1 ลูก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
หลังจากนั้น ยังได้เข้าตรวจค้นรถกระบะโตโยต้า วีโก ถข-1161 กทม. ของจ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ ก็พบระเบิดเอ็ม 79 หัวทอง 24 ลูก หัวดำเจาะเกราะ 8 ลูก ปลอกกระสุนเอ็ม 79 ยิงแล้ว 2 ปลอก กระสุนปืนอาก้าอีกหลายร้อยนัด แม็กกระสุนปืนอาก้า 4 แม็ก ระเบิดทีเอ็นที ขนาด 1 ปอนด์ 1 แท่ง ระเบิดทีเอ็นที ขนาดครึ่งปอนด์ 3 แท่ง ระเบิดทีเอ็นทีขนาด 1/4 ปอนด์ 4 แท่ง ระเบิดเคโม 3 แท่ง และสายแค 2 ม้วน
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าตรวจค้นทั้ง 2 จุด ทางทหารได้ประสานพนักงานสอบสวนทำการบันทึกการตรวจค้น และยึดของกลาง ก่อนจะควบคุมตัว พลฯ มนัสชัย และ จ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ ส่งให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ทำการสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา มีและครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
**หลักฐานมัดออกหมายจับได้เลย
พล.ต.ท.สัณฐาน เปิดเผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้ได้รับแจ้งมาจากสารวัตรทหาร และผบ.ม.พัน 4 รอ. ว่าทางทหารได้มีการตรวจค้นบ้านพักของพล.ต.ขัตติยะ ซึ่งตนในฐานะ ผบช.น. จึงได้มาร่วมตรวจค้น พร้อม ผบก. และผกก.เจ้าของท้องที่ เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ และจากการตรวจค้นบ้านพักของเสธ.แดง ก็พบทั้งปืนและระเบิด จากนั้นจึงได้มาตรวจค้นที่บ้านของ จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ ซึ่งเคยทำหน้าที่ ผบ.หมู่ยานเกราะปฏิบัติหน้าที่อยู่ตาพระยาเป็นหลัก และยังเป็นคนขับรถให้กับ เสธ.แดง มาตั้งแต่ปี 46
"จากการตรวจค้นทั้งภายในบ้านและรถ เราพบอาวุธสงครามชนิดร้ายแรงและผิดกฏหมายทั้งนั้น มีทั้งระเบิดเอ็ม 79 แบบธรรมดา และแบบเจาะเกราะ รวมทั้งปลอกเอ็ม 79 ที่ยิงไปแล้ว 2 ปลอก จึงได้รวบรวมไปตรวจสอบ และตรวจพิสูจน์เพื่อหาที่มาต่อไป" ผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าตรวจค้นบ้านพักของพล.ต.ขัตติยะ ในครั้งนี้ เป็นผลมาจากเหตุการณ์ที่คนร้ายยิงอาวุธปืนเอ็ม 79 เข้าใส่ห้องทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ในกองบัญชาการกองทัพบกหรือไม่ พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า รายละเอียดยังไม่อาจยืนยันได้ เพียงแต่ได้รับรายงานว่ามีการตรวจค้นจึงเดินทางมาดู ทั้งนี้ อาจจะมีผลมาจากเว็บไซต์ ของ เสธ.แดง และเพื่อนๆที่ระบุว่า มีการปฏิบัติการต่างๆซึ่งจะเชื่อมโยงหรือไม่ ก็ต้องไปพิสูจน์กันต่อไป
เมื่อถามอีกว่า จะต้องเรียก เสธ.แดง มาสอบปากคำด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า ไม่ต้องแล้ว หลังจากนี้ไปจะสอบสวนและออกหมายจับได้ทันที เพราะหลักฐานชัดเจน และขอยืนยันว่า การเข้าตรวจค้น เป็นการทำตามกฏหมายของฝ่ายทหาร ที่มีสารวัตรทหาร นายทหารพระธรรมนูญ และผู้บังคับหน่วย เข้าร่วมตรวจสอบด้วย ทั้งนี้ จะมีการขยายผลไปถึงคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่พบในครั้งนี้ด้วย
**ขนของกลางเก็บกองปราบ**
ด้านพ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่าขณะนี้ ยังต้องสอบปากคำพยานที่เป็นฝ่ายทหารเสียก่อนว่า จะสามารถเชื่อมโยงไปถึง พล.ต.ขัตติยะได้หรือไม่ ซึ่งตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีหลักฐานใดๆที่เกี่ยวพันกับบุคคลใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนของกลางทั้งหมดที่ยึดมาได้เบื้องต้นจะนำมาเก็บไว้ที่กองปราบปราม ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบหาที่มาที่ไปต่อไป
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางกองทัพบกได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัว พล.ต.ขัตติยะ ที่นั่งเครื่องบินจากหาดใหญ่ มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อมาสอบปากคำถึงเรื่องดังกล่าว
**เสธ.แดง เย้ยออกได้แค่หมายเรียก
ด้าน พล.ต.ขัตติยะ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นบ้านพักภายในกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) ว่า ขณะนี้ตนอยู่ที่ จ.สงขลา แต่ทราบว่า มีทหาร ตำรวจ มาล้อมบ้านตน เพียงแต่ไม่ได้นำอาวุธมา ซึ่งการมาครั้งนี้ของตำรวจ น่าจะมาเพื่อค้นบ้านของตนเอง เนื่องจากคิดว่าตนเป็นคนยิงห้องผบ.ทบ. แต่ค้นไปก็เท่านั้น เพราะบ้านตนไม่มีอาวุธสงคราม อาจจะมีแค่ปืนลูกกรด และพวกของที่ระลึก เนื่องจากตนเป็นทหารก็มีของที่ระลึกจากการไปฝึกอบรมทางทหาร แต่พวกเอ็ม 79 หรือ เอ็ม 16 จรวด อะไรตนไม่มี
เมื่อถามว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่าตอนนี้ยังไม่ทำอะไรต้องดูก่อนว่าเขาจะทำอะไรตนบ้าง เพราะตนไม่ผิดอะไร จะมาโทษตน แต่ไม่มีหลักฐานทำไม่ได้ ทำเหมือนผู้หญิงมาค้นบ้านตน การมาค้นบ้านทหารด้วยกันไม่อายหรือ จับอะไรก็ไม่ได้ บ้านตนก็มีแค่ตนกับลูกสาวเท่านั้น และมีพลทหารมาคอยเฝ้าบ้าน พล.อ.อนุพงษ์ ก็มีลูกสาวมาทำอย่างนี้ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ
"คนที่ทำอาจจะเป็นพวกที่ไม่ชอบ พล.อ.อนุพงษ์ หรืออาจจะเป็นพวกมือที่ 3 ที่มาคอยป่วนเมืองหรือไม่ แล้วมาโทษผม และหากจะมาจับผมก็ทำได้แค่ออกหมายเรียกเท่านั้น แต่จะมาออกหมายจับไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด พล.อ.อนุพงษ์ ไม่มีหลักฐานอะไร จะมาจับผม การทำแบบนี้ถือว่าไม่มีศักดิ์ศรี มาค้นบ้านทหารด้วยกัน เรื่องที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องเป็นเสธ.แดง อาจจะเป็นคนอื่นทำ ถ้าเสธ.แดง ทำจริง เสธ.แดงเอาชีวิตเลยไม่ดีกว่ารึ แต่เราก็เป็นเพื่อนกัน ผมจะทำไปทำไม อย่างผมทำได้แค่พูดตามสโลแกน เสธ.แดง คิดได้ พูดได้ แต่ทำไม่ได้" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
**ด่าป๊อกทหารตุ๊ดแต๋ว
"บ้านผมถูกค้นผมก็งง ไม่รู้ว่ามันค้นบ้านผมทำไม ผมไม่อยู่บ้าน ตอนนี้ผมอยู่ต่างจังหวัด มากับม็อบเสื้อแดง แม่งหน้าตัวเมียแม่งค้นบ้านผม ตัวมันโดนยิงกองทัพบกต้องลาออกแล้ว กระทรวงกลาโหม กองทัพบก ตั้งมา 122 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2430 ตั้งแต่ ร.5 แทนที่ มึงจะรู้สึก มันเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย หรือ มือที่ 3ยิงก็แย่เต็มทนแทนที่จะรู้สึกว่ารู้ตัวเองน่าอับอาย มันต้องมีความรับผิดชอบ เหมือนพันท้ายนรสิงห์ มึงต้องลาออกมึงเสือกมาค้นบ้านกันเองอีก บ้านก็มีแค่ลูกสาวคนเดียว มึงก็โตมาจากบ้านหลวงมึงก็จนทั้งนั้น มาค้นบ้านพวกเดียวกันเองได้ยังไง"
"ผมยืนยันว่าไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่บ่งบอกว่าผมยิงกองบัญชาการกองทัพบก แค่มึงพักราชการกูเท่านั้นเหรอ ผมคิดว่าอาจจะเป็นมือที่ 3 มายิงก็ได้ มีแต่มึงหน้าอับอาย ไม่ทุเรศเหรอค้นบ้านทหารด้วยกันเอง เมื่อก่อนตำรวจไปค้นบ้านทหาร ผมยังช่วยมันเลย สมัยจับระเบิดตู้โทรศัพท์ปีใหม่ จริงๆ เขาไม่ทำกัน ถึงบอกว่าทหารตุ๊ด มันแต๋วแตกออก ถ้าเอาคืนได้ ผมได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมผมจะพักราชการมัน จับขั้วใหม่ขอเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสักที จะพักราชการไอ้ป๊อกก่อน ผมยืนยันได้ว่าไม่ได้ยิง ถ้ายิงแล้วจะบอก"นายทหารคนดังกล่าว
** จี้ประวิตร-อนุพงษ์ลาออก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่ตำรวจกองปราบจะไปค้นบ้านพัก พล.ต.ขัตติยะ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ว่า ตนไม่เกี่ยวกับเหตุยิงระเบิดที่เกิดขึ้น เพราะวันเกิดเหตุที่ข่าวระบุว่าเป็นวันที่ 14 ม.ค.นั้น ตนเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อไปปราศรัยขึ้นเวทีของกลุ่มเสื้อแดง ดังนั้นไม่ควรนำตนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการยิงครั้งนี้
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ แต่อาจจะเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัย ที่ต้องการมาล้างแค้นพล.อ.อนุพงษ์ ก็ได้ เพราะเมื่อครั้งที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ถูกลอบสังหารนั้น ลูกชายของนายสนธิ เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่ม 3 ป. จนทำให้ช่วงนั้นตนต้องออกมาปกป้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรืออาจจะเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่ไม่พอใจการกระทำของพล.อ.อนุพงษ์ ก็ได้
"การที่กองทัพบกถูกคนร้ายยิงด้วยลูกระเบิดเอ็ม 79 นั้น ถือว่า เป็นความอับอายที่สุดของกองทัพบก เพราะตั้งแต่มีการตั้งกองทัพบกมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งมาถึง 122 ปี ไม่เคยถูกใครยิงมาก่อน การโดนยิงครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ รมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และขณะนี้กองทัพบกไม่ใช่ของประชาชนอีกต่อไปแล้ว เพราะขณะนี้มีประชาชนที่ไม่พอใจ พล.อ.อนุพงษ์ จนถึงเอาพวงหรีดไปวางหน้ากองทัพบก ซึ่งในประวัติศาสตร์กองทัพบกไม่เคยมีมาก่อน" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
**ขู่"ป๊อก"รีบพาลูกเมียนอนค่ายทหาร
เมื่อถามว่าจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีกหรือไม่พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ไม่รู้ แต่ตนเชื่อว่า มีแน่นอน เพราะเมื่อมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สอง และในฐานะที่ตนเป็นเพื่อนรักของพล.อ.อนุพงษ์ ก็ขอเตือนว่า ให้นำภรรยาและลูก ย้ายออกมาจากบ้านพักใน ซ.พุทธมณฑล 68 มาอยู่ที่บ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เพราะเกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย
"การที่พล.อ.อนุพงษ์ ใช้กำลังสารวัตรทหารบก (สห.) 30 กว่าคน ไปช่วยรักษาความปลอดภัยบ้านตัวเองที่ย่านพุทธมณฑลนั้น ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการนำกำลังพลที่ไว้ใช้สำหรับงานหลวงไปใช้งานส่วนตัว ตอนนี้พล.อ.อนุพงษ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งสถานเดียว เพราะผมเชื่อว่าทางกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอาจจะมีการยิงถล่มจนกว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะลาออก หากไม่ลาออกก็จะทำให้พล.อ.อนุพงษ์เหมือนตายทั้งเป็น ดังนั้นขอเตือน และแนะนำว่าให้รีบนำตาข่ายมาห่อตัวตึกกองบัญชาการกองทัพบกไว้ เพื่อป้องกันลูกระเบิดเอ็ม 79 ที่จะถูกยิงเข้ามา" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
วานนี้ (21) เวลาประมาณ 14.30 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผบช.ส. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้เดินทางมาที่บก.ทบ. เพื่อประชุมร่วมกับ พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. และพล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสธ.ทบ. โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็เดินทางมาร่วมประชุมด้วย
**"ไฟเขียวให้ตร.ค้นบ้าน"เสธ.แดง"
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในเบื้องต้น 5 เสือทบ. ซึ่งประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารบก รองผู้บัญชาการทหารบก ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก 12 นาย และเสนาธิการทหารบก ได้ประชุมร่วมกันก่อนเพื่อประเมินสถานการณ์ จากนั้นจึงประชุมร่วมกับนายสุเทพ และผู้บัญชาการตำรวจจาก 3 หน่วยงานดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง และมีรายงานว่าผู้บัญชาการทหารบก อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ที่อยู่ภายในกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.)
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เพียงสั้นๆว่า การประชุมดัง กล่าวเป็นการประเมินสถานการณ์ทั่วไปประจำสัปดาห์ตามปกติ ผบ.ทบ. ไม่ได้แสดงความกังวล หรือห่วงใยเรื่องใดเป็นพิเศษ และที่ประชุมไม่ได้หารือกรณีคนร้ายยิงระเบิดเข้ามาที่ บก.ทบ.
**ตร.-ทหาร ค้นบ้าน"เสธแดง"
ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีระ จิระวีระ ผกก.สน.เตาปูน พร้อมพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 1156/27 ชุมชนยานเกราะ ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.ซึ่งเป็นบ้านพักของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ซึ่งอยู่ระหว่างถูกคำสั่งพักราชการ หลังได้รับรายงานว่ากองทัพบกได้มอบหมายให้ พ.ต.ประเสริฐ พิศมัย นายทหารพระธรรมนูญ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร ทั้งของ ม. พัน 3 และ ม. พัน 4 นำโดยผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ผบ.ม.พัน 4 รอ.) ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทน ผบก.ป. ได้เข้าตรวจค้นในบ้านหลังดังกล่าว จึงประสานมาให้ตำรวจเข้าร่วมตรวจสอบด้วย ซึ่งเมื่อไปถึงพบพลทหารมนัสชัย อำพร และนายเอกลักษณ์ วิเศษวงษา อยู่ภายในบ้าน
จากการตรวจค้นภายในรถตู้เมอซิเดสเบนซ์ ทะเบียน ศข-112 กทม. พบอาวุธปืนออโตเมติก .32 จำนวน 1 กระบอก แม็กกระสุนปืน 2 แม็ก ระเบิดลูกเกลี้ยง 1 ลูก พร้อมกระสุนปืน.22 อีกหลายร้อยนัด ทางตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งคู่ไปสอบปากคำที่ สน.เตาปูน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำกำลัง เข้าตรวจค้นภายในแฟลต 3 ชั้นที่ 1 ห้องเลขที่ 9 ซึ่งเป็นบ้านพักของ จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช อายุ 50 ปี ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ (ผบ.) ยานเกราะ ซึ่งเป็นอดีตคนขับรถ และคนสนิทของพล.ต.ขัตติยะ
**ตะลึงพบคลังอาวุธสงคราม
จากการตรวจค้นภายในบ้านพักหลังดังกล่าว พบกระสุนเอ็ม 79 จำนวน 10 ลูก กระสุนปืน ปตอ.ขนาด 12.7 จำนวน 17 นัด ระเบิดควัน 2 ลูก ปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนเอ็ม 60 จำนวน 5 ชุด ระเบิดสังหารแบบเหยียบ 1 ลูก แม็กกาซีนกระสุนปืนอาก้า 4 แม็ก แม็กกระสุนปืนขนาด 9 CZ 1 แม็ก ระเบิดแค 1 ลูก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
หลังจากนั้น ยังได้เข้าตรวจค้นรถกระบะโตโยต้า วีโก ถข-1161 กทม. ของจ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ ก็พบระเบิดเอ็ม 79 หัวทอง 24 ลูก หัวดำเจาะเกราะ 8 ลูก ปลอกกระสุนเอ็ม 79 ยิงแล้ว 2 ปลอก กระสุนปืนอาก้าอีกหลายร้อยนัด แม็กกระสุนปืนอาก้า 4 แม็ก ระเบิดทีเอ็นที ขนาด 1 ปอนด์ 1 แท่ง ระเบิดทีเอ็นที ขนาดครึ่งปอนด์ 3 แท่ง ระเบิดทีเอ็นทีขนาด 1/4 ปอนด์ 4 แท่ง ระเบิดเคโม 3 แท่ง และสายแค 2 ม้วน
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าตรวจค้นทั้ง 2 จุด ทางทหารได้ประสานพนักงานสอบสวนทำการบันทึกการตรวจค้น และยึดของกลาง ก่อนจะควบคุมตัว พลฯ มนัสชัย และ จ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ ส่งให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ทำการสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา มีและครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
**หลักฐานมัดออกหมายจับได้เลย
พล.ต.ท.สัณฐาน เปิดเผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้ได้รับแจ้งมาจากสารวัตรทหาร และผบ.ม.พัน 4 รอ. ว่าทางทหารได้มีการตรวจค้นบ้านพักของพล.ต.ขัตติยะ ซึ่งตนในฐานะ ผบช.น. จึงได้มาร่วมตรวจค้น พร้อม ผบก. และผกก.เจ้าของท้องที่ เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญ และจากการตรวจค้นบ้านพักของเสธ.แดง ก็พบทั้งปืนและระเบิด จากนั้นจึงได้มาตรวจค้นที่บ้านของ จ.ส.อ.ณัฏฐ์สิทธิ์ ซึ่งเคยทำหน้าที่ ผบ.หมู่ยานเกราะปฏิบัติหน้าที่อยู่ตาพระยาเป็นหลัก และยังเป็นคนขับรถให้กับ เสธ.แดง มาตั้งแต่ปี 46
"จากการตรวจค้นทั้งภายในบ้านและรถ เราพบอาวุธสงครามชนิดร้ายแรงและผิดกฏหมายทั้งนั้น มีทั้งระเบิดเอ็ม 79 แบบธรรมดา และแบบเจาะเกราะ รวมทั้งปลอกเอ็ม 79 ที่ยิงไปแล้ว 2 ปลอก จึงได้รวบรวมไปตรวจสอบ และตรวจพิสูจน์เพื่อหาที่มาต่อไป" ผบช.น.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าตรวจค้นบ้านพักของพล.ต.ขัตติยะ ในครั้งนี้ เป็นผลมาจากเหตุการณ์ที่คนร้ายยิงอาวุธปืนเอ็ม 79 เข้าใส่ห้องทำงานของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ในกองบัญชาการกองทัพบกหรือไม่ พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า รายละเอียดยังไม่อาจยืนยันได้ เพียงแต่ได้รับรายงานว่ามีการตรวจค้นจึงเดินทางมาดู ทั้งนี้ อาจจะมีผลมาจากเว็บไซต์ ของ เสธ.แดง และเพื่อนๆที่ระบุว่า มีการปฏิบัติการต่างๆซึ่งจะเชื่อมโยงหรือไม่ ก็ต้องไปพิสูจน์กันต่อไป
เมื่อถามอีกว่า จะต้องเรียก เสธ.แดง มาสอบปากคำด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า ไม่ต้องแล้ว หลังจากนี้ไปจะสอบสวนและออกหมายจับได้ทันที เพราะหลักฐานชัดเจน และขอยืนยันว่า การเข้าตรวจค้น เป็นการทำตามกฏหมายของฝ่ายทหาร ที่มีสารวัตรทหาร นายทหารพระธรรมนูญ และผู้บังคับหน่วย เข้าร่วมตรวจสอบด้วย ทั้งนี้ จะมีการขยายผลไปถึงคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่พบในครั้งนี้ด้วย
**ขนของกลางเก็บกองปราบ**
ด้านพ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่าขณะนี้ ยังต้องสอบปากคำพยานที่เป็นฝ่ายทหารเสียก่อนว่า จะสามารถเชื่อมโยงไปถึง พล.ต.ขัตติยะได้หรือไม่ ซึ่งตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีหลักฐานใดๆที่เกี่ยวพันกับบุคคลใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนของกลางทั้งหมดที่ยึดมาได้เบื้องต้นจะนำมาเก็บไว้ที่กองปราบปราม ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบหาที่มาที่ไปต่อไป
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางกองทัพบกได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัว พล.ต.ขัตติยะ ที่นั่งเครื่องบินจากหาดใหญ่ มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อมาสอบปากคำถึงเรื่องดังกล่าว
**เสธ.แดง เย้ยออกได้แค่หมายเรียก
ด้าน พล.ต.ขัตติยะ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นบ้านพักภายในกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) ว่า ขณะนี้ตนอยู่ที่ จ.สงขลา แต่ทราบว่า มีทหาร ตำรวจ มาล้อมบ้านตน เพียงแต่ไม่ได้นำอาวุธมา ซึ่งการมาครั้งนี้ของตำรวจ น่าจะมาเพื่อค้นบ้านของตนเอง เนื่องจากคิดว่าตนเป็นคนยิงห้องผบ.ทบ. แต่ค้นไปก็เท่านั้น เพราะบ้านตนไม่มีอาวุธสงคราม อาจจะมีแค่ปืนลูกกรด และพวกของที่ระลึก เนื่องจากตนเป็นทหารก็มีของที่ระลึกจากการไปฝึกอบรมทางทหาร แต่พวกเอ็ม 79 หรือ เอ็ม 16 จรวด อะไรตนไม่มี
เมื่อถามว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่าตอนนี้ยังไม่ทำอะไรต้องดูก่อนว่าเขาจะทำอะไรตนบ้าง เพราะตนไม่ผิดอะไร จะมาโทษตน แต่ไม่มีหลักฐานทำไม่ได้ ทำเหมือนผู้หญิงมาค้นบ้านตน การมาค้นบ้านทหารด้วยกันไม่อายหรือ จับอะไรก็ไม่ได้ บ้านตนก็มีแค่ตนกับลูกสาวเท่านั้น และมีพลทหารมาคอยเฝ้าบ้าน พล.อ.อนุพงษ์ ก็มีลูกสาวมาทำอย่างนี้ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ
"คนที่ทำอาจจะเป็นพวกที่ไม่ชอบ พล.อ.อนุพงษ์ หรืออาจจะเป็นพวกมือที่ 3 ที่มาคอยป่วนเมืองหรือไม่ แล้วมาโทษผม และหากจะมาจับผมก็ทำได้แค่ออกหมายเรียกเท่านั้น แต่จะมาออกหมายจับไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด พล.อ.อนุพงษ์ ไม่มีหลักฐานอะไร จะมาจับผม การทำแบบนี้ถือว่าไม่มีศักดิ์ศรี มาค้นบ้านทหารด้วยกัน เรื่องที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องเป็นเสธ.แดง อาจจะเป็นคนอื่นทำ ถ้าเสธ.แดง ทำจริง เสธ.แดงเอาชีวิตเลยไม่ดีกว่ารึ แต่เราก็เป็นเพื่อนกัน ผมจะทำไปทำไม อย่างผมทำได้แค่พูดตามสโลแกน เสธ.แดง คิดได้ พูดได้ แต่ทำไม่ได้" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
**ด่าป๊อกทหารตุ๊ดแต๋ว
"บ้านผมถูกค้นผมก็งง ไม่รู้ว่ามันค้นบ้านผมทำไม ผมไม่อยู่บ้าน ตอนนี้ผมอยู่ต่างจังหวัด มากับม็อบเสื้อแดง แม่งหน้าตัวเมียแม่งค้นบ้านผม ตัวมันโดนยิงกองทัพบกต้องลาออกแล้ว กระทรวงกลาโหม กองทัพบก ตั้งมา 122 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2430 ตั้งแต่ ร.5 แทนที่ มึงจะรู้สึก มันเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย หรือ มือที่ 3ยิงก็แย่เต็มทนแทนที่จะรู้สึกว่ารู้ตัวเองน่าอับอาย มันต้องมีความรับผิดชอบ เหมือนพันท้ายนรสิงห์ มึงต้องลาออกมึงเสือกมาค้นบ้านกันเองอีก บ้านก็มีแค่ลูกสาวคนเดียว มึงก็โตมาจากบ้านหลวงมึงก็จนทั้งนั้น มาค้นบ้านพวกเดียวกันเองได้ยังไง"
"ผมยืนยันว่าไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่บ่งบอกว่าผมยิงกองบัญชาการกองทัพบก แค่มึงพักราชการกูเท่านั้นเหรอ ผมคิดว่าอาจจะเป็นมือที่ 3 มายิงก็ได้ มีแต่มึงหน้าอับอาย ไม่ทุเรศเหรอค้นบ้านทหารด้วยกันเอง เมื่อก่อนตำรวจไปค้นบ้านทหาร ผมยังช่วยมันเลย สมัยจับระเบิดตู้โทรศัพท์ปีใหม่ จริงๆ เขาไม่ทำกัน ถึงบอกว่าทหารตุ๊ด มันแต๋วแตกออก ถ้าเอาคืนได้ ผมได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมผมจะพักราชการมัน จับขั้วใหม่ขอเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสักที จะพักราชการไอ้ป๊อกก่อน ผมยืนยันได้ว่าไม่ได้ยิง ถ้ายิงแล้วจะบอก"นายทหารคนดังกล่าว
** จี้ประวิตร-อนุพงษ์ลาออก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่ตำรวจกองปราบจะไปค้นบ้านพัก พล.ต.ขัตติยะ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ว่า ตนไม่เกี่ยวกับเหตุยิงระเบิดที่เกิดขึ้น เพราะวันเกิดเหตุที่ข่าวระบุว่าเป็นวันที่ 14 ม.ค.นั้น ตนเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อไปปราศรัยขึ้นเวทีของกลุ่มเสื้อแดง ดังนั้นไม่ควรนำตนเข้ามาเกี่ยวข้องกับการยิงครั้งนี้
ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ แต่อาจจะเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัย ที่ต้องการมาล้างแค้นพล.อ.อนุพงษ์ ก็ได้ เพราะเมื่อครั้งที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ถูกลอบสังหารนั้น ลูกชายของนายสนธิ เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่ม 3 ป. จนทำให้ช่วงนั้นตนต้องออกมาปกป้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรืออาจจะเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่ไม่พอใจการกระทำของพล.อ.อนุพงษ์ ก็ได้
"การที่กองทัพบกถูกคนร้ายยิงด้วยลูกระเบิดเอ็ม 79 นั้น ถือว่า เป็นความอับอายที่สุดของกองทัพบก เพราะตั้งแต่มีการตั้งกองทัพบกมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งมาถึง 122 ปี ไม่เคยถูกใครยิงมาก่อน การโดนยิงครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรณ รมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และขณะนี้กองทัพบกไม่ใช่ของประชาชนอีกต่อไปแล้ว เพราะขณะนี้มีประชาชนที่ไม่พอใจ พล.อ.อนุพงษ์ จนถึงเอาพวงหรีดไปวางหน้ากองทัพบก ซึ่งในประวัติศาสตร์กองทัพบกไม่เคยมีมาก่อน" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
**ขู่"ป๊อก"รีบพาลูกเมียนอนค่ายทหาร
เมื่อถามว่าจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีกหรือไม่พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ไม่รู้ แต่ตนเชื่อว่า มีแน่นอน เพราะเมื่อมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งที่สอง และในฐานะที่ตนเป็นเพื่อนรักของพล.อ.อนุพงษ์ ก็ขอเตือนว่า ให้นำภรรยาและลูก ย้ายออกมาจากบ้านพักใน ซ.พุทธมณฑล 68 มาอยู่ที่บ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เพราะเกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัย
"การที่พล.อ.อนุพงษ์ ใช้กำลังสารวัตรทหารบก (สห.) 30 กว่าคน ไปช่วยรักษาความปลอดภัยบ้านตัวเองที่ย่านพุทธมณฑลนั้น ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการนำกำลังพลที่ไว้ใช้สำหรับงานหลวงไปใช้งานส่วนตัว ตอนนี้พล.อ.อนุพงษ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งสถานเดียว เพราะผมเชื่อว่าทางกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอาจจะมีการยิงถล่มจนกว่า พล.อ.อนุพงษ์ จะลาออก หากไม่ลาออกก็จะทำให้พล.อ.อนุพงษ์เหมือนตายทั้งเป็น ดังนั้นขอเตือน และแนะนำว่าให้รีบนำตาข่ายมาห่อตัวตึกกองบัญชาการกองทัพบกไว้ เพื่อป้องกันลูกระเบิดเอ็ม 79 ที่จะถูกยิงเข้ามา" พล.ต.ขัตติยะกล่าว