xs
xsm
sm
md
lg

ตั้ง"ประทิน-บรรลุ"สอบโกงงบฯ สธ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วิทยา”เตรียมตั้ง “พล.ต.อ.ประทิน-หมอบรรลุ” เป็นคณะกรรมการคนนอก สอบหาคนผิดโกงงบฯ “ไทยเข้มแข็ง”ต่อ ชี้เป็นบุคคลที่สังคมยอมรับ ยันไม่มี ส.ส. ร่วมโกง

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ผลสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ตามโครงการไทยเข้มแข็ง ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ที่ไม่มีการระบุชื่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากผลการตรวจสอบเป็นไปตามกระบวนการที่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพราะอาจมีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องและต้องเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกพาดพิงชี้แจง

“วิทยา”ไม่การันตีที่ปรึกษาไม่เอี่ยวโกง

“ได้รับรายงานสรุปผลตรวจสอบชุดที่ นพ.เสรี หงษ์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ.เป็นประธาน พบว่า ไม่ปรากฏชื่อของ ส.ส.อดีต ส.ส.และรัฐมนตรี อยู่ในกระบวนการทุจริต แต่ไม่การันตีว่า จะมีอบต. ที่ปรึกษา เกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องตรวจสอบต่อไปโดยคณะกรรมการตรวจสอบอีกชุดที่ ปลัดสธ.จะตั้งขึ้น ต้องเชิญผู้ที่ถูกพาดพิงมาให้ชี้แจงข้อมูล และ สธ.พร้อมจะให้คณะกรรมาธิการสาธารณสุข ทั้งของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาตรวจสอบอย่างละเอียด ”นายวิทยา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มีข้อเรียกร้องให้นายวิทยา ลาออกนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ยืนยันว่าถ้าไม่มีอุปสรรคทางการเมือง ตนจะอยู่ที่นี่จนกว่ากระบวนการตรวจสอบจะแล้วเสร็จหรือมีความกระจ่าง จน สธ.สะอาดโปร่งใสแล้วจึงจะไป ถ้ารับผิดชอบด้วยการลาออก ทั้งชีวิตก็คงติดคำว่าโกง จึงจะขอพิสูจน์และทำความจริงให้กระจ่าง และหากผลสอบพบว่าคนที่ใกล้ชิดตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องให้โอกาสกลับมาทำงาน

ตั้ง “พล.ต.อ.ประทิน”-หมอบรรลุ” สางโกง

ต่อมา นายวิทยา ให้สัมภาษณ์ว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้ อาจยังไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน ยังมีความแคลงใจ เกรงว่าจะเป็นการปกป้องนักการเมือง จึงได้ติดต่อบุคคลภายนอก 2 ท่าน คือ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจและสมาชิกวุฒิสภา กทม.ซึ่งขณะนี้รับปากว่าจะร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนอีกท่านคือ นพ.บรรลุ ศิริพานิช อดีตรองปลัดสธ.และอดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในสมัยกรณีการทุจรติยา ซึ่งบุคคลทั้ง 2 ท่านถือเป็นบุคคลที่ได้รับการเชื่อถือจากสังคม จากนั้นจะขอให้ทั้ง 2 ท่านเสนอรายชื่อแต่งตั้งคณะกรรมการร่วม เพื่อให้ความจริงกระจ่างและ สธ.พ้นจากข้อครหา ทั้งนี้ เป็นการตัดสินใจร่วมปลัดฯ ส่วนขอบเขตในการตรวจสอบของ ต้องให้กรรมการเป็นคนหารือว่าจะมีการตรวจสอบได้ทั้งนักการเมืองและข้าราชการหรือไม่

ขณะที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า หากมีการตั้ง พล.ต.อ.ประทิน และนพ.บรรลุ เข้ามาคณะกรรมการตรวจสอบฯ ก็พอใจ เนื่องจากบุคคลทั้ง 2 ท่านนี้ มีความน่าเชื่อถือ ประวัติมีความโปร่งใส่ ดังนั้น ไม่ว่าผลสอบจะออกมาเป็นอย่างใดก็ไม่ติดใจเพราะถือว่ายอมรับได้

เตรียมย้าย ผอ.สบภ.พ้นทาง

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธาณรสุข กล่าวว่า จะนำผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาพิจารณาอีกครั้ง เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาผู้เกี่ยวข้อง โดยจะพิจารณาว่าหากข้าราชการคนใดเป็นอุปสรรคต่อการหาข้อเท็จจริง ก็จะให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวไปก่อน ซึ่งเป็นอำนาจของตนที่สามารถทำได้ทันที แต่ยืนยันว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีอคติ เพราะหากพลาดแล้วโดนฟ้องกลับก็ไม่สนุก อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการตรวจสอบชุด นพ.เสรี อาจจะยังไม่หมดหน้าที่ต้องตรวจสอบต่อ และอาจต้องขยายกรรมการเพิ่ม เพื่อตรวจสอบข้อมูลภายหลังจากคณะกรรมการทบทวนรายการครุภัณฑ์ได้ทบทวนรายการทั้งหมดแล้ว

“ที่ผ่านมา นพ.สุชาติ เลาหบริพัตร ผู้อำนวยการสำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค (สบภ.) ได้เข้าไปให้ข้อมูลแก่คณะกรรมาธิการ ส.ส. โดยได้กล่าวถึงบุคคล 3 กลุ่มคือข้าราชการประจำ ข้าราชการเกษียณอายุ และข้าราชการการเมือง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดปกติในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ แต่จะเป็นใครบ้างขอปกปิดชื่อ และจะต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนคณะกรรมการที่มีคนนอกอาจจะเป็นการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกและระบุตัวบุคคลที่กระทำผิด ซึ่งผลตรวจสอบอาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่เพื่อความถูกต้อง ชัดเจน เชื่อว่าสังคมจะมีความเชื่อถือและสามารถรอได้” นพ.ไพจิตร์ กล่าว

ระบุหลักฐานโยงบุคคล-บ.เอกชน

นพ.เสรี หงษ์หยก ผู้ตรวจราชการ สธ. กล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดที่ตน เป็นประธานได้มีการสอบพยานบุคคลไป 10 กว่าปาก และหลักฐานที่เป็นเอกสารอีกหลายชุด จนพบว่ามีมูลความผิดปกติของการทุจริตจริง และสามารถเชื่อมโยงกลุ่มบุคคลที่ถูกพาดพิงทั้งคนทำและบริษัทเอกชนได้หลายแห่ง แต่หลักฐานที่ได้ส่วนใหญ่เป็นเพียงการกระทำด้วยวาจาไม่มีเอกสารลายลักษณ์อักษร จึงต้องปกปิดรายชื่อ เพราะถือว่าหลักฐานอ่อนมาก อาจถูกฟ้องร้องได้ ดังนั้น จึงต้องมีคณะกรรมการสอบเชิงลึกเพื่อให้ได้ตัวบุคคลต่อไป

ด้าน พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาสอบสวนและศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต วุฒิสภา เปิดเผยว่า ยืนยันว่าหากการสอบสวนพบหลักฐานชัดเจนก็จะเปิดเผยรายชื่อของผู้บงการในการทุจริตในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการที่เกษียณไปแล้วหรือในส่วนของนักการเมือง และจะสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงที่สังคมต้องการทราบให้ได้มากที่สุด ไม่กลัวว่าจะมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทแต่อย่างใด เพราะว่าคณะกรรมการทำตามหน้าที่และพยานหลักฐาน

ใบปลิวว่อนชี้ “2บิ๊ก”สั่งสอดไส้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้(14 ต.ค.)มีเอกสารการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการของบฯ เครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงอัลตร้าไวโอเลตส่งแฟ็กซ์มายังห้องสื่อมวลชนประจำ สธ. โดยไม่ระบุที่มาที่ไป แต่มีหมายเหตุตอนท้ายของหนังสือว่า ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่ นพ.สุชาติ เลาบริพัตร ผอ.สำนักบริหารสาธารณสุขภูมิภาค(สบภ.) และเจ้าหน้าที่ของ สบภ.ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้พยายามเรียงลำดับเหตุการณ์ เป็นคำชี้แจงของผู้เกี่ยวข้องที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงรายการครุภัณฑ์ที่ไม่กล้าเปิดเผย

หนังสือระบุตั้งแต่การที่ นพ.สุชาติ ได้รับโครงการฯ จากที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ สธ.คนหนึ่ง แต่ นพ.สุชาติ ยืนยันว่าจะของบฯ ได้ต้องได้รับคำสั่งจากผู้บริหารระดับสูง สธ. 2 คน กระทั่งผู้บริหารระดับสูง สธ. 1 ใน 2 คน ได้เรียก นพ.สุชาติ เข้าพบ และอ้างถึงเรื่องปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และสั่งให้ใส่คำของบฯ เพื่อจัดซื้อเครื่องฆ่าเชื้อฯ ทั่วประเทศ จำนวน 800 เครื่อง เครื่องละ 40,000 บาท ซึ่งวันที่ 17 พ.ค. เป็นวันที่ สบภ.ต้องรวบรวมข้อมูลสิ่งก่อสร้างและครุภัณฑ์ส่งสำนักงบประมาณ จากนั้นเวลาประมาณ 19.00น.ผู้บริหารระดับสูง สธ.อีกคนหนึ่งได้โทรศัพท์มาถาม นพ.สุชาติ ว่า ได้ใส่คำขอเครื่องฆ่าเชื้อโรคฯ หรือไม่ นพ.สุชาติบอกว่าได้กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอสำนักงบฯอยู่

หนังสือระบุด้วยว่า ในการกรอกคำของบประมาณ นพ.สุชาติ ให้ใส่คำขอรวมเป็นรายการเดียวทั้งประเทศ ไม่ให้แตกเป็นพื้นที่จังหวัดหรืออำเภอ ซึ่งต่อมามีการปรับรายการครุภัณฑ์ ทำให้เครื่องฆ่าเชื้อด้วยแสงฯ หลุดจากรายการไป ซึ่งผู้บริหาร สธ. 1 ใน 2 คน ได้เรียกเจ้าหน้าที่สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์(สนย.) 2 ราย เข้าพบเพื่อสอบถาม และให้ใส่คำของบฯ เครื่องฆ่าเชื้อฯ เข้าไปใหม่

“หมอสุชาติ”ปัดกระจายใบปลิว

ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ นพ.สุชาติ ซึ่งลาป่วย และจะกลับไปทำงานต่อในวันนี้(15 ต.ค.) โดย นพ.สุชาติ กล่าวว่า หนังสือดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่ได้จัดทำขึ้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องมีการปกปิด เนื่องจากเป็นการให้ข้อเท็จจริงกับคณะกรรมาการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้เป็นผู้ส่งเอกสารไปยังห้องผู้สื่อข่าว สธ. อาจจะมีเจ้าหน้าที่หรือใครก็ตามที่เห็นควรจะมีการเปิดเผยข้อมูลนี้ให้สาธารณะรับทราบ เพราะเจ้าหน้าที่ใน สบภ.ก็มีเอกสารดังกล่าวอยู่ ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่ควรเปิดเผยชื่อของตนให้สาธารณะรับทราบ แต่ไม่เข้าใจว่าตนได้เปิดเผยข้อเท็จจริงรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว เหตุใดคณะกรรมการไม่เปิดเผยข้อมูล
กำลังโหลดความคิดเห็น