ประธาน อ.ส.ท.ขู่ กระทรวงการคลัง หลัง 20 ตุลา หากยังไม่มีคำตอบ ถือรัฐถ่วงเวลา ไม่จริงใจ แก้กฎระเบียบ กบข.การคำนวณเงินบำนาญ สมาชิกจะไม่ส่งเงินเข้ากองทุน และนัดชุมนุมใหญ่
วันนี้ (12 ต.ค.) นายวิศร์ อัครสัตติกุล ประธานองค์กรเครือข่ายสมาชิก กบข.แห่งประเทศไทย (อ.ส.ท.) ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูแถลงข่าวว่า ตามที่ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ให้ข่าวว่า การดำเนินการ กบข.มีกำไรเพิ่มขึ้นมาก รวมทั้งเรื่องการสารหาคนที่จะมาเป็นเลขาธิการ กบข.ล่าช้านั้น ตนได้ฟังเสียงสมาชิกส่วนใหญ่ว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สมาชิกต้องการ สิ่งที่สมาชิกต้องการ คือ การแก้ไขกฎระเบียบ กบข.มาตรา 63 แห่ง พ.ร.บ. กบข.ที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคำนวณเงินบำนาญ เมื่อเกษียณหรือลาออกให้ได้รับบำนาญเต็มเหมือนกับผู้ที่ไม่เคยเป็นสมาชิก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมายแต่ยังไม่ได้มีความคืบหน้า เนื่องจากติดขัดที่ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองไม่สิ้นสุด
ล่าสุด กระทรวงการคลัง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมหลายฝ่าย โดยมีประธานองค์กรเครือข่ายและคณะรวม 10 คน เข้าร่วมประชุมที่ ก.คลัง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติเห็นพ้องต้องกันในหลักการที่องค์กรเครือข่ายเรียกร้อง 4 ประเด็น คือ 1.ให้แก้ไข มาตรา 63 เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคำนวณเงินบำนาญจากอัตราเงินเดือนเฉลี่ยเดือนสุดท้าย คูณด้วยเวลาราชการ หารด้วย 50 2.ให้ชดเชยเงินที่สมาชิกสูญเสียไปเมื่อปี 2551 3.ให้มีการปรับโครงสร้างผู้แทนกรรมการสมาชิก กบข.ตามสัดส่วนของสมาชิกแต่ละกระทรวง ซึ่งแต่เดิมมีกระทรวงละ 1 คน และ 4.ให้นำเงินกองทุน กบข.มาลงทุนหมุนเวียนในสถาบันการเงินของสมาชิกแต่ละประเภทเพื่อให้สมาชิกกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ครู เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ขอเวลา 60 วัน ในการดำเนินการ เมื่อครบ 60 วัน หรือ 20 ตุลาคมนี้ หากเกิดปัญหาความล่าช้า หรือมีการถ่วงเวลา เนื่องจากรัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาของสมาชิก สมาชิกจะนัดหมายงดส่งเงินเข้ากองทุนพร้อมกัน ลาออก ให้ยกเลิกกองทุนและให้คืนเงินแก่สมาชิกโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้สมาชิก กบข.ทั่วประเทศกำลังรอคำตอบ ถ้าหากไม่มีคำตอบ สมาชิกจะเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อทวงคำตอบ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ (12 ต.ค.) นายวิศร์ อัครสัตติกุล ประธานองค์กรเครือข่ายสมาชิก กบข.แห่งประเทศไทย (อ.ส.ท.) ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูแถลงข่าวว่า ตามที่ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ให้ข่าวว่า การดำเนินการ กบข.มีกำไรเพิ่มขึ้นมาก รวมทั้งเรื่องการสารหาคนที่จะมาเป็นเลขาธิการ กบข.ล่าช้านั้น ตนได้ฟังเสียงสมาชิกส่วนใหญ่ว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สมาชิกต้องการ สิ่งที่สมาชิกต้องการ คือ การแก้ไขกฎระเบียบ กบข.มาตรา 63 แห่ง พ.ร.บ. กบข.ที่เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคำนวณเงินบำนาญ เมื่อเกษียณหรือลาออกให้ได้รับบำนาญเต็มเหมือนกับผู้ที่ไม่เคยเป็นสมาชิก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมายแต่ยังไม่ได้มีความคืบหน้า เนื่องจากติดขัดที่ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองไม่สิ้นสุด
ล่าสุด กระทรวงการคลัง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมหลายฝ่าย โดยมีประธานองค์กรเครือข่ายและคณะรวม 10 คน เข้าร่วมประชุมที่ ก.คลัง เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติเห็นพ้องต้องกันในหลักการที่องค์กรเครือข่ายเรียกร้อง 4 ประเด็น คือ 1.ให้แก้ไข มาตรา 63 เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การคำนวณเงินบำนาญจากอัตราเงินเดือนเฉลี่ยเดือนสุดท้าย คูณด้วยเวลาราชการ หารด้วย 50 2.ให้ชดเชยเงินที่สมาชิกสูญเสียไปเมื่อปี 2551 3.ให้มีการปรับโครงสร้างผู้แทนกรรมการสมาชิก กบข.ตามสัดส่วนของสมาชิกแต่ละกระทรวง ซึ่งแต่เดิมมีกระทรวงละ 1 คน และ 4.ให้นำเงินกองทุน กบข.มาลงทุนหมุนเวียนในสถาบันการเงินของสมาชิกแต่ละประเภทเพื่อให้สมาชิกกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ครู เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ขอเวลา 60 วัน ในการดำเนินการ เมื่อครบ 60 วัน หรือ 20 ตุลาคมนี้ หากเกิดปัญหาความล่าช้า หรือมีการถ่วงเวลา เนื่องจากรัฐบาลไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาของสมาชิก สมาชิกจะนัดหมายงดส่งเงินเข้ากองทุนพร้อมกัน ลาออก ให้ยกเลิกกองทุนและให้คืนเงินแก่สมาชิกโดยเร็ว ซึ่งขณะนี้สมาชิก กบข.ทั่วประเทศกำลังรอคำตอบ ถ้าหากไม่มีคำตอบ สมาชิกจะเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อทวงคำตอบ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล
