รถดับเพลิงคืบ มหาดไทยเตรียมนำเรื่องเสนอตั้งคณะกรรมการร่วม 6 ฝ่าย-ขอเงินค่างวด 60% เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีกรกฎาคม พร้อมจ้างสำนักงานกฎหมายคนึงฯ แก้ต่างคดีค่าระวางหน้าท่า “มาลินี” ยันเดินมาถูกทางแล้ว
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาข้อตกลงซื้อขายรถ เรือดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ว่า หลังจากที่กทม.ได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเสนอตั้งคณะกรรมการร่วม 6 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วย กทม.สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กรมบัญชีกลาง กระทรวงมหาดไทย รวมถึงค่างวดรถดับเพลิงที่รัฐบาลจะต้องจ่าย 60% ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ต้องจ่ายค่างวดเพียงฝ่ายเดียวทั้งที่รัฐบาลต้องอุดหนุนงบให้ กทม.60% โดยทราบว่าทางมหาดไทยเตรียมที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในเดือนกรกฏาคมนี้ ส่วนการของดเว้นภาษีตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 ซึ่งบัญญัติว่าเพื่อประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศหรือเพื่อความผาสุกของประชาชนหรือเพื่อความมั่นคงของประเทศนั้นขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างการจัดทำหนังสือและเตรียมที่จะส่งไปยังกระทรวงมหาดไทยเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่ขอนำเอารถดับเพลิงมาใช้ก่อนนั้นขณะนี้ยังไม่ได้เจรจากับทางสไตเออร์ เนื่องจากต้องรอให้ได้คณะการร่วมก่อน
พญ.มาลินี กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจ้างทนายเพื่อแก้ต่างข้อกล่าวหาของบริษัท นามยง เทอร์มินอล จำกัด เรื่องการจ่ายค่าระวางหน้าท่านั้น ขณะนี้เราได้เซ็นสัญญาว่าจ้างสำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด เข้ามาแก้ต่างในเรื่องนี้โดยเบื้องต้นทางทนายความได้ตรวจสอบและไม่เห็นด้วยที่เราจะต้องจ่ายค่าระวางหน้าท่า เพราะ กทม.ไม่ใช่คู่สัญญาซึ่งหากบ.นามยงฯจะฟ้องร้องควรไปฟ้องร้องบริษัทสไตเออร์ฯ เพราะเป็นเจ้าของสินค้า และ กทม.เองก็ยังไม่ได้เซ็นรับสินค้าแต่อย่างใดแต่เหตุที่เขาฟ้องร้องเพราะเขาอ้างว่า กทม.ได้เปิด L/C แล้ว
“ตอนนี้เราเดินถูกทางไม่มีปกปิด บอกตรงๆ ว่า ไม่กลัวที่จะมีการต่อสู้ในคดีนี้เพราะมั่นใจในการตรวจสอบที่ผ่านมาเพราะเราทำเหมือนเรากำลังทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ซึ่งหากมีการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ออกไปทุกคนคงต้องตกใจว่าทำได้ยังไง เพราะมันเป็นการฉ้อฉล” พญ.มาลินี กล่าว
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาข้อตกลงซื้อขายรถ เรือดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ว่า หลังจากที่กทม.ได้ส่งหนังสือไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเสนอตั้งคณะกรรมการร่วม 6 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วย กทม.สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กรมบัญชีกลาง กระทรวงมหาดไทย รวมถึงค่างวดรถดับเพลิงที่รัฐบาลจะต้องจ่าย 60% ซึ่งที่ผ่านมา กทม.ต้องจ่ายค่างวดเพียงฝ่ายเดียวทั้งที่รัฐบาลต้องอุดหนุนงบให้ กทม.60% โดยทราบว่าทางมหาดไทยเตรียมที่จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในเดือนกรกฏาคมนี้ ส่วนการของดเว้นภาษีตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 ซึ่งบัญญัติว่าเพื่อประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศหรือเพื่อความผาสุกของประชาชนหรือเพื่อความมั่นคงของประเทศนั้นขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างการจัดทำหนังสือและเตรียมที่จะส่งไปยังกระทรวงมหาดไทยเร็วๆ นี้ ส่วนกรณีที่ขอนำเอารถดับเพลิงมาใช้ก่อนนั้นขณะนี้ยังไม่ได้เจรจากับทางสไตเออร์ เนื่องจากต้องรอให้ได้คณะการร่วมก่อน
พญ.มาลินี กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจ้างทนายเพื่อแก้ต่างข้อกล่าวหาของบริษัท นามยง เทอร์มินอล จำกัด เรื่องการจ่ายค่าระวางหน้าท่านั้น ขณะนี้เราได้เซ็นสัญญาว่าจ้างสำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด เข้ามาแก้ต่างในเรื่องนี้โดยเบื้องต้นทางทนายความได้ตรวจสอบและไม่เห็นด้วยที่เราจะต้องจ่ายค่าระวางหน้าท่า เพราะ กทม.ไม่ใช่คู่สัญญาซึ่งหากบ.นามยงฯจะฟ้องร้องควรไปฟ้องร้องบริษัทสไตเออร์ฯ เพราะเป็นเจ้าของสินค้า และ กทม.เองก็ยังไม่ได้เซ็นรับสินค้าแต่อย่างใดแต่เหตุที่เขาฟ้องร้องเพราะเขาอ้างว่า กทม.ได้เปิด L/C แล้ว
“ตอนนี้เราเดินถูกทางไม่มีปกปิด บอกตรงๆ ว่า ไม่กลัวที่จะมีการต่อสู้ในคดีนี้เพราะมั่นใจในการตรวจสอบที่ผ่านมาเพราะเราทำเหมือนเรากำลังทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ซึ่งหากมีการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ออกไปทุกคนคงต้องตกใจว่าทำได้ยังไง เพราะมันเป็นการฉ้อฉล” พญ.มาลินี กล่าว
