“กล้านรงค์” ชี้หากอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาคดี “เรือ-รถดับเพลิง กทม.” บางราย จะถือว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย เหตุฝ่าฝืนมติคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่าย ระบุ ป.ป.ช.ไม่มีสิทธิยื่นฟ้องเอง หากผ่านขั้นตอนคณะกรรมการร่วมฯ ไปแล้ว
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่โรงแรมสยามซิตี นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีทีมอัยการมีความเห็นแตกต่างเกี่ยวกับการฟ้องผู้ถูกกล่าวหาในคดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของ กทม.และจะส่งให้อัยการสูงสุดชี้ขาด ว่า โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะขัดหลักของกฎหมาย เนื่องจากคดีนี้ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลและส่งเรื่องให้อัยการ ซึ่งขณะนั้นอัยการไม่เห็นด้วย จึงต้องตั้งคณะกรรมการร่วม 2 ฝ่าย ในจำนวนเท่ากัน และได้ข้อสรุปออกมาตามที่ ป.ป.ช.เสนอให้ส่งฟ้อง ดังนั้น อัยการต้องส่งฟ้องตามมตินี้ และไม่คิดว่าอัยการสูงสุดจะมีอำนาจตีกลับผู้ถูกกล่าวหาบางคนมาให้ ป.ป.ช.ส่งฟ้องเอง เพราะถือว่าเลยขั้นตอนไปหมดแล้ว
“ผมเห็นว่าอำนาจฟ้องไม่ได้อยู่ที่ ป.ป.ช.หากทำอย่างนั้นจะเกิดปัญหา เนื่องจากเราได้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันชัดเจน ซึ่งตามกฎหมายต้องพิจารณาภายใน 30 วัน แต่ถ้าเห็นว่า ไม่สมบูรณ์ต้องแจ้งกลับมาภายใน 14 วัน เมื่อคณะกรรมการร่วมพิจารณาครบถ้วนแล้ว ต้องส่งกลับไป หากอัยการสูงสุดมีอำนาจดับเบิ้ลเช็กอีกทีว่า ฟ้องหรือไม่ฟ้อง ผมคิดว่า ตรงนี้ขัดกับกระบวนการหรือเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการตกลงกันแล้ว ก็เป็นเรื่องที่อัยการสูงสุดต้องฟ้องคดี เพราะถือว่าสิ้นสุดกระบวนการที่ไม่สมบูรณ์ไปแล้วและกลายเป็นกระบวนการที่สมบูรณ์แล้ว” นายกล้านรงค์ กล่าว
กรรมการ ป.ป.ช.กล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือเป็นทางการแจ้งกลับมา ป.ป.ช. อัยการจะดำเนินการอย่างไร หากส่งมาตนจะให้ความเห็นเช่นนี้ แต่หากอัยการสูงสุดยังยืนยันจะใช้ดุลยพินิจ จะถือว่าเป็นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ยังไม่ขอลงลึกในรายละเอียด รวมทั้งไม่ขอแสดงความเห็นว่า เรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไรหรือไม่
