ป.ป.ช.ยกคำร้องกรณีประธานวุฒิฯ ส่งคำร้องของมูลนิธิคุ้มครองบริโภค ยื่นให้ ป.ป.ช.ถอดถอน “ไชยา สะสมทรัพย์” ครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.สธ.ใช้ตำแหน่งหน้าที่มิชอบ ให้สัมภาษณ์สื่อสั่งทบทวนสิทธิยาต้านมะเร็ง และมีคำสั่งย้ายเลขาธิการ อย.มิชอบ ระบุพฤติการณ์มิได้ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และข้อหาไม่มีมูลจึงสั่งยกคำร้อง
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาเรื่องผลการไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้องขอให้ถอดถอนนายไชยา สะสมทรัพย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ออกจากตำแหน่ง กรณีมีพฤติการณ์ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ โดยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนว่าจะทบทวนการใช้สิทธิโดยรัฐต่อยาต้านโรคมะเร็ง จำนวน 4 รายการ และใช้อำนาจในตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข สั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งย้าย น.พ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขโดยมิชอบ ตามที่ประธานวุฒิสภาได้มีหนังสือลงวันที่ 25 ก.ค.2551 ส่งคำร้องของ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง และคณะ รวม 16 คน ซึ่งได้รวบรวมรายชื่อประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน ยื่นคำร้องขอให้ถอดถอนนายไชยาออกจากตำแหน่ง
นายกล้านรงค์กล่าวว่า คณะกรรมการได้รับคำร้องไว้พิจารณาและตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง โดยมีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการไต่สวนแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำของนายไชยามิได้มีพฤติการณ์ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญตามคำร้องขอให้ถอดถอน ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป ตามมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และให้ส่งรายงานไปยังประธานวุฒิสภาตามมาตรา 54 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ต่อไป