xs
xsm
sm
md
lg

ก๊าซฯหยุดจ่ายซ้ำกฟผ.ปรับแผนผลิตรับมือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ก๊าซฯแหล่งบงกชหยุดจ่ายทำก๊าซหาย 400 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน”กฟผ.”ปรับแผนให้โรงไฟฟ้าบางปะกงเดินเครื่องด้วยน้ำมันเตาแทน พร้อมจับตาวันนี้(12ต.ค.)หากท่อยังซ่อมไม่เสร็จเตรียมโรงไฟฟ้าเดินเครื่องด้วยดีเซล

นายวิรัช กาญจนพิบูลย์  รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า  เมื่อเวลา 06.13 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2552  บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน)  ได้หยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งบงกช ในอ่าวไทย เพื่อซ่อมแซม โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในเวลา 18.00 น. ของวันดังกล่าว แต่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผน   อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวทำให้ก๊าซฯ ขาดหายไปจากระบบผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. จำนวน  400  ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่งผลให้ต้องปรับแผนการผลิตไฟฟ้าเพื่อรักษาระบบไฟฟ้าของประเทศ โดยไม่กระทบต่อการใช้ไฟฟ้าของประชาชน

ทั้งนี้กฟผ. ได้ปรับแผนการผลิตไฟฟ้า โดยปรับเปลี่ยนการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกงจากการใช้ก๊าซธรรมชาติไปใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง และได้ปรับแผนการบำรุงรักษา โดยชะลอการหยุดเดินเพื่อบำรุงรักษาเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โรงไฟฟ้าราชบุรี และโรงไฟฟ้าวังน้อยออกไปก่อน ซึ่งการปรับแผนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. อย่างเร่งด่วนนี้สามารถรองรับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนในวันที่ 10-11 ตุลาคม 2552 ซึ่งเป็นวันหยุด ประชาชนมีการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าวันปกติ นอกจากนี้ กฟผ. ยังไม่มีการระบายน้ำจากเขื่อนต่างๆ  ของ กฟผ. เพื่อช่วยเสริมการผลิตไฟฟ้าแต่อย่างใด

          สำหรับในวันนี้ (12 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันทำการปกติ มีปริมาณการใช้ไฟฟ้ามาก หากแหล่งบงกชยังไม่สามารถจ่ายก๊าซฯ ให้แก่โรงไฟฟ้าได้ตามปกติ กฟผ. จำเป็นต้อง ปรับแผนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยจะมีการปรับเปลี่ยนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม ที่ใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิงไปน้ำมันดีเซลแทน ซึ่งขณะนี้สั่งการให้เตรียมพร้อมแล้ว กฟผ. จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่า จะดูแลระบบไฟฟ้าให้จ่ายไฟฟ้าได้อย่างเป็นปกติ ไม่ให้ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน  

นายเพิ่มศักดิ์ ชีวาวัฒนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้แหล่งก๊าซฯบงกชได้หยุดซ่อมแซมเป็นการชั่วคราว ทำให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติลดลงจากปริมาณการจ่ายก๊าซฯ ตามปกติซึ่งจะได้มีการเร่งให้การซ่อมแซมเสร็จโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ปตท. , บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)หรือ/ปตท.สผ. และกฟผ.ได้ร่วมกันบริหารจัดการเชื้อเพลิงเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ต่อไป

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ปัจจุบันกำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 30,000 เมกะวัตต์ ซึ่งหากพิจารณาตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2007) ที่ระบุว่าจะต้องมีกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูงถึง 50,000  - 54,000 เมกะวัตต์ ในอีก 15 ปีข้างหน้านั้น  จึงเห็นได้ชัดว่าประเทศไทยมีความจำเป็นต้องมีกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น รวมทั้งต้องลดการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติให้น้อยลง เพื่อรักษาเสถียรภาพ และลดความเสี่ยงด้านพลังงานของประเทศ โดย กกพ.มีความเห็นว่า จะต้องเพิ่มทางเลือกในการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะจากพลังงานนิวเคลียร์

“ แนวทางการพัฒนาพลังงานในอนาคต คงไม่ใช่เพียงแค่พลังงานนิวเคลียร์อย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม “ นายดิเรกกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น