xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.รื้อลงทุน 5 ปีพิษมาบตาพุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปตท.วางแผนรับมือผลกระทบหากถูกระงับ76 โครงการที่มาบตาพุด  ยอมรับมีผลต่อแผนการทุน 5 ปีแน่นอน พร้องกล่อมแบงก์ ผู้รับเหมา และผู้ถือหุ้นให้เข้าใจถึงสถานการณ์ต่างๆ เผยสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุปจะยื่นขอทุเลาคำสั่งศาลฯเองหรือร่วมกับเอกชนรายอื่น ด้านปธ.หอการค้าญี่ปุ่นหวั่นกระทบอุตฯวงกว้าง

  นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์และพัฒนาองค์กร  บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า  หากการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองฯไม่เป็นผล ทำให้มีการระงับโครงการหรือกิจกรรมในพื้นที่มาบตาพุดทั้ง 76 โครงการ จะส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน 5ปี (2552-2556)  เฉพาะปตท.ใช้เงินลงทุน 2.3 แสนล้านบาท  ต้องหยุดชะงักลง

เนื่องจากการระงับ  76 โครงการเป็นโครงการของปตท.และเครือฯ  25รายการ คิดเป็นมูลค่า 1.2 แสนล้านบาททำให้ปตท.ต้องทบทวนการลงทุนโครงการต่างๆ ว่าหากโครงการถูกระงับจะเกิดผลกระทบอย่างไร เพื่อวางแผนรับมือ เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่เกินครึ่งหนึ่งดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว และมี2-3 โครงการที่ดำเนินการใกล้เสร็จ ส่วนโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการออกแบบและยังไม่ได้ก่อสร้างก็ต้องมาทบทวนใหม่ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ขณะเดียวกันก็หารือกับผู้ถือหุ้น บริษัทรับเหมาก่อสร้าง สถาบันการเงินและพนักงานเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์และเจตนารมย์ของปตท.  ซึ่งสถาบันการเงินผู้ปล่อยสินเชื่อเองก็มีความวิตกในเรื่องนี้ แต่เข้าใจดี และเชื่อว่าทุกอย่างจะหาทางออกได้
 
นายเทวินทร์ กล่าวต่อไปว่า ในสัปดาห์หน้าบริษัทจะได้ข้อสรุปในการหารือร่วมกับผู้ประกอบการในมาบตาพุดเกี่ยวกับแนวทางการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางเพื่อขอทุเลาคำสั่งระงับโครงการลงทุนทั้ง 76 โครงการว่าจะเป็นการแยกยื่นอุทธรณ์โดยบริษัทเอง หรือยื่นร่วมกับบริษัทอื่น ๆ

ขณะนี้การก่อสร้างโครงการต่าง ๆ ของปตท.ยังดำเนินการไปตามปกติ เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในปีนี้ ทั้งนี้ โครงการของปตท.ที่ได้รับอีไอเอ ได้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยได้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนระดับหนึ่ง เปิดให้ถึงผู้นำอิสระร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย เพียงแต่ไม่มีการจัดตั้งองค์กรอิสระ

ส่วนข้อเสนอของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่ให้ตั้งกองทุนช่วยเหลือ76 โครงการหากถูกระงับตามคำสั่งศาลฯวงเงิน 1 แสนล้านบาท มองว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการเอกชนที่ได้รับผลกระทบ เพียงแต่รัฐจะจัดสรรเงินก้อนนี้จากไหน แต่ทั้งนี้ไม่อยากให้นำเรื่องดังกล่าวไปกดดันกระบวนการยุติธรรม

นายไพรินทร์  ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังลงนามสัญญาโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมกับจีอี เอ็นนอร์ยี่ และเจนเนอรัล คาร์บอน ว่า ขณะนี้บริษัทฯเตรียมลงทุนโครงการผลิตพลังไอน้ำ และไฟฟ้าร่วม ขนาด220 เมกะวัตต์ มูลค่าการลงทุน  200 ล้านดออลาร์สหรัฐ  ที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี ต. เชิงเนิน จ.ระยอง คาดว่าจะดำเนินการผลิตได้ต้นปี 2554 ซึ่งโครงการนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 4แสนตัน/ปี  ทำให้มีคุณสมบัติที่จะขายคาร์บอนเครดิตได้

ทั้งนี้ ไออาร์พีซีไม่ได้รับผลกระทบจากการสั่งระงับโครงการ 76 โครงการ แต่เนื่องจากบริษัทฯอยู่ในกลุ่ม ปตท. หาก ปตท.ปรับแผน เพราะได้รับผลกระทบก็ต้องมาพิจารณาถึงผลต่อแผนงานของไออาร์พีซีด้วย เช่น โครงการผลิตน้ำมันมาตรฐานยุโรประดับที่ 4 หรือ ยูโร 4 แต่เบื้องต้นเชื่อว่าทุกฝ่ายจะมีทางออกที่ดีในการแก้ปัญหา

ด้านนายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บีฟิท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ได้รับผลกระทบจากกรณีมาบตาพุด ทำให้หลายโครงการมีการดำเนินการล่าช้ากระทบกับการเติบโตรายได้และกำไรในอนาคต ขณะที่การประมาณการความเสียหายจากของกลุ่ม ปตท.ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีมาบตาพุด นักวิเคราะห์แต่ละค่าย ต่างประเมินผลกระทบที่แตกต่างกัน แล้วแต่จะใช้วิธีประเมินอย่างไร

นักวิเคราะห์บางแห่งมองว่า หากโครงการล่าช้าไป 1 ปี อาจจะทำให้รายได้และกำไรลดลง แต่หากจบเร็วกว่าที่คาด ก็จะทำให้ผลกระทบต่อรายได้และกำไร ลดลง ขณะที่บางแห่งคำนึงถึงมูลค่าทางสังคม ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้น อาจประเมินค่าไม่ได้ อาทิ ความเสียหายจากมลพิษที่จะบานปลายไปในอนาคต เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ในระยะ 5 ปี หรือการแลกกับอุตสาหกรรมขยะที่ประเทศพัฒนาแล้ว พยายามผลักดันไปยังประเทศด้อยพัฒนา

ปธ.หอการค้าญี่ปุ่นหวั่นกระทบอุตฯวงกว้าง

นายโย จิซึคาตะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (เจซีซี) กรณีศาลปกครองกลางสั่งระงับการลงทุนในมาบตาพุดเป็นการชั่วคราว ทำให้สมาชิกของเจซีซีส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบถูกระงับโครงการใหม่ด้วย และทำให้วิตกว่าคำสั่งดังกล่าวจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างถึงบริษัทอื่น ๆ ที่ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอาจต้องปิดกิจการบางส่วน เพราะขาดแคลนวัตถุดิบที่จะได้จากโครงการที่ถูกระงับการลงทุน

" หากปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เกรงว่าจะกระทบการลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น และจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศไทย ทั้งนี้ เจซีซี หวังว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการที่ถูกระงับต่อไปได้"
กำลังโหลดความคิดเห็น