กาญจนบุรี – ระทึกกลางดึก น้ำจากเขื่อนศรีไหล สูงขึ้น 3 เมตร ทะลักเข้าท่วมรีสอร์ท แพล่องแพเธค เรือล่ม เสียหายเป็นจำนวนมาก ประชาชนแตกตื่น คิดว่า เขื่อนแตกหนีตายกันให้วุ่น ผวจ.สั่งเขื่อนท่าทุ่งนาสกัดน้ำก่อนไหลท่วมทั้งเมืองกาญจน์ พร้อมยืนยันเขื่อนกาญจน์แข็งแรงมั่นคงล้านเปอร์เซ็นต์ ขณะที่ ผอ.เขื่อนศรีนครินทร์ แจงวุ่นเกี่ยวกับสาเหตุที่เขื่อนต้องปล่อยน้ำจากสันเขื่อนจำนวนมากกะทันหัน
จากการที่เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ได้เปิดบานระบายน้ำเต็มพิกัดเพื่อช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้พลังก๊าซที่มีก๊าซไม่พอเพียงในการผลิต เพราะก๊าซจากพม่ามีปัญหาไม่สามารถส่งมายังประเทศไทยได้
ต่อมาเมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (16 ส.ค.) ผลกระทบที่เกิดจากการปล่อยระบายน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ในแม่น้ำแควใหญ่ทำให้เกิดระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้น เกือบ 3 เมตร และมีกระแสเชี่ยวกรากมาก เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งทั้งสองฝั่ง รวมถึงรีสอร์ตแพพัก และแพล่องได้รับความเสียหายจากระดับน้ำเข้าท่วมจำนวนมาก
ต่อมา นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์แก้ไขปัญหาว่า ตนพร้อมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีและเจ้าหน้าที่เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนท่าทุ่งนา ได้เดินทางร่วมประชุมหารือเพื่อแก้ปัญหาโดยด่วนที่สำนักงานเขื่อนท่าทุ่งนา ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยได้ข้อสรุปให้ทางเขื่อนศรีนครินทร์ลดกำลังในการปล่อยน้ำจากปล่อย 5 บานระบายเป็นเหลือแค่ 3 บานระบาย และให้เขื่อนท่าทุ่งนาปิดประตูระบายนำเพื่อเป็นการลดผลกระทบจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาการเดือดร้อนและกำลังประสานงานกับเขื่อนแม่กลองให้เร่งระบายน้ำออกเพิ่มมากขึ้น
ด้าน นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยเกี่ยวกับการที่เขื่อนศรีนครินทร์ได้ปล่อยน้ำจากสันเขื่อนจำนวนมากโดยกะทันหัน ว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2552 แหล่งผลิต GAS บงกชในอ่าวไทย มีปัญหา ลดการผลิต GAS ลง 650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยคาดว่าจะแก้ไข และจ่าย GAS ได้ดังเดิมในวันที่ 19 ส.ค.2552
ต่อมาวันที่ 15 ส.ค.2552 แหล่งผลิต GAS ยาดานา ในสหภาพพม่า มีปัญหาเช่นกัน ทำให้ GAS หายไปอีก 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุต รวมทั้ง 2 แหล่งหายไป 1,700 ล้านลูกบาศก์ฟุต หรือคิดเป็นกำลังผลิตรวม 10,000 MW ซึ่งเกินความสามารถของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนและพลังความร้อนร่วมที่ขนานอยู่ในระบบ เพื่อไม่ให้ไฟฟ้าดับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำหลายแห่งเดินเครื่องช่วยระบบ เขื่อนศรีนครินทร์จึงต้องเดินเครื่องทั้ง 5 เครื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.2552 จนถึงวันที่ 19 ส.ค.2552
ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยต่อว่า ดังนั้น ในช่วงดังกล่าว ขอให้ประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำ ทั้งเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนท่าทุ่งนา ตลอดจนถึงตัวจังหวัดกาญจนบุรี ให้ระมัดระวังภาวะน้ำมากในช่วงนี้ คือ ท้ายน้ำที่ จ.กาญจนบุรี จะสูงขึ้นกว่าเดิม 2.70 เมตร แต่ไม่ล้นตลิ่ง แต่จากการหารือแก้ปัญหากับนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อคืนนี้จึงได้ข้อสรุปให้เขื่อนศรีนครินทร์ลดการระบายน้ำจากเดิมปล่อยเต็มที่ 5 บานประตูเหลือแค่ 3 บานประตูเท่านั้น
ทางด้าน นายนพพร ถาวรประดิษฐ์ นายกสมาคมชาวแพชาวเรือจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ปล่อยน้ำของเขื่อนใหญ่ในพื้นที่กาญจนบุรี ว่า จากการที่เขื่อนทั้งเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณได้ปล่อยน้ำออกมาจำนวนมากทำให้ระดับน้ำและกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากมากขึ้นและเมื่อคืนนี้ช่วงเวลา 01.00 น.เป็นต้นไป ระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 3 เมตร ทำให้เกิดความสัยหายกับผูเประกอบการเรือแพและรีสอร์ทโรงแรมต่างจำนวนมาก อย่างแพ ต่างทั้งแพล่องและแพอาหารแพถูกความแรงของน้ำพัดหลุดลอยไปหลายสิบหลังส่วนที่รีสอร์ตที่โรงแรมรอยัลริเวอร์แควแอนสปาที่บ้านลาดทอง ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ระดับน้ำเข้าท่วมพื้นที่อาคารและห้องพักชายตลิ่ง และที่โรงแรมคำแสด ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี น้ำไหลเข้าท่วมห้องพักที่ตั้งอยู่ชายฝั่งระดับน้ำสูงกว่าครึ่งตัวรีสอร์ตทำความเสียหายมาก
ซึ่งจะส่งผลระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่, แม่น้ำแควน้อย และแม่น้ำแม่กลอง สูงขึ้นมากพอสมควร ดังนั้น เพื่อเป็นการบูรณาการปฏิบัติเพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการชาวเรือชาวแพและประชาชนที่อยู่อาศัยตามแนวชายฝั่งในเขตพื้นที่ราบลุ่มจึงอยากให้ทางจังหวัดกาญจนบุรีประสานงานกับทางเขื่อนแม่กลองที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำแม่กลองให้ปล่อยน้ำออกจากเขื่อนให้ปริมาณมากขึ้นเช่นกันเพื่อลดปริมาณน้ำป้องกันมิให้ระดับน้ำสูงขึ้นมากเกินกว่าปกติมากนัก จะได้ไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้านและผู้ประกอบการ
มีรายงานข่าวว่า ประชาชนชาวกาญจนบุรีต่างลือสะพัดว่า เขื่อนแตก ทำให้เริ่มเกิดปัญหาโกลาหล จนทำให้ทางจังหวัดกาญจนบุรีต้องออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นในพื้นที่
ผู้ว่าฯกาญจน์แถลงยันเขื่อนแข็งแรง
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และ เขื่อนวชิราลงกรณ์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ปล่อยน้ำผลิตกระแสไฟฟ้าเต็มพิกัดเพื่อช่วยแก้ไขสถานการณ์โรงไฟฟ้าพลังแก๊สที่ขาดแก๊สเพราะแหล่งแก๊สจากหลุมบงกช และยานาดา ประเทศพม่า มีปัญหา ซึ่งผลกระทบจากเพิ่มกำลังระบายน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำแควใหญ่เกิดผลบกระทบกับชาวบ้าน และโรงแรมรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมเสียหายมากพอสมควร และนำไปสู่ความตื่นตระหนกวิพากษ์วิจารณ์จนเป็นข่าวลือกังวลความปลอดภัยของเขื่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเมื่อเวลา 09.30 น.ของวันเดียวกัน นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อม นายไชโย ฤทธิ์รงค์ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี, นายสิทธิชัย เผ่าพันธุ์ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี, นายพิพัฒน์ สังขะฤกษ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี, นายประยูร เย็นใจ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ สำนักชลประทานที่ 13 เขื่อนแม่กลอง ได้ร่วมแถลงข่าวที่ห้องประชุมสำนักชลประทานที่ 13 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
โดย นายเริงศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการที่เขื่อนศรีนครินทร์ได้เปิดระบายน้ำเพิ่มจากเดิมเปิด 2 บานมาเป็นเปิดทั้งหมด 5 บานระบาย เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าช่วยเหลือระบบไฟฟ้าทั่วประเทศที่เกิดปัญหาจากการแก๊สจากแหล่งบงกชและยานาดา มีปัญหาทางเทคนิคไม่สามารถส่งก๊าซเจข้าระบบอย่างพอเพียง
ดังนั้น กฟผ.จึงสั่งการให้ทางเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์เปิดบานระบายน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเต็มอัตราการผลิต โดยเขื่อนศรีนครินทร์ได้ปล่อยน้ำออกสู่แม่น้ำแควใหญ่ตั้งแต่เมื่อเวลา 09.00 น.ของวานนี้ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่สูงขึ้นตามลำดับ จนล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 21.00 น.จนถึงวันนี้เวลา 02.00 น.ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องจึงเดินทางไปร่วมหารือประชุมเพื่อแก้ปัญหากับเจ้าหน้าที่เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนท่าทุ่งนาที่บริเวณสำนักงานเขื่อนท่าทุ่งนา ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จนได้ข้อสรุปว่า ให้เขื่อนศรีนครินทร์ลดการระบายน้ำเหลือแค่ 3 บานระบาย และให้เขื่อนท่าทุ่งนาปิดประตูระบายน้ำทุกบานเพื่อช่วยลดผลกระทบจากน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควใหญ่
จากนั้นเป็นผลให้ระดับน้ำเริ่มลดลงตามลำดับคาดว่าเย็นนี้จะเข้าสู่ภาวะปกติและอีกทางหนึ่งทางเขื่อนแม่กลองที่สำนักชลประทานที่ 13 รับผิดชอบได้ช่วยระบายนำเพิ่มโดยปล่อยออกจำนวน 800 ลบ.เมตรต่อวินาที เพื่อช่วยลดระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำแควใหญ่
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ยืนยันด้วยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องฉุกเฉินที่ชาวกาญจนบุรีเสียสละ เพื่อประเทศชาติและสถานการณ์ถือว่าเข้าภาวะปกติแล้ว ตนจึงขอยืนยันว่าเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์รวมถึงเขื่อนท่าทุ่งนาและเขื่อนแม่กลองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กาญจนบุรีแข็งแรงมั่งคงปลอดภัยล้านเปอร์เซ็นต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการสำรวจความเสียหายที่เกิดจากน้ำในแม่น้ำแควใหญ่ที่เขื่อนศรีนครินทร์ปล่อยนำเพิ่มทำให้เพิ่มระดับน้ำสูงขึ้นจากปกติ 2-3 เมตร ทำให้เกิดความเสียหายในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี คือ พื้นที่ ต.ลาดหญ้า โรงแรมคำแสดงถูกน้ำเข้าท่วมในห้องพักริมตลิ่งสูงประมาณ 1.50 เมตร พื้นที่บ้านลาดทอง ต.หนองบัว โรงแรมรอยัล รอเวอร์แคว รีสอร์ท แอนด์ สปา น้ำเอ่อเข้าท่วมอาคารห้องพักริมตลิ่งเสียหายพอสมควร, พื้นที่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี น้ำเอ่อไหลเข้าท่วมสถานที่ก่อสร้างฐานรูปปั้นกวนอิม ของ มูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรม
จากการที่เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ได้เปิดบานระบายน้ำเต็มพิกัดเพื่อช่วยผลิตกระแสไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้พลังก๊าซที่มีก๊าซไม่พอเพียงในการผลิต เพราะก๊าซจากพม่ามีปัญหาไม่สามารถส่งมายังประเทศไทยได้
ต่อมาเมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (16 ส.ค.) ผลกระทบที่เกิดจากการปล่อยระบายน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ในแม่น้ำแควใหญ่ทำให้เกิดระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้น เกือบ 3 เมตร และมีกระแสเชี่ยวกรากมาก เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งทั้งสองฝั่ง รวมถึงรีสอร์ตแพพัก และแพล่องได้รับความเสียหายจากระดับน้ำเข้าท่วมจำนวนมาก
ต่อมา นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์แก้ไขปัญหาว่า ตนพร้อมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีและเจ้าหน้าที่เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนท่าทุ่งนา ได้เดินทางร่วมประชุมหารือเพื่อแก้ปัญหาโดยด่วนที่สำนักงานเขื่อนท่าทุ่งนา ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยได้ข้อสรุปให้ทางเขื่อนศรีนครินทร์ลดกำลังในการปล่อยน้ำจากปล่อย 5 บานระบายเป็นเหลือแค่ 3 บานระบาย และให้เขื่อนท่าทุ่งนาปิดประตูระบายนำเพื่อเป็นการลดผลกระทบจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาการเดือดร้อนและกำลังประสานงานกับเขื่อนแม่กลองให้เร่งระบายน้ำออกเพิ่มมากขึ้น
ด้าน นายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยเกี่ยวกับการที่เขื่อนศรีนครินทร์ได้ปล่อยน้ำจากสันเขื่อนจำนวนมากโดยกะทันหัน ว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2552 แหล่งผลิต GAS บงกชในอ่าวไทย มีปัญหา ลดการผลิต GAS ลง 650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยคาดว่าจะแก้ไข และจ่าย GAS ได้ดังเดิมในวันที่ 19 ส.ค.2552
ต่อมาวันที่ 15 ส.ค.2552 แหล่งผลิต GAS ยาดานา ในสหภาพพม่า มีปัญหาเช่นกัน ทำให้ GAS หายไปอีก 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุต รวมทั้ง 2 แหล่งหายไป 1,700 ล้านลูกบาศก์ฟุต หรือคิดเป็นกำลังผลิตรวม 10,000 MW ซึ่งเกินความสามารถของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนและพลังความร้อนร่วมที่ขนานอยู่ในระบบ เพื่อไม่ให้ไฟฟ้าดับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำหลายแห่งเดินเครื่องช่วยระบบ เขื่อนศรีนครินทร์จึงต้องเดินเครื่องทั้ง 5 เครื่อง ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.2552 จนถึงวันที่ 19 ส.ค.2552
ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ เปิดเผยต่อว่า ดังนั้น ในช่วงดังกล่าว ขอให้ประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำ ทั้งเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนท่าทุ่งนา ตลอดจนถึงตัวจังหวัดกาญจนบุรี ให้ระมัดระวังภาวะน้ำมากในช่วงนี้ คือ ท้ายน้ำที่ จ.กาญจนบุรี จะสูงขึ้นกว่าเดิม 2.70 เมตร แต่ไม่ล้นตลิ่ง แต่จากการหารือแก้ปัญหากับนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อคืนนี้จึงได้ข้อสรุปให้เขื่อนศรีนครินทร์ลดการระบายน้ำจากเดิมปล่อยเต็มที่ 5 บานประตูเหลือแค่ 3 บานประตูเท่านั้น
ทางด้าน นายนพพร ถาวรประดิษฐ์ นายกสมาคมชาวแพชาวเรือจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ปล่อยน้ำของเขื่อนใหญ่ในพื้นที่กาญจนบุรี ว่า จากการที่เขื่อนทั้งเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณได้ปล่อยน้ำออกมาจำนวนมากทำให้ระดับน้ำและกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากมากขึ้นและเมื่อคืนนี้ช่วงเวลา 01.00 น.เป็นต้นไป ระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 3 เมตร ทำให้เกิดความสัยหายกับผูเประกอบการเรือแพและรีสอร์ทโรงแรมต่างจำนวนมาก อย่างแพ ต่างทั้งแพล่องและแพอาหารแพถูกความแรงของน้ำพัดหลุดลอยไปหลายสิบหลังส่วนที่รีสอร์ตที่โรงแรมรอยัลริเวอร์แควแอนสปาที่บ้านลาดทอง ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ระดับน้ำเข้าท่วมพื้นที่อาคารและห้องพักชายตลิ่ง และที่โรงแรมคำแสด ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี น้ำไหลเข้าท่วมห้องพักที่ตั้งอยู่ชายฝั่งระดับน้ำสูงกว่าครึ่งตัวรีสอร์ตทำความเสียหายมาก
ซึ่งจะส่งผลระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่, แม่น้ำแควน้อย และแม่น้ำแม่กลอง สูงขึ้นมากพอสมควร ดังนั้น เพื่อเป็นการบูรณาการปฏิบัติเพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการชาวเรือชาวแพและประชาชนที่อยู่อาศัยตามแนวชายฝั่งในเขตพื้นที่ราบลุ่มจึงอยากให้ทางจังหวัดกาญจนบุรีประสานงานกับทางเขื่อนแม่กลองที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำแม่กลองให้ปล่อยน้ำออกจากเขื่อนให้ปริมาณมากขึ้นเช่นกันเพื่อลดปริมาณน้ำป้องกันมิให้ระดับน้ำสูงขึ้นมากเกินกว่าปกติมากนัก จะได้ไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้านและผู้ประกอบการ
มีรายงานข่าวว่า ประชาชนชาวกาญจนบุรีต่างลือสะพัดว่า เขื่อนแตก ทำให้เริ่มเกิดปัญหาโกลาหล จนทำให้ทางจังหวัดกาญจนบุรีต้องออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นในพื้นที่
ผู้ว่าฯกาญจน์แถลงยันเขื่อนแข็งแรง
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) เขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และ เขื่อนวชิราลงกรณ์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ปล่อยน้ำผลิตกระแสไฟฟ้าเต็มพิกัดเพื่อช่วยแก้ไขสถานการณ์โรงไฟฟ้าพลังแก๊สที่ขาดแก๊สเพราะแหล่งแก๊สจากหลุมบงกช และยานาดา ประเทศพม่า มีปัญหา ซึ่งผลกระทบจากเพิ่มกำลังระบายน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ที่ปล่อยลงสู่แม่น้ำแควใหญ่เกิดผลบกระทบกับชาวบ้าน และโรงแรมรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ราบลุ่มชายฝั่งน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมเสียหายมากพอสมควร และนำไปสู่ความตื่นตระหนกวิพากษ์วิจารณ์จนเป็นข่าวลือกังวลความปลอดภัยของเขื่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเมื่อเวลา 09.30 น.ของวันเดียวกัน นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อม นายไชโย ฤทธิ์รงค์ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี, นายสิทธิชัย เผ่าพันธุ์ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี, นายพิพัฒน์ สังขะฤกษ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี, นายประยูร เย็นใจ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ สำนักชลประทานที่ 13 เขื่อนแม่กลอง ได้ร่วมแถลงข่าวที่ห้องประชุมสำนักชลประทานที่ 13 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
โดย นายเริงศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการที่เขื่อนศรีนครินทร์ได้เปิดระบายน้ำเพิ่มจากเดิมเปิด 2 บานมาเป็นเปิดทั้งหมด 5 บานระบาย เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าช่วยเหลือระบบไฟฟ้าทั่วประเทศที่เกิดปัญหาจากการแก๊สจากแหล่งบงกชและยานาดา มีปัญหาทางเทคนิคไม่สามารถส่งก๊าซเจข้าระบบอย่างพอเพียง
ดังนั้น กฟผ.จึงสั่งการให้ทางเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์เปิดบานระบายน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเต็มอัตราการผลิต โดยเขื่อนศรีนครินทร์ได้ปล่อยน้ำออกสู่แม่น้ำแควใหญ่ตั้งแต่เมื่อเวลา 09.00 น.ของวานนี้ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควใหญ่สูงขึ้นตามลำดับ จนล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 21.00 น.จนถึงวันนี้เวลา 02.00 น.ตนพร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องจึงเดินทางไปร่วมหารือประชุมเพื่อแก้ปัญหากับเจ้าหน้าที่เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนท่าทุ่งนาที่บริเวณสำนักงานเขื่อนท่าทุ่งนา ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จนได้ข้อสรุปว่า ให้เขื่อนศรีนครินทร์ลดการระบายน้ำเหลือแค่ 3 บานระบาย และให้เขื่อนท่าทุ่งนาปิดประตูระบายน้ำทุกบานเพื่อช่วยลดผลกระทบจากน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควใหญ่
จากนั้นเป็นผลให้ระดับน้ำเริ่มลดลงตามลำดับคาดว่าเย็นนี้จะเข้าสู่ภาวะปกติและอีกทางหนึ่งทางเขื่อนแม่กลองที่สำนักชลประทานที่ 13 รับผิดชอบได้ช่วยระบายนำเพิ่มโดยปล่อยออกจำนวน 800 ลบ.เมตรต่อวินาที เพื่อช่วยลดระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำแควใหญ่
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ยืนยันด้วยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องฉุกเฉินที่ชาวกาญจนบุรีเสียสละ เพื่อประเทศชาติและสถานการณ์ถือว่าเข้าภาวะปกติแล้ว ตนจึงขอยืนยันว่าเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์รวมถึงเขื่อนท่าทุ่งนาและเขื่อนแม่กลองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กาญจนบุรีแข็งแรงมั่งคงปลอดภัยล้านเปอร์เซ็นต์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการสำรวจความเสียหายที่เกิดจากน้ำในแม่น้ำแควใหญ่ที่เขื่อนศรีนครินทร์ปล่อยนำเพิ่มทำให้เพิ่มระดับน้ำสูงขึ้นจากปกติ 2-3 เมตร ทำให้เกิดความเสียหายในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี คือ พื้นที่ ต.ลาดหญ้า โรงแรมคำแสดงถูกน้ำเข้าท่วมในห้องพักริมตลิ่งสูงประมาณ 1.50 เมตร พื้นที่บ้านลาดทอง ต.หนองบัว โรงแรมรอยัล รอเวอร์แคว รีสอร์ท แอนด์ สปา น้ำเอ่อเข้าท่วมอาคารห้องพักริมตลิ่งเสียหายพอสมควร, พื้นที่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี น้ำเอ่อไหลเข้าท่วมสถานที่ก่อสร้างฐานรูปปั้นกวนอิม ของ มูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรม