มีรายงานข่าวซึ่งดูน่าเชื่อถือทีเดียวว่า พวกชาติอาหรับที่เป็นผู้ผลิตน้ำมัน และประเทศผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกบางรายเป็นต้นว่าจีนและญี่ปุ่น กำลังวางแผนการในระยะยาวเพื่อที่จะยุติการกำหนดราคาซื้อขายน้ำมันของพวกเขาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าหากข่าวนี้เป็นความจริงแล้ว มันก็จะเสมือนเป็นเสียงระฆังมรณะสำหรับเงินดอลลาร์อเมริกันในการดำรงฐานะเป็นสกุลเงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรองของทั่วโลก และก็เป็นลางร้ายสำหรับสำหรับสหรัฐฯในการการดำรงฐานะความเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจระดับโลก
ตั้งแต่ที่วอชิงตันฉีกทิ้งสนธิสัญญาเบรตตัน วูดส์ ในเดือนสิงหาคม 1971 และเดินหน้าเข้าสู่ “ระบบทุนสำรองเงินดอลลาร์ที่เป็นกระดาษ” ไม่ใช่เงินดอลลาร์ที่หนุนหลังด้วยทองคำอีกต่อไป สหรัฐฯในฐานะที่เป็นมหาอำนาจทางทหารผู้ทรงพลานุภาพที่สุดของโลก ก็ยังคงสามารถบงการให้โลกปฏิบัติตามเงื่อนไขทางการเงินของตน ชาติต่างๆ เป็นต้นว่าญี่ปุ่น และต่อมาก็คือจีน ต่างต้องพึ่งพาอาศัยสหรัฐฯเป็นตลาดส่งออก และก็จะต้องมีหน้าที่นำเอาเงินดอลลาร์ส่วนเกินซึ่งได้มาเพราะการได้เปรียบดุลการค้าของพวกตน ไปลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งก็เท่ากับกำลังให้การสนับสนุนทางการเงินแก่สงครามต่างๆ เป็นต้นว่า อิรัก และอัฟกานิสถาน ที่พวกเขาคัดค้าน ทั้งนี้พวกเขามองไม่เห็นว่าจะมีทางเลือกอย่างอื่นๆ
ทางด้านพวกประเทศอาหรับที่เป็นผู้ผลิตน้ำมัน เมื่อตกอยู่ใต้แรงบีบคั้นทางการทหารของสหรัฐฯ ก็ต้องยอมขายน้ำมันโดยคิดราคากันเป็นสกุลดอลลาร์อเมริกันเท่านั้น
ตามรายงานข่าวที่รั่วไหลจากบรรดารัฐอาหรับย่านอ่าวเปอร์เซียที่เป็นผู้ผลิตน้ำมัน ระบุว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้มีการหารืออย่างลับๆ ต่อเนื่องกันหลายครั้ง ระหว่างเหล่าประเทศอาหรับที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เป็นต้นว่าซาอุดีอาระเบีย (รวมทั้งมีรายงานว่ารัสเซียก็ได้เข้าร่วมด้วย) และพวกประเทศผู้บริโภคน้ำมันชั้นนำ อาทิ จีน, ญี่ปุ่น (ข่าวบอกว่าบราซิลก็เข้ามาหารือในฐานะที่เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคน้ำมัน)
โครงการที่พวกเขาพิจารณากันก็คือ การแอบๆ ตระเตรียมพื้นฐานเพื่อยุติ “กฎเหล็ก” ที่จะต้องขายน้ำมันกันเป็นสกุลเงินดอลลาร์อเมริกันเท่านั้น อันเป็นสิ่งที่ทำกันตลอด 65 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังที่ราคาน้ำมันช็อกโลกด้วยการทะยานลิ่วไปถึง 400% ในปี 1973 ตอนนั้นสื่อมวลชนสหรัฐฯต่างประณามกล่าวโทษว่า “พวกชีคอาหรับผู้ละโมบ” คือตัวการที่ทำให้เกิดสภาพการณ์เช่นนั้นขึ้น และกระทรวงการคลังสหรัฐฯก็ได้เดินทางลับๆ ไปยังกรุงริยาด เพื่อแจ้งกับทางซาอุดีอาระเบียด้วยคำพูดที่โจ่งแจ้งขวานผ่าซากว่า ถ้าหากพวกเขายังต้องการกำลังทหารสหรัฐฯคอยช่วยเหลือคุ้มครองในเวลาที่อาจจะถูกอิสราเอลโจมตีแล้ว องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็จะต้องตกลงเห็นพ้องกันเป็นการภายในว่า จะต้องไม่ขายน้ำมันในสกุลเงินตราอื่นๆ นอกเหนือจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ [รายละเอียดอ่านได้จากหนังสือของผู้เขียน เรื่อง Mit der Olwaffe zur Weltmacht ( สำนักพิมพ์ Kopp Verlag).] ระบบ “ดอลลาร์จากน้ำมัน” (Petrodollar) ดังกล่าวนี้เอง ทำให้สหรัฐฯสามารถที่จะปล่อยให้ตนเองขาดดุลการค้าอย่างมหาศาล แต่เงินดอลลาร์ก็ยังคงเป็นสกุลเงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรองของโลก และนี่ก็เป็นหัวใจของความสามารถของสหรัฐฯในการเข้าครอบงำและควบคุมตลาดการเงินโลก ทั้งนี้จวบจนกระทั่งมาถึงวิกฤตการเงินในปัจจุบัน
ตามรายงานข่าวระบุว่า บรรดาประเทศที่ปรึกษาหารือกัน กำลังเล็งที่จะใช้ตะกร้าเงินตราหลายๆ สกุล เป็นต้นว่า เงินเยน, เงินหยวน, และยูโร ที่สามารถสะท้อนความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างผู้ผลิต-ผู้บริโภคได้ดี โดยที่จะหนุนหลังด้วยทองคำเพื่อให้เป็นเสมือนแกนกระดูกสันหลังอันมั่นคง
รายงานข่าวเกี่ยวกับแผนการลับๆ นี้ปรากฏเปิดเผยออกมาเป็นครั้งแรก โดย รอเบิร์ต ฟิสก์ ผู้สื่อข่าวประจำตะวันออกกลางซึ่งได้รับการยกย่องนับถือ ของหนังสือพิมพ์ ดิ อินดีเพนเดนต์ ของอังกฤษ ทั้งนี้ฟิสก์อ้างว่าได้รับการยืนยันเรื่องแผนการดังกล่าวนี้ทั้งจากแหล่งข่าวที่เป็นชาวอาหรับหลายรายและแหล่งข่าวชาวจีนในฮ่องกง ตัวผมเอง (ผู้เขียน เอฟ วิลเลียม เองดาห์ล) ก็ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวหลายรายในแถบอ่าวเปอร์เซียซึ่งเป็นบุคคลระดับที่อาวุโสมากและทราบเรื่องเป็นอย่างดี ว่ามีการพูดจาหารือเรื่องนี้กันจริงๆ
ภายหลังรายงานข่าวแผนการลับๆ นี้รั่วไหลออกมาสู่สาธารณชน รัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องหลายๆ รายแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยการปฏิเสธเรื่องนี้อย่างกราดเกรี้ยว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้มีการความเคลื่อนไหวตระเตรียมการในเรื่องนี้จริงๆ พวกเขาต่างตระหนักเป็นอันดีว่าสหรัฐฯที่อยู่ในสภาพของเสือร้ายที่กำลังบาดเจ็บ ย่อมเป็นอันตรายมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
และจากรายละเอียดของแผนการที่รั่วไหลถึงสื่อมวลชนทั่วโลก ไม่ว่าสิ่งที่ฟิสก์รายงานเอาไว้จะถูกต้องทุกสิ่งทุกอย่างหรือไม่ก็ตามที มันก็ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกอยู่ดีว่า เงินดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินตราสำรองอันเชื่อถือได้สำหรับการพาณิชย์ของโลก กำลังอยู่ในวิถีดำเนินไปสู่ความเสื่อมสลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
(เก็บความและตัดตอนจากเรื่อง Dollar exit for oil trade? โดย F William Engdahl ผู้เขียนหนังสือเรื่อง A Century of War: Anglo-American Oil Politics and the New World Order หนังสือเล่มล่าสุดของเขาคือ Full Spectrum Dominance: Totalitarian Democracy in the New World Order (Third Millennium Press)
ตั้งแต่ที่วอชิงตันฉีกทิ้งสนธิสัญญาเบรตตัน วูดส์ ในเดือนสิงหาคม 1971 และเดินหน้าเข้าสู่ “ระบบทุนสำรองเงินดอลลาร์ที่เป็นกระดาษ” ไม่ใช่เงินดอลลาร์ที่หนุนหลังด้วยทองคำอีกต่อไป สหรัฐฯในฐานะที่เป็นมหาอำนาจทางทหารผู้ทรงพลานุภาพที่สุดของโลก ก็ยังคงสามารถบงการให้โลกปฏิบัติตามเงื่อนไขทางการเงินของตน ชาติต่างๆ เป็นต้นว่าญี่ปุ่น และต่อมาก็คือจีน ต่างต้องพึ่งพาอาศัยสหรัฐฯเป็นตลาดส่งออก และก็จะต้องมีหน้าที่นำเอาเงินดอลลาร์ส่วนเกินซึ่งได้มาเพราะการได้เปรียบดุลการค้าของพวกตน ไปลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งก็เท่ากับกำลังให้การสนับสนุนทางการเงินแก่สงครามต่างๆ เป็นต้นว่า อิรัก และอัฟกานิสถาน ที่พวกเขาคัดค้าน ทั้งนี้พวกเขามองไม่เห็นว่าจะมีทางเลือกอย่างอื่นๆ
ทางด้านพวกประเทศอาหรับที่เป็นผู้ผลิตน้ำมัน เมื่อตกอยู่ใต้แรงบีบคั้นทางการทหารของสหรัฐฯ ก็ต้องยอมขายน้ำมันโดยคิดราคากันเป็นสกุลดอลลาร์อเมริกันเท่านั้น
ตามรายงานข่าวที่รั่วไหลจากบรรดารัฐอาหรับย่านอ่าวเปอร์เซียที่เป็นผู้ผลิตน้ำมัน ระบุว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้มีการหารืออย่างลับๆ ต่อเนื่องกันหลายครั้ง ระหว่างเหล่าประเทศอาหรับที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เป็นต้นว่าซาอุดีอาระเบีย (รวมทั้งมีรายงานว่ารัสเซียก็ได้เข้าร่วมด้วย) และพวกประเทศผู้บริโภคน้ำมันชั้นนำ อาทิ จีน, ญี่ปุ่น (ข่าวบอกว่าบราซิลก็เข้ามาหารือในฐานะที่เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคน้ำมัน)
โครงการที่พวกเขาพิจารณากันก็คือ การแอบๆ ตระเตรียมพื้นฐานเพื่อยุติ “กฎเหล็ก” ที่จะต้องขายน้ำมันกันเป็นสกุลเงินดอลลาร์อเมริกันเท่านั้น อันเป็นสิ่งที่ทำกันตลอด 65 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังที่ราคาน้ำมันช็อกโลกด้วยการทะยานลิ่วไปถึง 400% ในปี 1973 ตอนนั้นสื่อมวลชนสหรัฐฯต่างประณามกล่าวโทษว่า “พวกชีคอาหรับผู้ละโมบ” คือตัวการที่ทำให้เกิดสภาพการณ์เช่นนั้นขึ้น และกระทรวงการคลังสหรัฐฯก็ได้เดินทางลับๆ ไปยังกรุงริยาด เพื่อแจ้งกับทางซาอุดีอาระเบียด้วยคำพูดที่โจ่งแจ้งขวานผ่าซากว่า ถ้าหากพวกเขายังต้องการกำลังทหารสหรัฐฯคอยช่วยเหลือคุ้มครองในเวลาที่อาจจะถูกอิสราเอลโจมตีแล้ว องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็จะต้องตกลงเห็นพ้องกันเป็นการภายในว่า จะต้องไม่ขายน้ำมันในสกุลเงินตราอื่นๆ นอกเหนือจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ [รายละเอียดอ่านได้จากหนังสือของผู้เขียน เรื่อง Mit der Olwaffe zur Weltmacht ( สำนักพิมพ์ Kopp Verlag).] ระบบ “ดอลลาร์จากน้ำมัน” (Petrodollar) ดังกล่าวนี้เอง ทำให้สหรัฐฯสามารถที่จะปล่อยให้ตนเองขาดดุลการค้าอย่างมหาศาล แต่เงินดอลลาร์ก็ยังคงเป็นสกุลเงินตราที่ใช้เป็นทุนสำรองของโลก และนี่ก็เป็นหัวใจของความสามารถของสหรัฐฯในการเข้าครอบงำและควบคุมตลาดการเงินโลก ทั้งนี้จวบจนกระทั่งมาถึงวิกฤตการเงินในปัจจุบัน
ตามรายงานข่าวระบุว่า บรรดาประเทศที่ปรึกษาหารือกัน กำลังเล็งที่จะใช้ตะกร้าเงินตราหลายๆ สกุล เป็นต้นว่า เงินเยน, เงินหยวน, และยูโร ที่สามารถสะท้อนความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างผู้ผลิต-ผู้บริโภคได้ดี โดยที่จะหนุนหลังด้วยทองคำเพื่อให้เป็นเสมือนแกนกระดูกสันหลังอันมั่นคง
รายงานข่าวเกี่ยวกับแผนการลับๆ นี้ปรากฏเปิดเผยออกมาเป็นครั้งแรก โดย รอเบิร์ต ฟิสก์ ผู้สื่อข่าวประจำตะวันออกกลางซึ่งได้รับการยกย่องนับถือ ของหนังสือพิมพ์ ดิ อินดีเพนเดนต์ ของอังกฤษ ทั้งนี้ฟิสก์อ้างว่าได้รับการยืนยันเรื่องแผนการดังกล่าวนี้ทั้งจากแหล่งข่าวที่เป็นชาวอาหรับหลายรายและแหล่งข่าวชาวจีนในฮ่องกง ตัวผมเอง (ผู้เขียน เอฟ วิลเลียม เองดาห์ล) ก็ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวหลายรายในแถบอ่าวเปอร์เซียซึ่งเป็นบุคคลระดับที่อาวุโสมากและทราบเรื่องเป็นอย่างดี ว่ามีการพูดจาหารือเรื่องนี้กันจริงๆ
ภายหลังรายงานข่าวแผนการลับๆ นี้รั่วไหลออกมาสู่สาธารณชน รัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องหลายๆ รายแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ด้วยการปฏิเสธเรื่องนี้อย่างกราดเกรี้ยว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้มีการความเคลื่อนไหวตระเตรียมการในเรื่องนี้จริงๆ พวกเขาต่างตระหนักเป็นอันดีว่าสหรัฐฯที่อยู่ในสภาพของเสือร้ายที่กำลังบาดเจ็บ ย่อมเป็นอันตรายมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
และจากรายละเอียดของแผนการที่รั่วไหลถึงสื่อมวลชนทั่วโลก ไม่ว่าสิ่งที่ฟิสก์รายงานเอาไว้จะถูกต้องทุกสิ่งทุกอย่างหรือไม่ก็ตามที มันก็ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกอยู่ดีว่า เงินดอลลาร์ในฐานะที่เป็นสกุลเงินตราสำรองอันเชื่อถือได้สำหรับการพาณิชย์ของโลก กำลังอยู่ในวิถีดำเนินไปสู่ความเสื่อมสลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
(เก็บความและตัดตอนจากเรื่อง Dollar exit for oil trade? โดย F William Engdahl ผู้เขียนหนังสือเรื่อง A Century of War: Anglo-American Oil Politics and the New World Order หนังสือเล่มล่าสุดของเขาคือ Full Spectrum Dominance: Totalitarian Democracy in the New World Order (Third Millennium Press)