xs
xsm
sm
md
lg

‘เบอร์นันกี’ชี้ศก.ดีขึ้น แต่ยังผ่อนปรนด/บต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ - ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เบน เบอร์นันกี ให้ปากคำต่อรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันอังคาร(21) โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังมีทิศทางแนวโน้มที่กระเตื้องดียิ่งขึ้น แต่ก็ยังต้องใช้นโยบายสนับสนุนต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อป้องกันปัญหาจำนวนผู้ว่างงานที่ยังกำลังพุ่งขึ้น ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ
ในระหว่างการไปรายงานภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการทางการเงิน ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯคราวนี้ เบอร์นันกียังพยายามคลี่คลายความกังวลที่ว่า การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างระเบิดเถิดเทิงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ลงท้ายอาจกลายเป็นการกระพือภาวะเงินเฟ้อในเวลาต่อไป โดยกล่าวว่าเขาเชื่อมั่นว่าเฟดสามารถที่จะยกเลิกและลบผลอันไม่พึงประสงค์ที่จะเกิดจากมาตรการกระตุ้นอย่างมากมายเป็นพิเศษเหล่านี้ได้ เมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมให้กระทำเช่นนั้น
“สภาพการณ์ในตลาดการเงินที่ดีขึ้นนั้นมาพร้อมกับทิศทางแนวโน้มทางเศรษฐกิจโดยรวมที่กระเตื้องขึ้นด้วย” เบอร์นันกีกล่าว แต่เขาก็เตือนว่า “แม้ว่าจะมีสัญญาณในเชิงบวกเหล่านี้ แต่ภาวะการว่างงานจะยังคงอยู่ในอัตราที่สูง”
ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์และการใช้จ่ายภาคครัวเรือนดูเหมือนจะมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่อัตราการว่างงานจะยังคงอยู่ในระดับสูงไปจนถึงปี 2011 และอาจจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงเปราะบางอยู่มลายหายไปได้
ดังนั้น “เฟดเชื่อว่าจุดยืนของนโยบายการเงินในลักษณะเอื้ออำนวยอย่างสูง จะยังคงเหมาะสมต่อไปอีกชั่วระยะเวลาหนึ่ง” เบอร์นันกีบอก
นักวิเคราะห์หลายราย เป็นต้นว่า แครี เลฮีย์ นักเศรษฐศาสตร์แห่ง ดีซีชั่น อีโคโนมิก ในนิวยอร์กกล่าวให้ความเห็นว่า สิ่งที่เบอร์นันกีพูดคราวนี้ เป็นการตอบคำถามที่มีอยู่ในใจของตลาด “เบอรนันกีกล่าวว่าเฟดมียุทธศาสตร์ยุติมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเอาไว้แล้ว และสามารถใช้ได้ทันทีที่ต้องการ แต่เขาก็บอกกับรัฐสภาด้วยว่าในตอนนี้เขาต้องสนใจเรื่องการทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเสียก่อน” นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้บอก
เวลานี้เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เฟดฟันด์เรต จนลงมาเกือบถึง 0% นอกจากนั้นยังทำให้งบดุลของเฟดมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่าตัวจนอยู่ในระดับราวๆ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่เดินหน้าอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจเพื่อต่อสู้กับภาวะเศรษฐถดถอย หลังจากเกิดวิกฤตทางการเงินเมื่อปีที่แล้วที่ทำให้ตลาดสินเชื่อของโลกขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง
นักเศรษฐศาสตร์บางคนแสดงความกังวลว่าการอัดฉีดสภาพคล่องจำนวนมหาศาลของเฟด อาจจะกลายเป็นบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งเงินเฟ้อขึ้น และจะเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม เบอร์นันกีบอกว่า เฟดมีอาวุธจำนวนมากเตรียมไว้พรักพร้อม เพื่อที่เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ก็สามารถเลิกใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินได้อย่างราบรื่น โดยไม่ส่งผลอันไม่พึงประสงค์
“เฟดได้ทุ่มเทความสนใจอย่างมากมายเพื่อเตรียมยุทธศาสตร์ที่จะออกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเราก็เชื่อว่าเรามีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการดำเนินยุทธศาสตร์ดังกล่าวเมื่อถึงเวลา” เขากล่าว
“เราจะไม่ยินยอมให้มาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ กลายเป็นทำให้มีเม็ดเงินมากเกินไป จนกระทั่งก่อให้เกิดเงินเฟ้อในที่สุด”
บรรดาสส.ต่างตั้งคำถามเบอร์นันกีในหลายประเด็นด้วยกัน ตั้งแต่เศรษฐกิจภาพรวมไปจนถึงการปฏิรูปการกำกับดูแล การประกันสุขภาพ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ปฏิบัติต่อประธานธนาคารกลางแตกต่างไปจากเมื่อเขามาให้ปากคำต่อหน้ารัฐสภาคราวที่แล้ว อันเป็นการสอบปากคำเกี่ยวกับบทบาทของธนาคารกลางในกรณีแบงก์ออฟอเมริกาซื้อเมอร์ริลลินช์ ซึ่งเป็นกรณีที่สมาชิกรัฐสภาข้องใจกันมากว่าเฟดอาจจะมีการกระทำที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม
เกี่ยวกับเครื่องมือที่เฟดอาจนำมาใช้เพื่อให้การเลิกมาตรการกระตุ้นทางการเงินเป็นไปได้อย่างราบรื่นนั้น เบอร์นันกียกตัวอย่างต่อคณะกรรมาธิการว่า เรื่องการจ่ายดอกเบี้ยให้เงินทุนสำรองที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับเฟดนั้น จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ธนาคารกลางสามารถใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดกว่าเดิมเมื่อถึงเวลาที่ต้องทำ ทั้งนี้โดยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เฟดจะสามารถกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์นำเอาเงินที่ล้นเกินจำนวนมหาศาลมาฝากไว้กับธนาคารกลางได้ และลดปริมาณเงินในระบบลงไป
รายงานนโยบายการเงินของเฟดยังได้ระบุรายละเอียดมาตรการอื่นๆ จำนวนหนึ่ง ซึ่งเบอร์นันกีได้นำมาเขียนไว้ในบทความของเขาที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อคืนวันจันทร์(20)
ทั้งนี้ รายงานกล่าวว่าเฟดสามารถจะทำข้อตกลงแบบซื้อคืนกลับข้างกับสถาบันการเงิน นั่นคือเฟดจะเป็นฝ่ายขายหลักทรัพย์ออกไปจากพอร์ตของตน เพื่อดูดเอาเม็ดเงินออกจากระบบ โดยมีสัญญาว่าจะซื้อหลักทรัพย์เหล่านี้คืนในเวลาต่อไปด้วยราคาที่สูงกว่าเดิม
นอกจากนี้เฟดยังสามารถเสนอ “การรับฝากเงินแบบมีกำหนดระยะเวลา” ทำนองเดียวกับการที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ออกบัตรเงินฝาก (ซีดี) โดยกองทุนของธนาคารพาณิชย์ในเฟดที่อยู่ในรูปของเครื่องมือนี้ จะไม่สามารถจะนำเอาไปให้เงินกู้แก่ลูกค้าได้
ยิ่งไปกว่านั้น กระทรวงการคลังสหรัฐฯอาจจะขายหลักทรัพย์และนำเอาเม็ดเงินที่ได้ไปฝากไว้กับเฟด หรือเฟดอาจจะขายหลักทรัพย์ส่วนหนึ่งที่ตนเองสะสมไว้ก็ได้เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น