ข่าวในประเทศ – บอสใหญ่ จีเอ็มอาเซียนและประเทศไทย สุดมั่น “จีเอ็มใหม่” จะช่วยให้การจัดการทรัพยากรและต้นทุนดีขึ้น และกลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นอีกครั้ง พร้อมเปิดตัวโปรดักต็ใหม่ต่อเนื่อง
หลังสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลล้มละลายสหรัฐฯ ได้ประกาศอนุมัติการขายทรัพย์สินของเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นให้กับ จีเอ็ม ใหม่ (NGMCO) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเพื่อให้การดำเนินการทางธุรกรรมสำเร็จ จีเอ็ม ใหม่ จะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมปานี
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจาก บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ เปิดเผยว่า การจัดตั้ง “จีเอ็ม ใหม่” จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของจีเอ็มในประเทศไทยและอาเซียน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทามารถคงความได้เปรียบในเรื่องของทรัพยากร ที่บริษัทมีอยู่ทั่วโลกผ่านทางการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการขยายส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้กับตลาดในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญยิ่ง
“เราได้ผ่านช่วงเวลาท้าทาย และก็ผ่านการตัดสินใจที่ยากลำบากมาแล้ว เพื่อที่จะจัดการกับปัญหาที่สั่งสมในธุรกิจเรามาเป็นเวลาหลายสิบปี ตอนนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของเราในการที่จะแก้ไขข้อบกพร่องในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้บริษัทกลับมาสู่รูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสม และมุ่งสู่ทิศทางแห่งความสำเร็จโดยเร็วที่สุด”
โดยหน่วยงานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งที่สุดของจีเอ็ม คอร์ป จะได้รับการโอนย้ายการดำเนินงานมายังจีเอ็ม ใหม่ รวมถึง บริษัทในเครืออื่นๆของจีเอ็ม คอร์ป และหน่วยธุรกิจในประเทศไทย และประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกด้วย โดยบริษัทใหม่นี้ จะเป็นบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐฯ และสหภาพแรงงานยานยนต์แคนาดานั่นเอง
ทั้งนี้ จีเอ็ม ใหม่จะมีอัตราส่วนของหนี้ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยลงและมีบัญชีงบดุลที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับผลที่จะเกิดจากการที่จุดคุ้มทุนของเราลดต่ำลงแล้ว ก็จะช่วยให้บริษัทลดความเสี่ยงลงได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถทำกำไรได้เมื่อผลิตในระดับการผลิตที่น้อยลง และยังสามารถลงทุนในส่วนหลักๆ ของเทคโนโลยีอันล้ำหน้าและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้
หุ้นสามัญของจีเอ็ม ใหม่ จะครอบครองโดย
-กระทรวงการคลังสหรัฐฯ: 60.8%
-กรมดูแลผลประโยชน์ด้านเวชกรรมสหภาพแรงงานสำหรับผู้เกษียณ: 17.5%
-รัฐบาลแคนาดา และออนตาริโอ: 11.7%
- จีเอ็ม เก่า: 10%
ขณะเดียวกันในส่วนของความเคลื่อนไหวธุรกิจจีเอ็มในจีนนั้น ดูเหมือนว่าวิกฤตของบริษัทแม่ที่อเมริกาจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่นี่ และล่าสุดจีเอ็มทำยอดขายครึ่งปีแรกของปีนี้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทด้วยตัวเลข 814,442 คันกับยอดขายรถยนต์ของทั้งตัวเองและกับที่ร่วมผลิตกับทางพันธมิตรในจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 38% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเปรียบเทียบเฉพาะเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่รวมกับยอดขายของ Wuling ซึ่งเป็นแบรนด์เกิดขึ้นจากการร่วมมือ 3 ฝ่ายคือ SAIC, Wuling และจีเอ็ม ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ทาง Wuling มียอดขายมากถึง 524,598 คัน หรือเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยที่มีรุ่นซันไชน์ ไมโครแวนรุ่นใหม่เป็นตัวทำยอด เพราะมียอดขายถึง 295,789 คัน
ดังนั้นถ้านับเฉพาะรถยนต์ที่เกิดจากความร่วมมือของจีเอ็มและพันธมิตรอย่าง SAIC แล้ว มียอดขายอยู่ที่ 288,843 คันเท่านั้น
หลังสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลล้มละลายสหรัฐฯ ได้ประกาศอนุมัติการขายทรัพย์สินของเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นให้กับ จีเอ็ม ใหม่ (NGMCO) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และเพื่อให้การดำเนินการทางธุรกรรมสำเร็จ จีเอ็ม ใหม่ จะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมปานี
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจาก บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เซาท์อีสต์เอเชีย โอเปอเรชั่นส์ จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย สตีฟ คาร์ไลส์ ประธานกรรมการ เปิดเผยว่า การจัดตั้ง “จีเอ็ม ใหม่” จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของจีเอ็มในประเทศไทยและอาเซียน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทามารถคงความได้เปรียบในเรื่องของทรัพยากร ที่บริษัทมีอยู่ทั่วโลกผ่านทางการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการขยายส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้กับตลาดในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีความสำคัญยิ่ง
“เราได้ผ่านช่วงเวลาท้าทาย และก็ผ่านการตัดสินใจที่ยากลำบากมาแล้ว เพื่อที่จะจัดการกับปัญหาที่สั่งสมในธุรกิจเรามาเป็นเวลาหลายสิบปี ตอนนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของเราในการที่จะแก้ไขข้อบกพร่องในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้บริษัทกลับมาสู่รูปแบบการดำเนินงานที่เหมาะสม และมุ่งสู่ทิศทางแห่งความสำเร็จโดยเร็วที่สุด”
โดยหน่วยงานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งที่สุดของจีเอ็ม คอร์ป จะได้รับการโอนย้ายการดำเนินงานมายังจีเอ็ม ใหม่ รวมถึง บริษัทในเครืออื่นๆของจีเอ็ม คอร์ป และหน่วยธุรกิจในประเทศไทย และประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกด้วย โดยบริษัทใหม่นี้ จะเป็นบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐฯ และสหภาพแรงงานยานยนต์แคนาดานั่นเอง
ทั้งนี้ จีเอ็ม ใหม่จะมีอัตราส่วนของหนี้ต่อส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยลงและมีบัญชีงบดุลที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับผลที่จะเกิดจากการที่จุดคุ้มทุนของเราลดต่ำลงแล้ว ก็จะช่วยให้บริษัทลดความเสี่ยงลงได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถทำกำไรได้เมื่อผลิตในระดับการผลิตที่น้อยลง และยังสามารถลงทุนในส่วนหลักๆ ของเทคโนโลยีอันล้ำหน้าและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้
หุ้นสามัญของจีเอ็ม ใหม่ จะครอบครองโดย
-กระทรวงการคลังสหรัฐฯ: 60.8%
-กรมดูแลผลประโยชน์ด้านเวชกรรมสหภาพแรงงานสำหรับผู้เกษียณ: 17.5%
-รัฐบาลแคนาดา และออนตาริโอ: 11.7%
- จีเอ็ม เก่า: 10%
ขณะเดียวกันในส่วนของความเคลื่อนไหวธุรกิจจีเอ็มในจีนนั้น ดูเหมือนว่าวิกฤตของบริษัทแม่ที่อเมริกาจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่นี่ และล่าสุดจีเอ็มทำยอดขายครึ่งปีแรกของปีนี้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทด้วยตัวเลข 814,442 คันกับยอดขายรถยนต์ของทั้งตัวเองและกับที่ร่วมผลิตกับทางพันธมิตรในจีน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 38% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเปรียบเทียบเฉพาะเดือนมิถุนายน
อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่รวมกับยอดขายของ Wuling ซึ่งเป็นแบรนด์เกิดขึ้นจากการร่วมมือ 3 ฝ่ายคือ SAIC, Wuling และจีเอ็ม ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ทาง Wuling มียอดขายมากถึง 524,598 คัน หรือเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยที่มีรุ่นซันไชน์ ไมโครแวนรุ่นใหม่เป็นตัวทำยอด เพราะมียอดขายถึง 295,789 คัน
ดังนั้นถ้านับเฉพาะรถยนต์ที่เกิดจากความร่วมมือของจีเอ็มและพันธมิตรอย่าง SAIC แล้ว มียอดขายอยู่ที่ 288,843 คันเท่านั้น