xs
xsm
sm
md
lg

เฟดไม่ขยับดอกเบี้ย แม้ยิ่งมั่นใจศก.US

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) เมื่อวันพุธ(12) โดยมีมติปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของตนอยู่ในระดับเกือบๆ 0% ต่อไป รวมทั้งยังจะยืดเวลาใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนเช่นนี้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ก็ออกคำแถลงชี้ว่าเศรษฐกิจอเมริกันกำลังมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังแสดงท่าทีว่าจะลดทอนมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องจำนวนมากมายมหาศาลเข้าไปในระบบการเงิน

คำแถลงที่ออกมาภายหลังการประชุมเป็นเวลา 2 วันของเอฟโอเอ็มซีคราวนี้ มีการใช้ถ้อยคำที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเฟดมองว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยระลอกนี้ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว และตลาดการเงินที่พังพาบเสียหายก็กำลังได้รับการเยียวยาจนกระเตื้องขึ้น

“ข้อมูลข่าวสารนับตั้งแต่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดประชุมกันคราวก่อนเมื่อครั้งเดือนมิถุนายน ต่างบ่งชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังกระเตื้องเพิ่มพูนขึ้น” คำแถลงระบุ และกล่าวด้วยว่า “เงื่อนไขต่างๆ ในตลาดการเงินก็กระเตื้องดีขึ้นในระยะไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา”

ทั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2008 ที่คำแถลงของเอฟโอเอ็มซีไม่ได้บรรยายสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯว่า กำลังหดตัวลง, กำลังอ่อนตัวลง, หรือกำลังชะลอลง

คำแถลงระบุว่า เอฟโอเอ็มซีมีมติเป็นเอกฉันท์ 10 ต่อ 0 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย “เฟดฟันด์เรต” เอาไว้ในระดับ 0 – 0.25% ต่อไป พร้อมกับบอกว่า “ถึงแม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังน่าที่จะอ่อนแอต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่คณะกรรมการก็ยังคงคาดการณ์ว่า การปฏิบัติการต่างๆ ในเชิงนโยบายเพื่อทำให้ตลาดการเงินและสถาบันการเงินมีเสถียรภาพ, มาตรการกระตุ้นทางการคลังและทางการเงิน, และพลังต่างๆ ของตลาด จะร่วมส่วนมีบทบาทในการค่อยๆ ทำให้เศรษฐกิจกลับคืนมามีอัตราเติบโตอย่างยั่งยืน ในบริบาทของการมีเสถียรภาพทางด้านราคา”

เอฟโอเอ็มซีซึ่งนั่งเป็นประธานโดย เบน เบอร์นันกี ประธานเฟด ยังระบุในคำแถลงว่า “ยังคงคาดการณ์ว่าเงื่อนไขต่างๆ ทางเศรษฐกิจน่าที่จะรับรองให้คงอัตราดอกเบี้ยเฟดฟันด์เรตเอาไว้ในระดับต่ำมากๆ ผิดธรรมดาเช่นนี้ต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง”

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐฯก็บอกด้วยว่า จะเริ่มลดทอนเพิกถอนมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องมูลค่ามหาศาลเข้าไปในระบบการเงิน ด้วยวิธีรับซื้อพันธบัตรและตั๋วเงินกระทรวงการคลังสหรัฐฯและหลักทรัพย์ที่อิงอยู่กับสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ

โครงการรับซื้อพันธบัตรและตั่วเงินคลังที่เฟดตั้งวงเงินเอาไว้สูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์นี้ เดิมกำหนดจะหมดอายุลงในเดือนตุลาคม คำแถลงของเอฟโอเอ็มซีคราวนี้ระบุว่าจะขยายเวลาออกไปอีก 1 เดือน

“เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่นภายในตลาด ขณะที่การซื้อหลักทรัพย์กระทรวงการคลังเหล่านี้กำลังจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ คณะกรรมการจึงมีมติให้ค่อยๆ ชะลอฝีก้าวในการทำธุรกรรมเหล่านี้ และคาดหมายว่าจะสามารถซื้อได้ครบจำนวนทั้งหมดภายในสิ้นเดือนตุลาคม” คำแถลงบอก

ทั้งนี้โครงการของเฟด ซึ่งบางทีก็รู้จักกันในชื่อว่า “การผ่อนคลายในเชิงปริมาณ” (quantitative easing) นี้ นอกจากเฟดจะรับซื้อพันธบัตรและตั๋วเงินคลังแล้ว ยังจะรับซื้อหลักทรัพย์ที่อิงอยู่กับสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์อีกเป็นจำนวน 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยที่ในส่วนหลังนี้คาดว่าจะหมดโครงการภายในสิ้นปีนี้

พวกนักวิเคราะห์มองว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเฟดคราวนี้ คือก้าวเล็กๆ ก้าวแรกในทิศทางแห่งการยุติยกเลิกมาตรการสนับสนุนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมโหฬาร ที่นำออกมาใช้ในช่วงเศรษฐกิจประสบภาวะถดถอยร้ายแรง

รอเบิร์ต บรุสกา แห่ง เอฟเอโอ อีโคโนมิกส์ ให้ความเห็นว่า เฟดกำลังค่อยๆ ยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาตรการหนึ่งอย่างช้าๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเฟดมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโดยรวมและระบบการเงินน้อยลง แต่ก็ยังไม่ถึงระดับที่คิดว่าสามารถพึ่งพาการฟื้นตัวล้วนๆ โดยไม่ต้องอาศัยการกระตุ้นใดๆ ได้แล้ว

ทางด้าน เคร็ก อเล็กซานเดอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ทีดี แบงก์ ไฟแนนเชียล มองว่า ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ส่อแสดงให้เห็นว่า ระบบการเงินและเศรษฐกิจโดยรวมยังกระเตื้องดีขึ้นเพียงเล็กน้อย เฟดจึงไม่ถึงกับกล้าออกมาพูดว่าเศรษฐกิจไม่ต้องการการสนับสนุนเป็นพิเศษอะไรอีกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น