xs
xsm
sm
md
lg

“ไพโรจน์ สุขจั่น” เจ้าสัวอสังหาฯ จากพระเครื่อง สู่หินศักดิ์สิทธิ์ และ “ถ้ำแก้วเนรมิต” แหล่งสงบใจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระที่ “ไพโรจน์ สุขจั่น” แขวนติดตัวเป็นประจำ
เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สุขจั่น”วงการธุรกิจรู้จักเขาในฉายา “อัศวินนักขายหมื่นล้าน”ผู้กุมบังเหียน บริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

ในอีกมุมหนึ่งของชีวิต บอสใหญ่แห่งบัวทองกรุ๊ปยังเป็นอีกผู้หนึ่งที่ชอบสะสม “พระเครื่อง” และ “หินศักดิ์สิทธิ์” ชนิดต่างๆ เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งนำไปสร้าง “ถ้ำแก้วเนรมิต” ที่สุดแสนจะวิจิตรพิสดาร

เจ้าสัวอสังหาฯ สู่วงการพระเครื่อง

การเติบโตมากับโรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์ เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ “ไพโรจน์ สุขจั่น” มีชีวิตที่ใกล้พระ จนเมื่อเป็นนักศึกษาบริหารธุรกิจการเงินการธนาคาร ม.สยาม เรื่อยมาถึงเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ธนาคารศรีนคร เขาเทียวเข้าเทียวออกวัดบ่อยครั้ง ไปคราใดก็บูชาพระเครื่องติดมือมาครานั้น เป็นความสุขทางใจที่จุดเริ่มต้นของการสะสมแม้จะไม่ใช่พระเก่าเข้ากรุก็ตามที

“ช่วงเริ่มทำงานไม่สบายใจก็ไปวัด ไปกราบหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม พอไปก็เช่าพระมา จากนั้นก็เริ่มสะสมส่วนใหญ่เป็นพระใหม่ ตอนนั้นซื้อกล้องมาส่องพระติดถึงตีหนึ่งตีสอง เป็นความสุขทางใจ”

อย่างไรก็ตามการทำงานในวงการธุรกิจไม่ได้ทำให้ซีอีโอผู้นี้ขวนขวายพระราคาเรือนแสนเรือนล้านดังมาแขวนหรือสะสมให้มากมายนัก แต่เมื่อโดดลงในสนามการเมืองท้องถิ่นของนนทบุรีทำให้ต้องควานหาของดีมาไว้กับตัว

“เมื่อก่อนไม่เคยแขวนพระดีๆ ไม่เคยมีปืน เพราะทำธุรกิจถือว่าเอาความดีเข้าแลก แต่การเมืองไม่ใช่ พูดง่ายๆ คือการเมืองคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องหาพระมาเพิ่ม”

จากนั้นก็เริ่มส่งเหรียญเจ้าสัว เนื้อเงิน เข้าประกวดและได้รับรางวัลที่หนึ่งกลับมา แต่พระดีองค์เดียวไม่พออีกต่อไป จึงตระเวนประกวดพระหลายสนาม เสาะหาพระดังเพิ่ม อาทิ เหรียญหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม ปิดตาหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง หลวงปู่ช่วง วัดบางแพรกใต้ เป็นต้น

“ทุกวันนี้ผมอาราธนาพระขึ้นคอแค่พระอุปคุตของบรรพบุรุษ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว เหรียญเจ้าสัว หลวงปู่บุญ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม และตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ราคาเหยียบล้าน ซึ่งครั้งหนึ่งพล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ มาขอซื้อแต่ผมไม่ขาย” เจ้าสัวแห่งบัวทองกรุ๊ป สรุป

เบนเข็มสู่หินศักดิ์สิทธิ์

ย้อนกลับก่อนลงสนามการเมืองท้องถิ่นในปี 2547 ระหว่างนั้น เจ้าสัวไพโรจน์ ไม่ได้เล่นพระดังอย่างเดียว แต่ศึกษาอ่านตำราหินศักดิ์สิทธิ์และเป็นนักสะสมหินไปพร้อมกันด้วย เพราะชื่อว่าพลังจากหินนั้นมีจริง

“ผมคิดว่าสะสมไว้ไม่เสียหลาย เราไม่ได้บูชาหินก้อนเหมือนคนอื่น แต่เอาหินมาแกะเป็นพระ องค์เล็กบ้างใหญ่บ้าง หินชนิดไหนที่ว่าดีผมมีเกือบหมดทั้งในหรือต่างประเทศ เช่น โคตรเหล็กไหลจากเขาอึมครึม หินสะเก็ดดาว เขี้ยวหนุมาน หินอำพันล้านปี หินอเมทิสต์ เหล็กน้ำพี้ ไทเกอร์อาย หินกองคำ ไม้กลายเป็นหินก็มี ผมคิดว่าหินมีเสน่ห์ในตัว มีลวดลายไม่เหมือนกัน ซึ่งอายุหินเหล่านี้เก่ากว่าพระรุ่นไหนๆ และประเมินค่าไม่ได้”

เจ้าของบัวทองกรุ๊ป เล่าถึงปาฏิหาริย์หินที่เกิดขึ้นกับตนเองว่า เมื่อประมาณปี 46 เคยประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์ชนท้ายรถสิบล้อ ชนิดที่เรียกว่ารถพังยับเยินไม่เหลือชิ้นดี แต่คนไม่มีเลือดสักหยด แค่คอคลื่อนบ้างเท่านั้น ในครั้งนั้นไม่ได้แขวนพระเครื่องใดๆ แขวนเพียงหินเขี้ยวหนุมานที่แกะเป็นพระพุทธรูปองค์เล็กเลี่ยมทองห้อยคอ 18 องค์เท่านั้น

หินงอกหินย้อยก่อถ้ำแก้วเนรมิต

ด้วยความที่เป็นนักสะสมหิน และไม่อยากให้หินงอกหินย้อยจากการระเบิดภูเขาตกไปอยู่ในมือต่างชาติจึงขอซื้อไว้เสียเอง นานวันเข้ายิ่งพอกพูน หินที่สะสมหลายปีจำนวนกว่า 10 ตันก็ถูกเนรมิตให้เป็นถ้ำเพื่อเป็นที่ปฏิบัติธรรม และเก็บพระหินที่สะสมไว้ ใช้เวลาตกแต่งเพียง 6 เดือนก็ได้เหมือนเนรมิต แต่การวางแผนทั้งหมดใช้เวลาเกือบ 2 ปี

ทั้งนี้ ภายในถ้ำที่ตั้งชื่อว่า “ถ้ำแก้วเนรมิต” มีการจัดวางองค์พระที่แกะสลักเป็นพระและเทพเจ้าต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่และสวยงาม เช่น พระพิฆเนศ จตุคามรามเทพ พระสังกัจจายน์ ปู่ฤาษี รวมทั้งไม้พญางิ้วดำแกะเป็นพระพุทธรูป หรือแม้กระทั่งมักกะลีผล เป็นต้น

ที่สุดแล้ว “ไพโรจน์ สุขจั่น” เชื่อว่าต่อให้อาราธนาพระที่ลือว่าทำให้หนังเหนียวเท่าใดบนคอ แต่ประพฤติชั่วก็ไม่แคล้วจากความตาย ซึ่งการที่ธุรกิจของเขาเจริญรุ่งเรืองเท่าทุกวันนี้ เพราะด้วยความดี และการทำงานอย่างจริงจัง มีหลักการทำงาน ไม่พัวพันอบายมุข เริ่มด้วยคิดดี ประพฤติดี พระเป็นที่พึ่งทางใจให้มั่นใจมากขึ้นเท่านั้น
เหรียญเจ้าสัว เนื้อเงิน หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว องค์แชมป์
ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง
ในถ้ำแก้วเนรมิต

หินศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่ไพโรจน์นำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป

กำลังโหลดความคิดเห็น