ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์-นอนแบงก์กลับลำหันบุกสินเชื่อบุคลล หลังสัญญาณเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว "กสิกรไทย"เสนอสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทยให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 1.5 ล้านโดยไม่ต้องมีหลักประกัน ตั้งเป้าช่วงที่เหลือของปีปล่อยกู้เพิ่ม 800 ล้าน ลั่นพร้อมเป็นผู้นำตลาดในปีหน้า ด้านเคทีซีขอร่วมวงรุกตลาดสินเชื่อบุคคลอีกรอบ หลังจากแตะเบรกไป 1 ปี คุยยอดบัตรใหม่เพิ่มขึ้น 1.3 แสนบัตร เป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1-1.5 แสนบัตร
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเตรียมหันมารุกตลาดสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย (K-Express Cash) ซึ่งเป็นสินเชื่อบุคคลที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หลังเห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มที่จะเริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีความต้องการเงินสำหรับใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคมากขึ้น โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าพนักงานบริษัทที่มีรายได้ 10,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
"ธนาคารมีความมั่นใจว่า สินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย มีจุดแข็งที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ เนื่องจากให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 1.5 ล้านบาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด คืออยู่ที่ 20%ต่อปี สำหรับวงเงิน 240,000 บาทขึ้นไป และ 24-27% สำหรับวงเงินต่ำกว่า 240,000 บาท ลูกค้าสามารถถอนเงินสดได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากตู้เอทีเอ็มทุกเครื่องของทุกธนาคาร รวมทั้งไม่เก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด ค่าธรรมเนียมการชำระคืน ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี ซึ่งลูกค้าสามารถสมัครใช้บริการได้อย่างสะดวกที่สาขาของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ"
ทั้งนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย พบว่า ส่วนใหญ่ชอบท่องเที่ยวพักผ่อน ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงได้ออกโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่สมัครใช้บริการสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย ภายในวันที่ 31 มกราคม 2553 และมียอดเงินคงค้างเฉลี่ยตั้งแต่ 30,000 บาท ขึ้นไปภายใน 60 วันแรกจะได้รับฟรี ที่พักโรงแรม-รีสอร์ท 2 วัน 1 คืน สำหรับ 2 ท่านรวมอาหารเช้า มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท และยังมีบริการสำหรับลูกค้าใหม่ คือบริการเลขาส่วนตัวจาก K Home Smiles Club ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า
โดยธนาคารคาดว่าโปรโมชั่นดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทยภายในปีนี้เพิ่มประมาณ 800 ล้านบาท โดยธนาคารมีเป้าหมายที่เติบโตแบบก้าวกระโดดเพื่อขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาดสินเชื่อบุคคลภายในปี 2553
เคทีซีโดดร่วมวงหลังแตะเบรก1ปี
นายธวัชชัย ธิติศักดิ์สกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า ในช่วงสิ้นปี 2552 นี้ไปจนถึงปี 2553 บริษัทจะหันกลับมารุกธุรกิจสินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ชะลอธุรกิจสินเชื่อบุคคลไปกว่า 1 ปี เนื่องจากในขณะนั้นพฤติกรรมลูกค้าสินเชื่อบุคคลมีความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง ทำให้บริษัทมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว แต่ในขณะนี้บริษัทมองว่าพฤติกรรมของลูกค้าดีขึ้นจากเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจหลายประเทศกลับมาดีขึ้น จึงถือเป็นจังหวะที่ดีในการกลับมาทำตลาดสินเชื่อบุคคล และอนุมัติปล่อยสินเชื่อมากขึ้นอีกครั้ง
“สินเชื่อบุคคลของบริษัทชะลอตัวไปประมาณ 1 ปี แต่ในสินปีนี้และปีหน้าเริ่มกลับมาทำตลาดใหม่ ขณะนี้เคทีซีมั่นใจว่าเศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น ทำให้ยอดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ทำให้เคทีซีกลับมาทำตลาดอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับทำตลาดทุกกลุ่มลูกค้าซึ่งในขณะนี้ฐานสินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 4 แสนราย คิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท” นายธวัชชัย กล่าว
สำหรับยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วง 9 เดือนแรกของปี มียอดใช้จ่าย 6.3 หมื่นล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 และยอดบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 1.3 แสนบัตร ซึ่งถือว่าบริษัททำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งปีนี้ที่ 1-1.5 แสนบัตร ส่งผลให้ฐานบัตรเครดิตรวมในปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 ล้านบัตร
“ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 9 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ย 5 พันบาท/บัตร/คน/เดือน ซึ่งมองว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้ว 5% เพราะสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจทั่วไปอยู่ในช่วงที่คนมีความเชื่อมั่นมากกว่าหลายเดือนที่ผ่านมา พอเศรษฐกิจดีอำนาจการใช้จ่ายก็ดี และยังมีกลุ่มคนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจด้วย” นายธวัชชัย กล่าว
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ปกติในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นช่วงของเทศกาลจับจ่ายใช้สอย และเป็นช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะเพิ่มขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 1 -3 ประมาณ 30 % และในปีนี้เคทีซีจะมีการจัดแคมเปญเพื่อทำตลาดอย่างเต็มที่ ประกอบกับประชาชนมีความเชื่อมั่น เชื่อว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วงสิ้นปีจะมีอัตราการเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 10-20 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเตรียมหันมารุกตลาดสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย (K-Express Cash) ซึ่งเป็นสินเชื่อบุคคลที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หลังเห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มที่จะเริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีความต้องการเงินสำหรับใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคมากขึ้น โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าพนักงานบริษัทที่มีรายได้ 10,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
"ธนาคารมีความมั่นใจว่า สินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย มีจุดแข็งที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ เนื่องจากให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 1.5 ล้านบาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด คืออยู่ที่ 20%ต่อปี สำหรับวงเงิน 240,000 บาทขึ้นไป และ 24-27% สำหรับวงเงินต่ำกว่า 240,000 บาท ลูกค้าสามารถถอนเงินสดได้ตลอด 24 ชั่วโมงจากตู้เอทีเอ็มทุกเครื่องของทุกธนาคาร รวมทั้งไม่เก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด ค่าธรรมเนียมการชำระคืน ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี ซึ่งลูกค้าสามารถสมัครใช้บริการได้อย่างสะดวกที่สาขาของธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ"
ทั้งนี้ จากการสำรวจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย พบว่า ส่วนใหญ่ชอบท่องเที่ยวพักผ่อน ดังนั้นธนาคารกสิกรไทยจึงได้ออกโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่สมัครใช้บริการสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย ภายในวันที่ 31 มกราคม 2553 และมียอดเงินคงค้างเฉลี่ยตั้งแต่ 30,000 บาท ขึ้นไปภายใน 60 วันแรกจะได้รับฟรี ที่พักโรงแรม-รีสอร์ท 2 วัน 1 คืน สำหรับ 2 ท่านรวมอาหารเช้า มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท และยังมีบริการสำหรับลูกค้าใหม่ คือบริการเลขาส่วนตัวจาก K Home Smiles Club ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า
โดยธนาคารคาดว่าโปรโมชั่นดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทยภายในปีนี้เพิ่มประมาณ 800 ล้านบาท โดยธนาคารมีเป้าหมายที่เติบโตแบบก้าวกระโดดเพื่อขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาดสินเชื่อบุคคลภายในปี 2553
เคทีซีโดดร่วมวงหลังแตะเบรก1ปี
นายธวัชชัย ธิติศักดิ์สกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า ในช่วงสิ้นปี 2552 นี้ไปจนถึงปี 2553 บริษัทจะหันกลับมารุกธุรกิจสินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ชะลอธุรกิจสินเชื่อบุคคลไปกว่า 1 ปี เนื่องจากในขณะนั้นพฤติกรรมลูกค้าสินเชื่อบุคคลมีความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง ทำให้บริษัทมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว แต่ในขณะนี้บริษัทมองว่าพฤติกรรมของลูกค้าดีขึ้นจากเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจหลายประเทศกลับมาดีขึ้น จึงถือเป็นจังหวะที่ดีในการกลับมาทำตลาดสินเชื่อบุคคล และอนุมัติปล่อยสินเชื่อมากขึ้นอีกครั้ง
“สินเชื่อบุคคลของบริษัทชะลอตัวไปประมาณ 1 ปี แต่ในสินปีนี้และปีหน้าเริ่มกลับมาทำตลาดใหม่ ขณะนี้เคทีซีมั่นใจว่าเศรษฐกิจได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น ทำให้ยอดการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ทำให้เคทีซีกลับมาทำตลาดอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับทำตลาดทุกกลุ่มลูกค้าซึ่งในขณะนี้ฐานสินเชื่อส่วนบุคคลของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 4 แสนราย คิดเป็นมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท” นายธวัชชัย กล่าว
สำหรับยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วง 9 เดือนแรกของปี มียอดใช้จ่าย 6.3 หมื่นล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 และยอดบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 1.3 แสนบัตร ซึ่งถือว่าบริษัททำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งปีนี้ที่ 1-1.5 แสนบัตร ส่งผลให้ฐานบัตรเครดิตรวมในปัจจุบันอยู่ที่ 1.6 ล้านบัตร
“ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 9 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ย 5 พันบาท/บัตร/คน/เดือน ซึ่งมองว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้ว 5% เพราะสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจทั่วไปอยู่ในช่วงที่คนมีความเชื่อมั่นมากกว่าหลายเดือนที่ผ่านมา พอเศรษฐกิจดีอำนาจการใช้จ่ายก็ดี และยังมีกลุ่มคนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจด้วย” นายธวัชชัย กล่าว
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ปกติในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นช่วงของเทศกาลจับจ่ายใช้สอย และเป็นช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรจะเพิ่มขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 1 -3 ประมาณ 30 % และในปีนี้เคทีซีจะมีการจัดแคมเปญเพื่อทำตลาดอย่างเต็มที่ ประกอบกับประชาชนมีความเชื่อมั่น เชื่อว่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วงสิ้นปีจะมีอัตราการเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 10-20 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน