ASTVผู้จัดการรายวัน-ไทยใช้เวทีอาเซียนซัมมิต อ้อนจีนขอใช้เงินกองทุนไชน่า ฟันด์ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท พัฒนา 3 เส้นทางเชื่อมไทย-พม่า ทำไทยเป็นเกตุเวย์ภูมิภาคอาเซียน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียน ซัมมิต) ระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค. ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ซึ่งจะมีการหารือกับผู้นำรัฐบาลจีน ฝ่ายไทยจะเสนอขอใช้เงินกองทุนไชน่า ฟันด์ ที่จีนอนุมัติวงเงิน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนให้กับอาเซียนใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ มาใช้พัฒนาปรับปรุงถนนในเส้นทาง 3 สาย ได้แก่ เส้นทางแม่สอด-เมียวดี (East-West Corridor) เส้นทางสายกาญจนบุรี-ทวาย และเส้นทางสิงขร-มะริด ซึ่งเส้นทางทุกสายจะเชื่อมต่อจีนมาเข้าไทยและไปพม่า ทำให้ไทยกลายเป็นเกตุเวย์ของภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเสนอใช้เงินกองทุนไชน่า ฟันด์ในการประชุมอาเซียน ซัมมิต นั้น จะเดินทางไปเยือนประเทศพม่าระหว่างวันที่ 11-13 ต.ค. นี้ เพื่อไปให้พม่าเร่งผลักดันเปิดเส้นทางการค้าใหม่ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยจะมีการหารือกับรัฐมนตรีหลายกระทรวงของพม่าทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากร เป็นต้น หากพม่าเห็นด้วย เชื่อว่าไทยจะได้ประโยชน์จากการเปิดเส้นทางดังกล่าว โดยเฉพาะเส้นทางกาญจนบุรี-ทวาย ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไปสู่ท่าเรือน้ำลึกทวาย มีระยะทาง 130 กม. จะส่งผลต่อการค้าการลงทุนภายในภูมิภาคให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในการเดินทางไปเยือนพม่า จะขยายความร่วมมือทางด้านการค้าระหว่างไทยกับพม่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพม่าเป็นตลาดสำคัญของไทย โดยการค้าทั้งสองฝ่ายมีมูลค่ามากถึง 6.5 แสนล้านบาท เป็นการค้าชายแดนมากถึง 92% ดังนั้น จึงจะหารือถึงโอกาสในการเพิ่มปริมาณการค้าชายแดนระหว่างกันให้มากขึ้น
“จะไปเปิดตลาดพม่า หารือถึงเรื่องเส้นทางทั้ง 3 สาย ที่มองว่าเป็นประโยชน์กับไทย เพราะหากเส้นทางดังกล่าวเกิด ไทยจะเป็นประตูสำหรับภูมิภาคนี้ โดยจะขอใช้เงินกองทุนจีนมาก่อสร้างเส้นทาง รวมทั้งจะเจรจาเปิดเส้นทางการบินกาญจนบุรี-ทวาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นด้วย” นายอลงกรณ์ กล่าว
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทย-พม่า ปี 2551 มีมูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7% โดย 8 เดือนแรก ปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทย-พม่า อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.47% สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปพม่า ได้แก่ น้ำมัน เครื่องดื่ม เหล็ก ซีเมนต์ เคมีภัณฑ์ รถและส่วนประกอบ และสิ่งทอ
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียน ซัมมิต) ระหว่างวันที่ 23-25 ต.ค. ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ซึ่งจะมีการหารือกับผู้นำรัฐบาลจีน ฝ่ายไทยจะเสนอขอใช้เงินกองทุนไชน่า ฟันด์ ที่จีนอนุมัติวงเงิน 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสนับสนุนให้กับอาเซียนใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ มาใช้พัฒนาปรับปรุงถนนในเส้นทาง 3 สาย ได้แก่ เส้นทางแม่สอด-เมียวดี (East-West Corridor) เส้นทางสายกาญจนบุรี-ทวาย และเส้นทางสิงขร-มะริด ซึ่งเส้นทางทุกสายจะเชื่อมต่อจีนมาเข้าไทยและไปพม่า ทำให้ไทยกลายเป็นเกตุเวย์ของภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเสนอใช้เงินกองทุนไชน่า ฟันด์ในการประชุมอาเซียน ซัมมิต นั้น จะเดินทางไปเยือนประเทศพม่าระหว่างวันที่ 11-13 ต.ค. นี้ เพื่อไปให้พม่าเร่งผลักดันเปิดเส้นทางการค้าใหม่ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด โดยจะมีการหารือกับรัฐมนตรีหลายกระทรวงของพม่าทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากร เป็นต้น หากพม่าเห็นด้วย เชื่อว่าไทยจะได้ประโยชน์จากการเปิดเส้นทางดังกล่าว โดยเฉพาะเส้นทางกาญจนบุรี-ทวาย ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไปสู่ท่าเรือน้ำลึกทวาย มีระยะทาง 130 กม. จะส่งผลต่อการค้าการลงทุนภายในภูมิภาคให้เติบโตมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในการเดินทางไปเยือนพม่า จะขยายความร่วมมือทางด้านการค้าระหว่างไทยกับพม่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพม่าเป็นตลาดสำคัญของไทย โดยการค้าทั้งสองฝ่ายมีมูลค่ามากถึง 6.5 แสนล้านบาท เป็นการค้าชายแดนมากถึง 92% ดังนั้น จึงจะหารือถึงโอกาสในการเพิ่มปริมาณการค้าชายแดนระหว่างกันให้มากขึ้น
“จะไปเปิดตลาดพม่า หารือถึงเรื่องเส้นทางทั้ง 3 สาย ที่มองว่าเป็นประโยชน์กับไทย เพราะหากเส้นทางดังกล่าวเกิด ไทยจะเป็นประตูสำหรับภูมิภาคนี้ โดยจะขอใช้เงินกองทุนจีนมาก่อสร้างเส้นทาง รวมทั้งจะเจรจาเปิดเส้นทางการบินกาญจนบุรี-ทวาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นด้วย” นายอลงกรณ์ กล่าว
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทย-พม่า ปี 2551 มีมูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7% โดย 8 เดือนแรก ปีนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทย-พม่า อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.47% สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปพม่า ได้แก่ น้ำมัน เครื่องดื่ม เหล็ก ซีเมนต์ เคมีภัณฑ์ รถและส่วนประกอบ และสิ่งทอ
