xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจไทย-พม่า ร่วมเจรจาการค้าเตรียมรับเปิดเสรีทางค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต- นักธุรกิจไทย-พม่า ร่วมประชุมสัมมนาและพบปะเจรจาการค้าอย่างคับคั่ง เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเสรีทางการค้า

วันนี้ (28 ก.ค.) จังหวัดระนองโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดระนอง ได้จัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องการค้าชายแดนจังหวัดระนอง และบทบาทของลอจิสติก (Logistic) ภายใต้โครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจังหวัดระนองกับประเทศพม่า ปี 2552 โดยมีนางสาวจิตรา พรหมชุติมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดการประชุม มีหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรเอกชน ผู้ประกอบธุรกิจไทย และพม่า เข้าร่วมประชุมประมาณ 200 คน
ที่โรงแรมทินิดีระนอง

นายสมพร วิริยานุภาพพงศ์ พาณิชย์จังหวัดระนอง กล่าวว่า การจัดประชุมในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจในบทบาทต่อกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการค้าภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 5 กรอบ คือ กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภาคลุ่มน้ำโขง หรือ GMS กรอบข้อตกลงเขตการค้าเสรีบิมสเทค (BIMSTEC) กรอบความร่วมมือสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ (IMT-GT) เขตการค้าเสรีอาเซียน และการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

นอกจากนี้ ยังสร้างโอกาสในการพบปะเจรจาการค้าของผู้ประกอบการค้าระหว่างกัน เป็นการสร้างความร่วมมือที่ดีระหว่างผู้ประกอบการค้า ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีผู้ประกอบการของพม่า ทั้งจากย่างกุ้ง มะริด ทะวาย และ เกาะสอง จำนวน 53 ราย ให้ความสนใจเข้าร่วมประชุมและพบปะเจรจาการค้าในครั้งนี้ด้วย

นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจหอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ และกรรมการสภาหอการค้าไทย กล่าวว่า รัฐบาลควรทุ่มงบประมาณในการก่อสร้างระบบรางการขนส่งสินค้าระหว่างจังหวัดชุมพรมายังจังหวัดระนอง และจากอำเภอเด่นชัย จ.แพร่ ไปยัง จ.เชียงราย หากทำได้ก็จะทำให้มีการเชื่อมโยงระบบการขนส่งระหว่างกลุ่มประเทศบิมสเทค (BIMSTEC) ในแถบเอเชียใต้ 7 ประเทศ กับกลุ่มอนุภาคลุ่มน้ำโขง หรือ GMS 6 ประเทศ

ไทยเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าระหว่างกัน โดยจะมีการเชื่อมกับถนนสาย R3A ไปสู่ประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนในการขนส่งและกระจายสินค้าได้มาก เนื่องจากจังหวัดระนองมีท่าเรือที่สามารถขนส่งไปยังกลุ่มประเทศบิมสเทคได้อย่างรวดเร็ว จะเกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยเป้นอย่างมาก ซึ่งทางหอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือต้องร่วมกับจังหวัดระนองในการผลักดันโครงการดังกล่าวให้ได้

นางสาวบุณิกา แจ่มใส ผู้อำนวยการส่วนเอเชียใต้ สำนักเอเชีย กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนักธุรกิจต้องเลิกพึ่งตลาดหลัก อย่างสหรัฐอเมริกา
และญี่ปุ่น ต้องหันมามองตลาดอินเดียและจีน เป็นหลัก โดยเฉพาะอินเดียเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากจีน เป็นมหาอำนาจใหม่ทางเศรษฐกิจในเอเชีย มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ 11% และเป็นจุดเชื่อมโยงไปสู่ BIMSTEC/เอเชียใต้

ปัจจุบันรัฐบาลไทยกับอินเดีย มีการเปิดเสรีการค้าในกลุ่มสินค้าต่างๆ แล้ว 82 รายการ โดยการทุบกำแพงภาษีจาก 40% เหลือ 0% ส่งผลให้มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า จึงเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการชาวไทยที่จะส่งสินค้าต่างๆ ไปยังอินเดีย ซึ่งหากส่งผ่านท่าเรือระนองจะใช้เวลาเพียง 4 วันเท่านั้น จากเดิมที่ต้องใช้เวลาถึง 14 วัน
กำลังโหลดความคิดเห็น