ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เตรียมชง “มาร์ค” 7 ต.ค.นี้ ไฟเขียวตั้งสำนักงานดูแลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ (ครีเอทีฟ อีโคโนมี่ ไทยแลนด์) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ โดยภายในสำนักงานจะมีการโอนย้ายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงต่างๆ ทั้งจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาร่วมทำงาน
“การจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ เป็นไปตามพันธสัญญาที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ โดยจะต้องจัดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน แต่เราเห็นว่าภายใน 3 เดือนน่าจะทำให้แล้วเสร็จ เพื่อให้สำนักงานฯ ได้เข้ามาดูแลและผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับประเทศไทยในอนาคตและเป็นแรงผลักดันทางเศรษฐกิจที่สำคัญ”นายอลงกรณ์กล่าว
สำหรับในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ จะมีการโอนงานของกรมทรัพย์สินทางปัญญาบางส่วนเข้าไปอยู่ในสำนักงานฯ รวมถึงกำลังพิจารณางานในส่วนที่เกี่ยวข้อง อื่นๆ ของกระทรวงพาณิชย์ด้วย
นายอลงกรณ์กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณากลั่นกรอง หลังจากที่คณะอนุกรรมการบริหารนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้กำหนดกรอบและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาออกมาแล้ว กล่าวคือ จะต้องเป็นโครงการที่สนับสนุนพันธสัญญาของรัฐบาล 12 ข้อที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาต้องเป็นโครงการที่สร้างรากฐานให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์มีความเข้มแข็ง สามารถสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ กระตุ้นการจ้างงาน สนับสนุนการลงทุน และช่วย กระจายรายได้ไปสู่ภูมิภาค และต้องเป็นโครงการที่พร้อมดำเนินงานและเบิกจ่ายเงินลงทุนได้ในปีงบประมาณ 2553
ปัจจุบันหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเปิดตัวโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนและมูลนิธี ได้เสนอโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 113 โครงการ วงเงิน 36,102 ล้านบาท แยกเป็นโครงการที่เสนอโดยภาคเอกชน 49 โครงการ วงเงิน 7,995 ล้านบาท เสนอโดยหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ 40 โครงการ วงเงิน 28,107 ล้านบาท
สำหรับโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นโครงการที่อยู่ภายใต้โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และรัฐบาลได้อนุมัติวงเงินงบประมาณจำนวน 2 หมื่นล้านบาท สนับสนุนการจัดทำโครงการ และที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้วประมาณ 3 พันล้านบาท ยังคงเหลือวงเงินอีกประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท และล่าสุดกำลังจะมีการเสนอให้จัดตั้งสำนักงานฯขึ้นมาดูแลและพิจารณาโครงการต่างๆ โดยเฉพาะ รวมทั้งจะมีการเสนอของบประมาณ เพื่อนำมาใช้ในการจัดตั้งสำนักงานฯ และบริหารงานด้วย
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ (ครีเอทีฟ อีโคโนมี่ ไทยแลนด์) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ โดยภายในสำนักงานจะมีการโอนย้ายงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงต่างๆ ทั้งจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาร่วมทำงาน
“การจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งชาติ เป็นไปตามพันธสัญญาที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ โดยจะต้องจัดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน แต่เราเห็นว่าภายใน 3 เดือนน่าจะทำให้แล้วเสร็จ เพื่อให้สำนักงานฯ ได้เข้ามาดูแลและผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับประเทศไทยในอนาคตและเป็นแรงผลักดันทางเศรษฐกิจที่สำคัญ”นายอลงกรณ์กล่าว
สำหรับในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ จะมีการโอนงานของกรมทรัพย์สินทางปัญญาบางส่วนเข้าไปอยู่ในสำนักงานฯ รวมถึงกำลังพิจารณางานในส่วนที่เกี่ยวข้อง อื่นๆ ของกระทรวงพาณิชย์ด้วย
นายอลงกรณ์กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณากลั่นกรอง หลังจากที่คณะอนุกรรมการบริหารนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้กำหนดกรอบและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาออกมาแล้ว กล่าวคือ จะต้องเป็นโครงการที่สนับสนุนพันธสัญญาของรัฐบาล 12 ข้อที่ได้ประกาศไว้เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมาต้องเป็นโครงการที่สร้างรากฐานให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์มีความเข้มแข็ง สามารถสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ กระตุ้นการจ้างงาน สนับสนุนการลงทุน และช่วย กระจายรายได้ไปสู่ภูมิภาค และต้องเป็นโครงการที่พร้อมดำเนินงานและเบิกจ่ายเงินลงทุนได้ในปีงบประมาณ 2553
ปัจจุบันหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้มีการเปิดตัวโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนและมูลนิธี ได้เสนอโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 113 โครงการ วงเงิน 36,102 ล้านบาท แยกเป็นโครงการที่เสนอโดยภาคเอกชน 49 โครงการ วงเงิน 7,995 ล้านบาท เสนอโดยหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ 40 โครงการ วงเงิน 28,107 ล้านบาท
สำหรับโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นโครงการที่อยู่ภายใต้โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และรัฐบาลได้อนุมัติวงเงินงบประมาณจำนวน 2 หมื่นล้านบาท สนับสนุนการจัดทำโครงการ และที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้วประมาณ 3 พันล้านบาท ยังคงเหลือวงเงินอีกประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท และล่าสุดกำลังจะมีการเสนอให้จัดตั้งสำนักงานฯขึ้นมาดูแลและพิจารณาโครงการต่างๆ โดยเฉพาะ รวมทั้งจะมีการเสนอของบประมาณ เพื่อนำมาใช้ในการจัดตั้งสำนักงานฯ และบริหารงานด้วย
