xs
xsm
sm
md
lg

คุก2ปีคดีหวย"วราเทพ-สมใจนึก-ชัยวัฒน์"รอลงอาญา-พร้อมโทษปรับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลฎีกานักการเมืองพิพากษา ยกฟ้อง ครม.ไม่ผิดอนุมัติหวยบนดิน แต่หวยออกที่ “วราเทพ อดีต รมช.คลัง – สมใจนึก อดีตปลังคลัง – ชัยวัฒต์ อดีต ผอ.กองสลาก” เจอคุกคนละ 2 ปี พร้อมโทษปรับ แต่ศาลปรานีให้รอลงอาญาคนละ 2 ปี ทนาย ป.ป.ช.พอใจคำพิพากษา " วราเทพ "ยันทำตามหน้าที่

วานนี้(30 ก.ย.)ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง สนามหลวง เวลา 15.45 น. นายสบโชค สุขารมณ์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีทุจริตโครงการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว (หวยบนดิน) พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขคดีดำที่ อม.1/2551 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) เป็น โจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ( ศาลสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราวเนื่องจากหนีคดี ) จำเลยที่ 1 , คณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 2- 30 และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมเป็นจำเลยที่ 31-47 ในความผิดฐาน ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ หรือจัดการทรัพย์ ได้เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต ( ยักยอกทรัพย์ ) ,
ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการดูแลกิจการ เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น , ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จ่ายทรัพย์เกินกว่าที่ควรจ่ายเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น , ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่แสดงว่ามีหน้าที่เรียกเก็บหรือตรวจสอบภาษีอากร โดยทุจริตเรียกเก็บหรือละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากร
และผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147,152,153,154 ,157 ประกอบมาตรา 83,84,86,90,91 และ ความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2502 มาตา 3,4,8,910 ,11 กรณีที่ร่วมกันมีมติ คณะรัฐมนตรี ( ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 46 ให้ดำเนินการออกสลากหวยบนดินตั้งแต่งวดวันที่ 1 ส.ค.46 – พ.ย.49

โดย ป.ป.ช.ขอให้ศาล ฯพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 47 คน ตามกฎหมาย พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหมด ร่วมกันคืน หรือใช้ทรัพย์ที่จำเลยทั้งหมดร่วมกันมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินซึ่งเป็นเงินรายได้จากการออกสลากของสำนักงานสลาก ฯที่เป็นผู้เสียหาย รวมจำนวน 14,862,254,865.94 บาท และขอให้นับโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ต่อจากคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกคดีหมายเลขดำที่
อม.1/2550 ของศาลด้วย

**ออกหมายจับ 4 จำเลย**

ขณะที่ นายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ,ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ์ อดีต รมว.คลัง ,พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา

พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 31, 33, 35,37,41 และ 42 ในฐานะบอร์ดกองสลากที่ร่วมกันมีมติเสนอโครงการหวยบนดิน เพื่อนำเงินรายได้คืนสู่สังคม และงดเว้นการจัดเก็บภาษีผิด พ.ร.บ.กองสลากมาตรา 5 และมาตรา 9 หรือไม่ เห็นว่า กองสลากจัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการหารายได้เข้ารัฐโดยการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล
มีแนวทางการปฏิบัติจัดสรรรางวัลอย่างชัดเจน เงินที่ได้รับร้อยละ 60 นำไปจ่ายค่ารางวัล ร้อยละ 28 เป็นรายได้เข้าแผ่นดิน ร้อยละ 12 เป็นค่าใช้จ่ายการบริหารงาน ส่วนการออกโครงการหวยบนดินไม่ได้กำหนดอัตราส่วนรายรับรายจ่ายที่ชัดเจน แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นการออกสลากกินแบ่งลักษณะพิเศษเพื่อจะนำเงินไปใช้ในสาธารณประโยชน์
แต่ปรากฏว่าการออกสลากลักษณะพิเศษดังกล่าวไม่ได้จำกัดงวด ตามแนวทางที่กองสลากเคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2-3 ตัวดังกล่าว ไม่ใช่สลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากการกุศล ตามที่ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 กำหนดไว้

**นำเงินหวยใช้สอยตามอำเภอใจ**

ดังนั้นการออกสลากพิเศษเลขท้ายดังกล่าวจึงไม่ใช่สลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไม่มีความเสี่ยงขาดทุน โดยในการออกสลากบนดินดังกล่าวพบว่า มีวิธีการเล่นและจ่ายเงินรางวัลต่างกันกับแนวทางสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการกระจายความเสี่ยงและยังกำหนดจ่ายรางวัลแน่นอน แต่หวยบนดิน จ่ายรางวัลให้ผู้ถูกสลากทุกคนที่ถูกหมายเลข 2 และ3 ตัวโดยไม่กำหนดวงเงินที่รับแทง
ทำให้กองสลาก ต้องขาดทุนรวม 7 งวด จากการออกสลากทั้งสิ้น 80 งวด เป็นเงิน 1,600 ล้านบาทเศษ จึงไม่อาจได้รับการงดเว้นการลดหย่อนภาษีตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการงดเว้นประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2540 และกฎะทรวงปี 2503 และ 2543 ขณะที่ศาลยังเห็นว่า การไม่นำเงินรายได้จากการออกสลากหลังจากหักค่าใช้จ่าย เข้ากระทรวงการคลังก็ถือว่าไม่ถูกต้อง
ซึ่งแม้ว่าเงินดังกล่าวจะได้มาจากการออกสลากที่ไม่ถูกต้องแต่ก็ไม่สามารถนำไปใช้สอยได้ตามอำเภอใจที่ถือว่าผิดหลักการบริหารประเทศไทย

**"ทักษิณ"สั่งเร่งรัดดำเนินการ**

ส่วนจำเลยที่ 2 -30 ซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีมีความผิดฐานร่วมกันมีมติให้ดำเนินโครงการออกสลากพิเศษ 3-2 ตัว ตามที่ จำเลยที่ 31, 33, 35, 37, 41 และ 42 ซึ่งเป็นบอร์ดกองสลากเสนออนุมัติ และเป็นผู้ใช้ให้งดเว้นการจัดเก็บภาษีและการออกสลากหรือไม่ ศาลเห็นว่า จำเลยที่ 31, 33, 35, 37, 41 และ 42 ได้มีมติเสนอโครงการโดยบอร์ดประชุมการออกสลากเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2545 ซึ่งนายสมใจนึก เองตระกูล
ปลัดกระทรวงการคลังและประธานบอร์ด จำเลยที่ 31 และนายชัยวัฒน์ จำเลยที่ 42 ผอ.กองสลาก นำมติเสนอต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ก็ให้เร่งดำเนินการ ซึ่งต่อมากองสลากได้ทำวิจัยการศึกษาการออกสลาก ต่อมาเมื่อปี 2546 รัฐบาลมีนโยบายปรามปรามผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด และหวยใต้ดิน จำเลยที่ 1 จึงสั่งให้กองสลากดำเนินการออกหวย 2 และ 3 ตัว และได้มีการเชิญนายวราเทพ
รัตนากร จำเลยที่ 10 และนายสมใจนึก จำเลยที่ 31 และนายชัยวัฒน์ จำเลยที่ 42 ไปหารือการออกสลากนำเงินคืนสังคม จากนั้น 31, 33, 35, 37, 41 และ 42 จึงประชุมและอนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2546 โดย รมว.คลัง จำเลยที่ 9 เซ็นต์ชื่อเสนอโครงการ อ้างนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติดและหวยใต้ดินมอบหมายให้จำเลยที่ 10 นำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยไม่ผ่าน เลขาธิการครม.
และรองนายกรัฐมนตรี กลั่นกรอง เสนอจำเลยที่ 1 เข้าที่ประชุม ครม.เป็นวาระพิเศษ โดยที่ ครม.ไม่น่าจะทราบรายละเอีดยดทั้งหมด เพียงพิจารณาจากเอกสารและฟังคำชี้แจ้งจากผู้แทน ก.คลังและกองสลาก จึงอนุมัติหลักการโดยเข้าใจว่าเป็นโครงการที่ถูกต้อง จนมีการออกสลากตั้งแต่งวดวันที่ 1 สิงหาคม 25461- 16 พฤศจิกายน 2549

**ไม่สนคำท้วงติงหวยผิดกฎหมาย**

ศาลเห็นว่าจำเลยที่ 31 และ 42 ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงกองสลาก ย่อมต้องทราบวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองสลาก เจตนารมณ์กฎหมายในการออกสลาก ซึ่งแม้จำเลยจะอ้างว่าออกสลากตามนโยบายฝ่ายบริหารในการปราบปรามยาเสพติดและหวยใต้ดิน แต่ก็ควรที่จะต้องคำนึงว่าทั้งโครงการออกสลากและนโยบายฝ่ายบริหารที่จะนำมาปฎิบัติ จะต้องอยู่ภายใต้บังคับกฎหมาย
ซึ่งควรที่จะต้องทักท้วง จำเลยที่ 1 เมื่อเห็นว่าโครงการไม่ถูกต้อง ต้องมีการแก้ไขกฎหมาย ข้อเท็จจริงยังปรากฏว่า นายคำนวณ ชโลปถัมส์ ประธานกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนวุฒิสภา ได้ทำความเห็นท้วงติงในประเด็นข้อกฎหมายซึ่งเห็นว่าต้องแก้ไขแนวทางการออกสลากไม่ให้ฝ่าผืนกฎหมาย หรือแก้ไขกฎหมายรองรับโครงการ แต่จำเลยที่ 31 และ 42
กลับไม่ดำเนินการให้ถูกต้องเสียก่อน แต่ยังฝืนเสนอให้มีการออกสลาก และทำข้อตกลงกับธนาคารออมสินขอเบิกเงินเกินบัญชีจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ทำให้เห็นว่าจำเลยย่อมรู้อยู่แล้วว่าการออกสลากอาจมีปัญหา ซึ่งการกระทำของจำเลยทำให้เกิดความซุ่มเสี่ยงที่รัฐจะเสียหายในระบบการคลัง จึงเป็นการทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ดังนั้นจำเลยที่ 10, 31 และ 42
จึงมีความผิดตาม ป.อาญา ม. 157 ประกอบมาตรา 83 และ 86 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานองค์กรรัฐ ฯ พ.ศ.2502 มาตรา 11

ดังนั้นจึงเห็นว่าจำเลยที่ 2 – 30 อนุมัติเห็นชอบโครงการในหลักการไม่ใช่ผู้ใช้ให้จำเลยที่ 31 และ 42 ดำเนินการออกสลากและละเว้นไม่เสียภาษีอากรไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับจำเลยที่ 10,31 และ 42 จึงไม่ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2-30 อยู่ในที่ประชุม ครม. อีกหรือไม่ ส่วนจำเลยที่ 32 , 34, 36, 38, 39 40 และ43-47 ที่เป็นผู้แทนหน่วยงานรัฐ เข้ามาเป็นกรรมการกองสลาก
ก็ไม่ได้เป็นบอร์ดกองสลากมาตั้งแต่ต้น โดยเข้าใจว่าการอนุมัติออกสลากน่าจะชอบด้วยกฎหมายเพราะผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอนุมัติเงินรายได้ใช้จ่ายเพื่อเด็กยากจน ตามวัตถุประสงค์ ไม่มีเจตนายักยอกเงิน องค์คณะมีมติเสียงข้างมาก ว่า การที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ ฯ อนุมัติเงินรายได้หวยบนดินตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 46 ถึง 17 พฤศจิกายน 47 ไม่ผิดป.อาญา
มาตรา 147

**ไม่ผิดยักยอกทรัพย์ไม่ต้องคืนเงิน**

ส่วนที่โจทก์ขอให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินอนุมัติรายได้ไปใช้ในโครงการสาธารณประโยชน์คืนสังคม ศาลเห็นว่า เมื่อจำเลยที่ 10 เสนอโครงการตามที่จำเลยที่ 31 และ 42 เสนอมา ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการอนุมัตินำเงินไปใช้จ่ายโครงการต่างๆ ทั้งเรื่องการศึกษา สาธารณะสุข ศาสนา และด้านสังคมอื่นๆ
โดยไม่หลักฐานปรากฎว่าจำเลยทั้งสามนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือประโยชน์แก่พวกพ้องแต่อย่างใด จึงไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์หรือเบียดบังทรัยพ์สิน ดังนั้นจำเลยทั้งสามจึงไม่ต้องร่วมกันคืนเงินตามคำร้องโจทก์

**"วราเทพ-สมใจนึก-ไชยวัฒน์"ผิด**

พิพากษาว่า นายวราเทพ รมช.คลัง จำเลยที่ 10 นายสมใจนึก ปลัด ก.คลังและประธานบอร์ดกองสลากฯ มีความผิดตามป.อาญา ม.157 และ 83 ให้จำคุก นายวราเทพ จำเลยที่ 10 เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 20,000 บาท ให้จำคุกนายสมใจนึก จำเลยที่ 31 เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 10,000 บาท ส่วนนายไชยวัฒน์ ผอ.กองสลาก จำเลยที่ 42 กระทำผิด ป.อาญา 157 และ 86 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐฯ ม.11
เป็นความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดฯ อันเป็นบทหนักสุดตาม ป.อาญา ม.90 ลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 10,000 บาท แต่จำเลยทั้งสามไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน ประกอบกับพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นสมควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสามไว้คนละ 2 ปี

ส่วนนายอดิศัย รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 21, ร.อ.สุชาติ รมว.คลัง จำเลยที่ 9 ,พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ ผอ.กองสลาก จำเลยที่ 43 และนายสมใจนึก ปลัด ก .คลังจำเลยที่ 31 ที่ไม่มาฟังคำพิพากษา ให้ออกหมายจับมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 18 พฤศจิกายน นี้ และให้ปรับนายประกันจำเลยในส่วนที่เป็นรัฐมนตรีคนละ 2 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่เป็นเจ้าหน้าที่กองสลากปรับ 5 แสนบาท

**ทนาย ป.ป.ช.พอใจคำพิพากษา**

ภายหลังนายสิทธิโชค ศรีเจริญ ทนาย ป.ป.ช.ผู้รับผิดชอบคดี กล่าวว่าพอใจกับคำพิพากษา แม้จะเอาผิดจำเลยไม่ได้ครบทุกคน โดยศาลมองที่เจตนาการนำเสนอโครงการอย่างเร่งด่วนผิดปกติส่วน ครม. ศาลเห็นว่าบางคนก็เข้าใจและไม่เข้าใจบ้างในโครงการ วึ่งการมีมติอนุฒัติโครงการขาดเจตนาพิเศษ โดยตนเห็นว่าเป็นคำพิพากษาที่ดีที่จะเป็นบรรทัดฐาน
ส่วนที่ไม่สามารถเรียกร้องเงินที่อนุมัติไปแล้สกลับคืนมาได้ ศาลก็มองว่าจำเลยไม่ได้ทำผิดยักยอกทรัพย์ จึงไม่ต้องร่วมรับผิดในการคืนเงินในส่วนเป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง แต่หากจะมองเฉพาะเรื่องความรับผิดทางะลเมิดในคดีแพ่ง จะฟ้องคดีอีกภายหลังได้หรือไม่ เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.จะพิจารณา

“ส่วนคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้ศาลยังไม่ได้วินิจฉัย ดังนั้นจะอาศัยประโยชน์ที่ศาลพิพากษายกฟ้อง ครม.ไปไม่ได้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาก็จะต้องนำคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่เฉพาะส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ก่อนหน้านี้ศาลสั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว” นายสิทธิโชค กล่าวย้ำ

**"วราเทพ"เครียดยันทำตามหน้าที่**

ด้านนายวราเทพ ซึ่งศาลพิพากษาจำคุกนั้น กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า ตนเองเคารพคำตัดสินของศาล แต่ยืนยันว่าสิ่งที่ทำไปเป็นการทำหน้าที่ตามที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาสังคมโดยเฉพาะเรื่องผู้มีอิทธิพล คนที่ทำผิดกฎหมาย และเจ้ามืองหวยบนดินซึ่งเป็นปัญหาที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีรัฐบาลไหนดำเนินการมาก่อน และผลจากดำเนินการดังกล่าวก็เห็นเป็นรูปธรรม
จึงชัดเจนว่าปัญหาผู้มีอิทธิพล หวยใต้ดิน และการให้ส่วยเจ้าหน้าที่ของรัฐลดลงไป อีกทั้งยังสามารถนำรายได้หวยบนดินกลับมาคืนสู่สังคม

นายวราเทพ กล่าวอีกว่า ระบบคำพิพากษาของศาลเห็นว่า หวยบนดินผิดแค่ข้อกฎหมาย ที่ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องขณะนั้นมองต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ดีต้องเคารพความเห็นศาล และต่อไปน่าจะมีการแก้ไขเรื่องนี้ให้ถูกต้อง

“ส่วนตัวไม่รู้สึกเสียดายที่ถูกตัดสินว่าดำเนินการนี้ขึ้นมา เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม และเยาวชนไทย อีกทั้งยังแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล และหวยใต้ดินได้ แต่ติดเพียงปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการแสวงหาประโยชน์เพื่อบุคคลใด ” นายนวราเทพ

**พิพากษา 3 ชม.จำเลยลุ้นระทึก**

ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับคดีนี้ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานถึง 3 ชั่วโมงเศษ โดยช่วงแรกที่ศาลวินิจฉัยว่า การออกสลากไม่ชอบ บรรดาจำเลยถึงนั่งอยู่ในห้องพิจารณาถึงนิ่งเงียบไป ส่วนจำเลยบางคนที่ลุกออกไปทำธุระส่วนตัวนอกห้องพิจารณา ก็รีบเข้ามานั่งประจำที่ฟังคำพิพากษาอย่างตั้งใจ โดบบางคนกระซิบบอกผู้สื่อข่าวว่า “จำเลยผิดทุกประเด็น ”
แต่เมื่อถึงช่วงที่ศาลวินิจฉัยว่า ครม. ดำเนินการตามหลักการ และเจ้าหน้าที่รัฐองค์กรต่างๆ ที่มาเป็นบอร์ดกองสลากไม่ทราบข้อเท็จจริง กลุ่มจำเลยก็ส่งเสียงฮือฮา พร้อมทั้งพึมพาว่า ครม.รอด และมีการจับมืออย่างยิ้มแย้ม

ขณะที่เมื่อฟังคำพิพากษาแล้ว กลุ่มนักการเมือง เดินออกมาจากห้องพิจารณาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีใครเข้ามาปลอบใจนายวราเทพ คงมีประชาชนบางส่วนที่นำช่อดอกไม้มามอบให้เป็นกำลังใจ

ส่วนบรรยายกาศที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทางศาลได้ประสานไปยังตำรวจจาก บก.น.1 จัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งตำรวจชุดปะฉะดะ จำนวน 50 นาย กระจายกำลังดูแลโดยรอบทุกประตูทางเข้าออกของศาลฏีกา โดยปรากฏว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 10 คน มายืนรออยู่ทางเข้าศาลฏีกา พร้อมกับถือป้ายให้กำลังใจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
โดยป้ายข้อความระบุว่า เงินจากหวยบนดินเป็นทุนการศึกษาให้ลูกหลาน
กำลังโหลดความคิดเห็น