xs
xsm
sm
md
lg

จำเลยหวยบนดินรอดคุก-รอลงอาญา ปรับแค่ 2 หมื่น!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ และ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผู้ว่าฯกองสลาก
ครม.ทักษิณ 1 จำเลยหวยบนดินมาพร้อมหน้า เข้าฟังคำพิพากษา ขาด “อดิศัย-สุรสิทธิ์” ตร.วางกำลังเข้มดูแลความปลอดภัย เสื้อแดงหยิบมือโผล่ให้กำลังใจ “คุณหญิงหน่อย” โดยศาลได้อ่านคำพิพากษาแล้ว ชี้ว่า มติ ครม.ที่ให้มีการออกหวยบนดินขัดต่อ พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล "วราเทพ-สมใจนึก-ชัยวัฒน์"ผิด ม.157 โทษจำคุกคนละ 2 ปี ปรับคนละ 1-2 หมื่นบาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ก่อน



วันนี้(30 ก.ย.)ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง สนามหลวง เวลา 15.45 น. นายสบโชค สุขารมณ์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีทุจริตโครงการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว (หวยบนดิน) พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขคดีดำที่ อม.1/2551 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) เป็น โจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ( ศาลสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราวเนื่องจากหนีคดี ) จำเลยที่ 1 , คณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 2- 30 และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมเป็นจำเลยที่ 31-47 ในความผิดฐาน ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ หรือจัดการทรัพย์ ได้เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต ( ยักยอกทรัพย์ ) , ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการดูแลกิจการ เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น , ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จ่ายทรัพย์เกินกว่าที่ควรจ่ายเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น , ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่แสดงว่ามีหน้าที่เรียกเก็บหรือตรวจสอบภาษีอากร โดยทุจริตเรียกเก็บหรือละเว้นไม่เรียกเก็บภาษีอากร และผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147,152,153,154 ,157 ประกอบมาตรา 83,84,86,90,91 และ ความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2502 มาตา 3,4,8,910 ,11 กรณีที่ร่วมกันมีมติ คณะรัฐมนตรี ( ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 46 ให้ดำเนินการออกสลากหวยบนดินตั้งแต่งวดวันที่ 1 ส.ค.46 – พ.ย.49

โดย ป.ป.ช.ขอให้ศาล ฯพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 47 คน ตามกฎหมาย พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหมด ร่วมกันคืน หรือใช้ทรัพย์ที่จำเลยทั้งหมดร่วมกันมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินซึ่งเป็นเงินรายได้จากการออกสลากของสำนักงานสลาก ฯที่เป็นผู้เสียหาย รวมจำนวน 14,862,254,865.94 บาท และขอให้นับโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 ต่อจากคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกคดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 ของศาลด้วย

**ออกหมายจับ 4 จำเลย**

ขณะที่ นายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์ ,ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ์ อดีต รมว.คลัง ,พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และนายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา

พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 31, 33, 35,37,41 และ 42 ในฐานะบอร์ดกองสลากที่ร่วมกันมีมติเสนอโครงการหวยบนดิน เพื่อนำเงินรายได้คืนสู่สังคม และงดเว้นการจัดเก็บภาษีผิด พ.ร.บ.กองสลากมาตรา 5 และมาตรา 9 หรือไม่ เห็นว่า กองสลากจัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการหารายได้เข้ารัฐโดยการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล มีแนวทางการปฏิบัติจัดสรรรางวัลอย่างชัดเจน เงินที่ได้รับร้อยละ 60 นำไปจ่ายค่ารางวัล ร้อยละ 28 เป็นรายได้เข้าแผ่นดิน ร้อยละ 12 เป็นค่าใช้จ่ายการบริหารงาน ส่วนการออกโครงการหวยบนดินไม่ได้กำหนดอัตราส่วนรายรับรายจ่ายที่ชัดเจน แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นการออกสลากกินแบ่งลักษณะพิเศษเพื่อจะนำเงินไปใช้ในสาธารณประโยชน์ แต่ปรากฏว่าการออกสลากลักษณะพิเศษดังกล่าวไม่ได้จำกัดงวด ตามแนวทางที่กองสลากเคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2-3 ตัวดังกล่าว ไม่ใช่สลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากการกุศล ตามที่ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 กำหนดไว้

**นำเงินหวยใช้สอยตามอำเภอใจ**

ดังนั้นการออกสลากพิเศษเลขท้ายดังกล่าวจึงไม่ใช่สลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไม่มีความเสี่ยงขาดทุน โดยในการออกสลากบนดินดังกล่าวพบว่า มีวิธีการเล่นและจ่ายเงินรางวัลต่างกันกับแนวทางสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการกระจายความเสี่ยงและยังกำหนดจ่ายรางวัลแน่นอน แต่หวยบนดิน จ่ายรางวัลให้ผู้ถูกสลากทุกคนที่ถูกหมายเลข 2 และ3 ตัวโดยไม่กำหนดวงเงินที่รับแทง ทำให้กองสลาก ต้องขาดทุนรวม 7 งวด จากการออกสลากทั้งสิ้น 80 งวด เป็นเงิน 1,600 ล้านบาทเศษ จึงไม่อาจได้รับการงดเว้นการลดหย่อนภาษีตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการงดเว้นประมวลรัษฎากร พ.ศ. 2540 และกฎะทรวงปี 2503 และ 2543 ขณะที่ศาลยังเห็นว่า การไม่นำเงินรายได้จากการออกสลากหลังจากหักค่าใช้จ่าย เข้ากระทรวงการคลังก็ถือว่าไม่ถูกต้อง ซึ่งแม้ว่าเงินดังกล่าวจะได้มาจากการออกสลากที่ไม่ถูกต้องแต่ก็ไม่สามารถนำไปใช้สอยได้ตามอำเภอใจที่ถือว่าผิดหลักการบริหารประเทศไทย

**"ทักษิณ"สั่งเร่งรัดดำเนินการ**

ส่วนจำเลยที่ 2 -30 ซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีมีความผิดฐานร่วมกันมีมติให้ดำเนินโครงการออกสลากพิเศษ 3-2 ตัว ตามที่ จำเลยที่ 31, 33, 35, 37, 41 และ 42 ซึ่งเป็นบอร์ดกองสลากเสนออนุมัติ และเป็นผู้ใช้ให้งดเว้นการจัดเก็บภาษีและการออกสลากหรือไม่ ศาลเห็นว่า จำเลยที่ 31, 33, 35, 37, 41 และ 42 ได้มีมติเสนอโครงการโดยบอร์ดประชุมการออกสลากเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2545 ซึ่งนายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลังและประธานบอร์ด จำเลยที่ 31 และนายไชยวัฒน์ จำเลยที่ 42 ผอ.กองสลาก นำมติเสนอต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ จำเลยที่ 1 นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ก็ให้เร่งดำเนินการ ซึ่งต่อมากองสลากได้ทำวิจัยการศึกษาการออกสลาก ต่อมาเมื่อปี 2546 รัฐบาลมีนโยบายปรามปรามผู้มีอิทธิพล ยาเสพติด และหวยใต้ดิน จำเลยที่ 1 จึงสั่งให้กองสลากดำเนินการออกหวย 2 และ 3 ตัว และได้มีการเชิญนายวราเทพ รัตนากร จำเลยที่ 10 และนายสมใจนึก จำเลยที่ 31 และนายไชยวัฒน์ จำเลยที่ 42 ไปหารือการออกสลากนำเงินคืนสังคม จากนั้น 31, 33, 35, 37, 41 และ 42 จึงประชุมและอนุมัติโครงการเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2546 โดย รมว.คลัง จำเลยที่ 9 เซ็นต์ชื่อเสนอโครงการ อ้างนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามยาเสพติดและหวยใต้ดินมอบหมายให้จำเลยที่ 10 นำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยไม่ผ่าน เลขาธิการครม. และรองนายกรัฐมนตรี กลั่นกรอง เสนอจำเลยที่ 1 เข้าที่ประชุม ครม.เป็นวาระพิเศษ โดยที่ ครม.ไม่น่าจะทราบรายละเอีดยดทั้งหมด เพียงพิจารณาจากเอกสารและฟังคำชี้แจ้งจากผู้แทน ก.คลังและกองสลาก จึงอนุมัติหลักการโดยเข้าใจว่าเป็นโครงการที่ถูกต้อง จนมีการออกสลากตั้งแต่งวดวันที่ 1 สิงหาคม 25461- 16 พฤศจิกายน 2549

**ไม่สนคำท้วงติงหวยผิดกฎหมาย**

ศาลเห็นว่าจำเลยที่ 31 และ 42 ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงกองสลาก ย่อมต้องทราบวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองสลาก เจตนารมณ์กฎหมายในการออกสลาก ซึ่งแม้จำเลยจะอ้างว่าออกสลากตามนโยบายฝ่ายบริหารในการปราบปรามยาเสพติดและหวยใต้ดิน แต่ก็ควรที่จะต้องคำนึงว่าทั้งโครงการออกสลากและนโยบายฝ่ายบริหารที่จะนำมาปฎิบัติ จะต้องอยู่ภายใต้บังคับกฎหมาย ซึ่งควรที่จะต้องทักท้วง จำเลยที่ 1 เมื่อเห็นว่าโครงการไม่ถูกต้อง ต้องมีการแก้ไขกฎหมาย ข้อเท็จจริงยังปรากฏว่า นายคำนวณ ชโลปถัมส์ ประธานกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนวุฒิสภา ได้ทำความเห็นท้วงติงในประเด็นข้อกฎหมายซึ่งเห็นว่าต้องแก้ไขแนวทางการออกสลากไม่ให้ฝ่าผืนกฎหมาย หรือแก้ไขกฎหมายรองรับโครงการ แต่จำเลยที่ 31 และ 42 กลับไม่ดำเนินการให้ถูกต้องเสียก่อน แต่ยังฝืนเสนอให้มีการออกสลาก และทำข้อตกลงกับธนาคารออมสินขอเบิกเงินเกินบัญชีจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ทำให้เห็นว่าจำเลยย่อมรู้อยู่แล้วว่าการออกสลากอาจมีปัญหา ซึ่งการกระทำของจำเลยทำให้เกิดความซุ่มเสี่ยงที่รัฐจะเสียหายในระบบการคลัง จึงเป็นการทุจริตเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ดังนั้นจำเลยที่ 10, 31 และ 42 จึงมีความผิดตาม ป.อาญา ม. 157 ประกอบมาตรา 83 และ 86 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานองค์กรรัฐ ฯ พ.ศ.2502 มาตรา 11

ดังนั้นจึงเห็นว่าจำเลยที่ 2 – 30 อนุมัติเห็นชอบโครงการในหลักการไม่ใช่ผู้ใช้ให้จำเลยที่ 31 และ 42 ดำเนินการออกสลากและละเว้นไม่เสียภาษีอากรไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับจำเลยที่ 10,31 และ 42 จึงไม่ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2-30 อยู่ในที่ประชุม ครม. อีกหรือไม่ ส่วนจำเลยที่ 32 , 34, 36, 38, 39 40 และ43-47 ที่เป็นผู้แทนหน่วยงานรัฐ เข้ามาเป็นกรรมการกองสลาก ก็ไม่ได้เป็นบอร์ดกองสลากมาตั้งแต่ต้น โดยเข้าใจว่าการอนุมัติออกสลากน่าจะชอบด้วยกฎหมายเพราะผ่านการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอนุมัติเงินรายได้ใช้จ่ายเพื่อเด็กยากจน ตามวัตถุประสงค์ ไม่มีเจตนายักยอกเงิน องค์คณะมีมติเสียงข้างมาก ว่า การที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ ฯ อนุมัติเงินรายได้หวยบนดินตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 46 ถึง 17 พฤศจิกายน 47 ไม่ผิดป.อาญา มาตรา 147

**ไม่ผิดยักยอกทรัพย์ไม่ต้องคืนเงิน**

ส่วนที่โจทก์ขอให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินอนุมัติรายได้ไปใช้ในโครงการสาธารณประโยชน์คืนสังคม ศาลเห็นว่า เมื่อจำเลยที่ 10 เสนอโครงการตามที่จำเลยที่ 31 และ 42 เสนอมา ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการอนุมัตินำเงินไปใช้จ่ายโครงการต่างๆ ทั้งเรื่องการศึกษา สาธารณะสุข ศาสนา และด้านสังคมอื่นๆ โดยไม่หลักฐานปรากฎว่าจำเลยทั้งสามนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือประโยชน์แก่พวกพ้องแต่อย่างใด จึงไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์หรือเบียดบังทรัยพ์สิน ดังนั้นจำเลยทั้งสามจึงไม่ต้องร่วมกันคืนเงินตามคำร้องโจทก์

**"วราเทพ-สมใจนึก-ชัยวัฒน์"ผิด**

พิพากษาว่า นายวราเทพ รมช.คลัง จำเลยที่ 10 นายสมใจนึก ปลัด ก.คลังและประธานบอร์ดกองสลากฯ มีความผิดตามป.อาญา ม.157 และ 83 ให้จำคุก นายวราเทพ จำเลยที่ 10 เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 20,000 บาท ให้จำคุกนายสมใจนึก จำเลยที่ 31 เป็นเวลา 2 ปี ปรับ 10,000 บาท ส่วนนายชัยวัฒน์ ผอ.กองสลาก จำเลยที่ 42 กระทำผิด ป.อาญา 157 และ 86 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐฯ ม.11 เป็นความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดฯ อันเป็นบทหนักสุดตาม ป.อาญา ม.90 ลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 10,000 บาท แต่จำเลยทั้งสามไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน ประกอบกับพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นสมควรให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสามไว้คนละ 2 ปี

ส่วนนายอดิศัย รมว.พาณิชย์ จำเลยที่ 21, ร.อ.สุชาติ รมว.คลัง จำเลยที่ 9 ,พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ ผอ.กองสลาก จำเลยที่ 43 และนายสมใจนึก ปลัด ก .คลังจำเลยที่ 31 ที่ไม่มาฟังคำพิพากษา ให้ออกหมายจับมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 18 พฤศจิกายน นี้ และให้ปรับนายประกันจำเลยในส่วนที่เป็นรัฐมนตรีคนละ 2 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่เป็นเจ้าหน้าที่กองสลากปรับ 5 แสนบาท

**ทนาย ป.ป.ช.พอใจคำพิพากษา**

ภายหลังนายสิทธิโชค ศรีเจริญ ทนาย ป.ป.ช.ผู้รับผิดชอบคดี กล่าวว่าพอใจกับคำพิพากษา แม้จะเอาผิดจำเลยไม่ได้ครบทุกคน โดยศาลมองที่เจตนาการนำเสนอโครงการอย่างเร่งด่วนผิดปกติส่วน ครม. ศาลเห็นว่าบางคนก็เข้าใจและไม่เข้าใจบ้างในโครงการ วึ่งการมีมติอนุฒัติโครงการขาดเจตนาพิเศษ โดยตนเห็นว่าเป็นคำพิพากษาที่ดีที่จะเป็นบรรทัดฐาน ส่วนที่ไม่สามารถเรียกร้องเงินที่อนุมัติไปแล้สกลับคืนมาได้ ศาลก็มองว่าจำเลยไม่ได้ทำผิดยักยอกทรัพย์ จึงไม่ต้องร่วมรับผิดในการคืนเงินในส่วนเป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง แต่หากจะมองเฉพาะเรื่องความรับผิดทางะลเมิดในคดีแพ่ง จะฟ้องคดีอีกภายหลังได้หรือไม่ เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.จะพิจารณา

“ส่วนคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้ศาลยังไม่ได้วินิจฉัย ดังนั้นจะอาศัยประโยชน์ที่ศาลพิพากษายกฟ้อง ครม.ไปไม่ได้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาก็จะต้องนำคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่เฉพาะส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ก่อนหน้านี้ศาลสั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว” นายสิทธิโชค กล่าวย้ำ

**"วราเทพ"เครียดยันทำตามหน้าที่**

ด้านนายวราเทพ ซึ่งศาลพิพากษาจำคุกนั้น กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า ตนเองเคารพคำตัดสินของศาล แต่ยืนยันว่าสิ่งที่ทำไปเป็นการทำหน้าที่ตามที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาสังคมโดยเฉพาะเรื่องผู้มีอิทธิพล คนที่ทำผิดกฎหมาย และเจ้ามืองหวยบนดินซึ่งเป็นปัญหาที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีรัฐบาลไหนดำเนินการมาก่อน และผลจากดำเนินการดังกล่าวก็เห็นเป็นรูปธรรม จึงชัดเจนว่าปัญหาผู้มีอิทธิพล หวยใต้ดิน และการให้ส่วยเจ้าหน้าที่ของรัฐลดลงไป อีกทั้งยังสามารถนำรายได้หวยบนดินกลับมาคืนสู่สังคม

นายวราเทพ กล่าวอีกว่า ระบบคำพิพากษาของศาลเห็นว่า หวยบนดินผิดแค่ข้อกฎหมาย ที่ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องขณะนั้นมองต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ดีต้องเคารพความเห็นศาล และต่อไปน่าจะมีการแก้ไขเรื่องนี้ให้ถูกต้อง

“ส่วนตัวไม่รู้สึกเสียดายที่ถูกตัดสินว่าดำเนินการนี้ขึ้นมา เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคม และเยาวชนไทย อีกทั้งยังแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล และหวยใต้ดินได้ แต่ติดเพียงปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้น ไม่มีการแสวงหาประโยชน์เพื่อบุคคลใด ” นายนวราเทพ

**พิพากษา 3 ชม.จำเลยลุ้นระทึก**

ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับคดีนี้ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานถึง 3 ชั่วโมงเศษ โดยช่วงแรกที่ศาลวินิจฉัยว่า การออกสลากไม่ชอบ บรรดาจำเลยถึงนั่งอยู่ในห้องพิจารณาถึงนิ่งเงียบไป ส่วนจำเลยบางคนที่ลุกออกไปทำธุระส่วนตัวนอกห้องพิจารณา ก็รีบเข้ามานั่งประจำที่ฟังคำพิพากษาอย่างตั้งใจ โดบบางคนกระซิบบอกผู้สื่อข่าวว่า “จำเลยผิดทุกประเด็น ” แต่เมื่อถึงช่วงที่ศาลวินิจฉัยว่า ครม. ดำเนินการตามหลักการ และเจ้าหน้าที่รัฐองค์กรต่างๆ ที่มาเป็นบอร์ดกองสลากไม่ทราบข้อเท็จจริง กลุ่มจำเลยก็ส่งเสียงฮือฮา พร้อมทั้งพึมพาว่า ครม.รอด และมีการจับมืออย่างยิ้มแย้ม

ขณะที่เมื่อฟังคำพิพากษาแล้ว กลุ่มนักการเมือง เดินออกมาจากห้องพิจารณาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีใครเข้ามาปลอบใจนายวราเทพ คงมีประชาชนบางส่วนที่นำช่อดอกไม้มามอบให้เป็นกำลังใจ

ส่วนบรรยายกาศที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทางศาลได้ประสานไปยังตำรวจจาก บก.น.1 จัดกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งตำรวจชุดปะฉะดะ จำนวน 50 นาย กระจายกำลังดูแลโดยรอบทุกประตูทางเข้าออกของศาลฏีกา โดยปรากฏว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 10 คน มายืนรออยู่ทางเข้าศาลฏีกา พร้อมกับถือป้ายให้กำลังใจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โดยป้ายข้อความระบุว่า เงินจากหวยบนดินเป็นทุนการศึกษาให้ลูกหลาน

สำหรับรายชื่อจำเลยในคดีหวยบนดิน ประกอบด้วย

1. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
2 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
3. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
4. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี
5. นายกรณ์ ทัพรังษี อดีตรองนายกรัฐมนตรี
6. ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
7. นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี
8. พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกรู ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม
9. ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ์ อดีต รมว.กระทรวงการคลัง
10. นายวราเทพ รัตนากรณ์ อดีต รมช.กระทรวงคลัง
11. นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
12. นายอนุรักษ์ จุรีมาศ อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
13. นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีตรมว.เกษตรฯ
14. นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรฯ
15. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.คมนาคม
16 นายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีต รมช.คมนาคม
17. นายนิกร จำนงค์ อดีต รมช.คมนาคม
18. นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
19. นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.ไอซีที
20. นายพรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช อดีต รมว.พลังงาน
21. นายอดิศัย โพธารามิก อดีต รมว.พาณิชย์
22. นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมช.พาณิชย์
23. นายวันมูหะหมัดหนอ มะทา อดีต รมว.มหาดไทย
24. นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีต รมว.ยุติธรรม
25. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรมว. แรงงาน
26. นางอุไรวรรณ เทียนทอง อดีตรมว.วัฒนธรรม
27. นายพินิจ จารุสมบัติ อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
28. นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีต รมว.สาธารณสุข
29. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีต รมช.สาธารณสุข
30. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.อุตสาหกรรม
31. นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล
32. นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง
33. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ในฐานะตัวแทนกระทรวงมหาดไทย
34. นายพรชัย นุสุวรรณ ในฐานะผู้แทนสำนักงบประมาณ
35. นางสาวสุรีพร ดวงโต ในฐานะผู้แทนกรมบัญชีกลาง
36. นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ในฐานะผู้แทนสำนักงบประมาณ
37. พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์
38. นายกำธร ตติยกวี
39. นางสตรี ประทีปปะเสน ฐานะผู้แทนสำนักงบประมาณ
40. นายชัยเลิศ ดิษฐอำนาจ ฐานะผู้แทนกระทรวงมหาดไทย
41.นายรัถวัช อินทุภูมิ ฐานะผู้แทนสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย
42. นายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีต ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
43. พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
44. นายอำนวยศักดิ์ พูลศิริ
45.พล.ต.ท.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
46. นายบัณฑรู สุภัควณิช ฐานะผู้แทนสำนักงบประมาณ
47. นางอรนงค์ มณีกาญจน์ ฐานะผู้แทนกรมบัญชีกลาง
ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีต รมว.มหาดไทย 1 ในจำเลยที่หลุกคดี รับดอกไม้ให้กำลังใจจากคนเสื้อแดง
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต รมว.สาธารณสุข อีก 1 จำเลยที่หลุดคดี
บรรยากาศระหว่างอ่านคำพิพากษา

นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลังผู้เสนอโครงการ รับโทษหนักสุด จำคุก 2 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท แต่โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ก่อน

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ตกเป็นจำเลยในฐานะอดีต รมช.มหาดไทย มาฟังคำพิพากษาพร้อมกับนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ภรรยา
กำลังโหลดความคิดเห็น