xs
xsm
sm
md
lg

แก่นแท้ของชาวพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

ประเทศไทยถึงจุดเปลี่ยน ทั้งด้วยเหตุปัจจัยทางภววิสัยและทางอัตวิสัย

ทางภววิสัย หลักๆ ก็คือลักษณะแห่งยุคสมัยที่มวลมนุษย์ดำรงอยู่ ปัจจุบันก็คือยุคโลกาภิวัตน์ ที่เน้นสันติภาพและการพัฒนา ให้ความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ในระดับปัจเจกชน คุณค่าของความเป็นคน ผลสุดท้ายแห่งสันติภาพและการพัฒนาจะวัดค่ากันที่คน ว่าดำรงอยู่ได้ดีแค่ไหนทั้งทางด้านวัตถุและจิตใจ คือตัววัดถึงความสำเร็จของการพัฒนาประเทศและระดับอารยะของประเทศหนึ่งๆ ซึ่งต่างจากยุคสงครามเย็นที่เน้นความสำคัญไปยังระบบสังคมและระบอบการปกครอง ประชันกันว่าใครดีกว่าใครในระหว่างทุนนิยมกับสังคมนิยม

โลกวันนี้ เราจึงเห็นประเทศต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศ ประชาชนอยู่ดีมีสุข สังคมร่มเย็น ได้รับเสียงสรรเสริญเยินยอไปทั่ว และกลายเป็นแบบอย่างของการพัฒนาประเทศ โดยไม่มีเส้นแบ่งชัดเจนว่าเป็นแบบทุนนิยมหรือสังคมนิยม

โดยภาพรวม ประเทศทั่วโลกกำลังตื่นตัวกันในเรื่องการพัฒนาประเทศเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน การใช้อำนาจบริหารประเทศมีแนวโน้มต้องเป็นไปเพื่อผลประโยชน์โดยรวมของมวลมหาประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยซึ่งอยู่ในท่ามกลางกระแสดังกล่าว ไม่อาจเปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่น การพัฒนาทางเศรษฐกิจการเมือง สังคม วัฒนธรรม ฯลฯ ถึงที่สุดแล้วจะต้องเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของมวลมหาชน มุ่งไปยังการยกระดับคุณค่าชีวิตของ “คนไทย”

ณ วันนี้ ได้มีสัญญาณบ่งชัดถึงความรับรู้ในกระแสดังกล่าวของคนไทยทั่วไป ต่างถวิลหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่า ต่างต้องการการเปลี่ยนแปลงสถานภาพของตนเอง ให้มีชีวิตที่สมบูรณ์ทั้งทางวัตถุและจิตใจ ยินดีต้อนรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะนำตนไปสู่ผลดังกล่าว

ด้วยสาเหตุต่างๆ ในทางภววิสัยเหล่านี้ ทำให้การเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยกลายเป็นสิ่งที่จำต้องเป็นไป ไม่มีใครขัดขวางได้

ทางอัตวิสัยหลักๆ ก็คือแนวคิด ทฤษฎี อุดมการณ์ของกลุ่ม พรรค หรือขบวนการการเมืองต่างๆ ในประเทศไทย ที่กำลังต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหารประเทศ เพื่อความเป็นอำนาจกำหนดทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาประเทศ ว่าสอดคล้องกับลักษณะยุคสมัยและกระแสการเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด

ถ้าหากกลุ่มที่เป็นแกนนำการเปลี่ยนแปลงมีแนวคิด ทฤษฎี อุดมการณ์สอดคล้องกับลักษณะยุคสมัยและกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก การเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยก็จะเกิดขึ้นได้เร็วและเป็นไปได้ดี ตรงกันข้าม หากกลุ่มแกนนำเป็นพวกมุ่งเปลี่ยนแปลงหลอกๆ ก็จะทำให้การเปลี่ยนแปลงยอกย้อน วกวน ทำให้ประเทศไทยและคนไทยเสียโอกาสได้

ในมุมมองของผม ปัจจุบันกลุ่มอำนาจที่กำลังแย่งชิงกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย แบ่งออกได้เป็นสองฝ่าย คือฝ่ายการเมืองเก่ากับฝ่ายการเมืองใหม่

ฝ่ายการเมืองเก่าหลักๆ ก็คือกลุ่มพรรคการเมืองตัวแทนผลประโยชน์กลุ่มทุน ตั้งแต่กลุ่มทุนสามานย์ในระบอบทักษิณไปจนถึงกลุ่มทุนฉวยโอกาสทั้งเก่าและใหม่ที่คอยแสวงประโยชน์ส่วนตนในทุกสถานการณ์

ฝ่ายการเมืองใหม่หลักๆ ก็คือขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่นำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาตนเองมาเป็นพรรคการเมืองใหม่ มีแนวนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปในทิศทางที่สอดคล้องกับลักษณะแห่งยุคสมัยและความเรียกร้องต้องการของมวลมหาชนชาวไทยอย่างแท้จริง

จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า เหตุปัจจัยทางอัตวิสัยที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย สามารถทำให้การเปลี่ยนแปลงประสบความสำเร็จ มวลมหาชนชาวไทยได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ก็คือฝ่ายการเมืองใหม่

การเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองของขบวนการการเมืองภาคประชาชนนำโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพรรคการเมืองใหม่ จึงนับวันจะได้รับเสียงสนับสนุนจากมวลมหาชนชาวไทยกว้างขวางยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ในท่ามกลางการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ชาวพันธมิตรฯ กับสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ จักสามารถแสดงออกถึงธาตุแท้หรือแก่นแท้ของความเป็น “ผู้นำ” การเปลี่ยนแปลงที่เป็นจริงได้ยิ่งกว่าฝ่ายการเมืองเก่า ในทุกๆ ด้าน อันจะเป็นหลักฐานยืนยันถึงความชอบธรรมของการเป็น “ปัจจัยกำหนด” การเปลี่ยนแปลงที่ฝ่ายการเมืองเก่าไม่อาจมีได้

จนถึงวันนี้ แก่นแท้ของชาวพันธมิตรฯ ที่แสดงออกในท่ามกลางการปฏิบัติภารกิจทางประวัติศาสตร์ นำมวลมหาชนชาวไทยเปลี่ยนแปลงประเทศไทย (โดยเนื้อหาสาระก็คือ ล้างการเมืองเก่า สร้างการเมืองใหม่) ปรากฏให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนไทยและชาวโลกบ้างแล้ว หลักๆ ก็คือ

1. ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์

2. ยึดมั่นในผลประโยชน์ของประชาชน

3. ทุกอย่างเริ่มจากสภาพเป็นจริงของประเทศไทย มุ่งแก้ปัญหาที่เป็น “ปมปัญหา” ของประเทศไทยเป็นเบื้องต้น โดยตระหนักชัดในลักษณะแห่งยุคสมัยที่สังคมโลกกำลังเป็นอยู่และกำลังจะเป็นไป

4. คำนึงถึงอารมณ์ความรู้สึกของพี่น้องชาวไทยทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ทุกลัทธิความเชื่อ ทุกระดับชั้นสังคม ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศวัย ฯลฯ

5. ยึดมั่นสูงสุดในเรื่องของความถูกต้องชอบธรรม ยึดมั่นใน “สัจธรรม” การดำเนินยุทธศาสตร์เป็นไปตาม “เหตุปัจจัยจริง” ในแต่ละขั้นตอนเสมอ ไม่บุ่มบ่าม และไม่อืดอาด ยึดทางสายกลางได้ดีในทุกขั้นตอน

6. มีจิตใจที่ “กล้าหาญ เสียสละ ซื่อสัตย์”

7. มีคุณสมบัติ “ทำงานเป็น” มีวิธีคิดวิธีทำงานที่ดี สามารถทำงานรวมหมู่ได้ดี เป็นผู้นำได้ดี

8. มีอุดมการณ์สูงส่ง

ในการต่อสู้กับฝ่ายการเมืองเก่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายใต้การนำของแกนนำชุดปัจจุบัน ค่อยๆ สั่งสมคุณสมบัติดีเด่น หลอมรวมกันเข้า แล้วแสดงออกมาอย่างเป็นเอกภาพในรูปของ “จิตใจ” (เสียสละ กล้าหาญ ซื่อสัตย์) ความสามารถ (ทำงานเป็น) “ภูมิปัญญา” (อุดมการณ์การเมืองใหม่ การสร้างอำนาจมวลมหาชนบนฐานอำนาจปัญญา เป็นต้น) รวมทั้ง “ท่วงทำนอง” ในการทำงาน คือมีวิธีคิดวิธีทำงานที่ดี สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ยุทธวิธีได้อย่างถูกต้องในทุกสถานการณ์ เป็นต้น

แก่นแท้หรือ “ธาตุแท้” ของชาวพันธมิตรฯ เหล่านี้ จะค่อยๆ ปรากฏออกมาเป็นสัญลักษณ์ให้มวลมหาชนชาวไทยรับรู้และประทับเข้าไปในความทรงจำของพวกเขามากขึ้นทุกที จนกลายเป็นการยอมรับถึงความเป็นตัวแทนผลประโยชน์ที่แท้จริงของชาวพันธมิตรฯ ที่มีต่อพวกเขา เอาใจช่วยและให้การสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ

อาจกล่าวได้ว่า แก่นแท้ของชาวพันธมิตรฯ ก็คือปัจจัยกำหนดตัวจริงของการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น