xs
xsm
sm
md
lg

ฟังเหตุผลพันธมิตรภูมิภาคหนุนตั้งพรรค-ต้านแก้ รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


10 ตัวแทนพันธมิตรฯ จากอนุภูมิภาคเห็นเป็นเอกฉันท์ค้านแก้ รธน.50 ระบุข้อบัญญัติเดิมป้องกันนักการเมืองโกง-ทำเพื่อ ปชช.ส่วนใหญ่อยู่แล้ว ส่วนประเด็นตั้งพรรค ตัวแทนส่วนใหญ่หนุนเต็มร้อย เพื่อสร้างการเมืองใหม่ ควบคู่การเคลื่อนไหวภาค ปชช. ยุติการเมืองน้ำเน่า ขณะที่ตัวแทนภาคใต้ตั้งเงื่อนไขตั้งพรรคต้องไม่ลืมภาคประชาชน ด้านตัวแทนตะวันออก แนะปลดล็อกคำพูดแกนนำที่เคยลั่นวาจาไม่รับตำแหน่งหลังสถานการณ์เปลี่ยน และพรรคจำเป็นต้องได้ผู้นำคุณภาพ

การประชุมสภาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ณ อาคารนันทนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 24 พ.ค.52 มีการเปิดสัมมนาให้ตัวแทนพันธมิตรฯ 10 อนุภูมิภาค ได้มีการแสดงความคิดเห็นในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งนี้ได้มีการคัดเลือกและประมวลความคิดเห็นหลากหลายในส่วนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ โดยมีสาระสำคัญที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด
พธม.เหมาะตั้งพรรคเหตุบุคลากรพร้อม


นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ตัวแทนจากพันธมิตรฯเชียงใหม่ ภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า มติของพันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนบน ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ทั้งมาตรา 237 ,190 และ 309 ที่เห็นได้ว่าการแก้ไขข้อกฏหมายดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่นักการเมืองโดยตรง ซึ่งทำให้พันธมิตรฯภาค

เหนือจะไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการต่อสู้ 193 ของพันธมิตรฯ เป็นการต่อสู้ของภาคประชาชนอย่างทรหดอดทน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ของภาคประชาชน ทุกคนที่ได้ออกมาร่วมชุมนุมนั้นเป็นคนที่รักความเป็นธรรมเพราะเห็นว่าที่ผ่านมามีแต่นักการเมืองบริหารบ้านเมืองด้วยความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาความยากจน ที่เห็นได้ชัดคือพี่น้องชาวเกษตรกรที่ประสบปัญหามากมายแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังมาเป็นระยะเวลานาน

ส่วนการตั้งพรรคการเมืองนั้น พันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนบนพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยครั้งใหญ่ เพราะเห็นว่าพันธมิตรฯยังมีองค์กรภาคส่วนต่างๆเป็นของตัวเอง อาทิ สภาทนายความที่ดูแลเรื่องทางข้อกฎหมายต่างๆทั้งคดีเก่าของเรา ยังมีหน่วยแพทย์ พยาบาลที่มาดูแลคนเจ็บป่วยของเรา เห็นได้ว่าทางบุคลากรและองค์กรของพันธมิตรเองก็มีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่จุดที่ประสบผลสำเร็จของการเมืองใหม่ได้ เพราะถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีพรรคการเมืองที่เข้าไปทำหน้าที่รัฐสภาควบคู่กับการต่อสู้ของภาคประชาชนให้เข็มแข็งเป็นคู่ขนานกันไป ซึ่งเชื่อว่าทางแกนนำและพี่น้องพันธมิตรจะมีการหาวิธีที่เหมาะสมในการด้านต่างๆที่จะพาพันธมิตรฯไปสู่สิ่งที่ตั้งใจให้จงได้นั้นก็คือการเมืองใหม่ ที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบ
การทำงานได้ และมีธรรมาภิบาล

นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว


นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ ตัวแทนพันธมิตรฯ อีสานตอนบน กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญข้อ 237 กับข้อ 309 อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ว่าทำไมนักการเมืองถึงกลัวมาตราดังกล่าว ซึ่งมาตราทั้ง 2มาตราเป็นมาตราที่เพิ่มมาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ต่างจากรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยถ้านักเลือกตั้งทำผิดกฎหมายเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคจะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองและพรรคจะต้องถูกยุบไปด้วย อีกทั้งจะแก้มาตรา 309ก็เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียวเท่านั้น ในช่วงที่ผ่านมานักการเมืองก็มัวแต่จะจุดประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่มีกฎหมายบัญญัติไว้อย่างชัดเจนแต่กลับไม่ไปศึกษาและจงใจทำผิดเอง ทำให้สะท้อนได้ว่านักการเมืองแบบเก่าๆไร้คุณภาพ และคิดเสมอว่าการเมืองเป็นเรื่องของธุรกิจการเมือง รวมทุนกันเข้ามาแล้วมาถอนทุนคืนซึ่งประชาชนที่เดือดร้อนไม่เคยได้รับการแก้ไขปัญหาจากบุคคลเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ตรงส่วนนี้เห็นว่าเป็นปัญหาวังวนของการเมืองแบบเก่าๆ ที่ยังไม่มีทางออกเลยแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตามเห็นว่าการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังเป็นแบบการเมืองเก่าเป็นปัจจัยที่ทำให้การตั้งพรรคของพันธมิตรฯ รวมไปถึงยังจะมีการออกกฎหมายควบคุมการชุมนุมทำให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความลำบากมากขึ้น เราจึงจำเป็นต้องมีตัวแทนของเราในสภา เพื่อเกื้อกูลการเมืองภาคประชาชน แต่ก็ไม่ได้เป็นการง่ายที่พรรคการเมืองของพันธมิตรจะประสบความสำเร็จโดยง่าย เหมือนกับกรุงโรมที่ไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว จึงจำเป็นต้องอาศัยเวลา

อย่างน้อยก็เป็นการปูทางเพื่ออนาคตตรงนี้ก็ถือว่ายังดีกว่าไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย อยากให้พี่น้องพันธมิตรฯที่เห็นด้วยกับการตั้งพรรคหรือที่ไม่เห็นด้วยร่วมกันใช้ปัญญาใช้พิจารณาร่วมกันหาทางพาการเมืองไทยให้ผ่านพ้นการเมืองน้ำเน่าเสียทีและไปสู่การเมืองใหม่ที่ทำให้สังคมเกิดสิ่งที่ดีขึ้น

นายสุนทร รักษ์รงค์
กังวลตั้งพรรคบั่นทอนการเมืองภาคประชาชน


นายสุนทร รักษ์รงค์ ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคใต้ กล่าวว่า เสียงของคนรับร่างของคนภาคใต้คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ หากพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราถือว่าทรยศต่อพี่น้องภาคใต้ คนภาคใต้ไม่เอาด้วยกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน สำหรับการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ นั้นจะตั้งหรือไม่ คนภาคใต้มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยแต่ก็เป็นความเห็นต่างที่จะดำเนินให้สอดคล้องไปด้วยกันได้ เราเชื่อว่าคงไม่สามารถสอบถามความคิดเห็นไปอย่างครอบคลุม แต่เชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะทางการเมืองที่จะตัดสินอนาคตได้อย่างอิสระ

ทั้งนี้ ความคิดเห็นส่วนตัวเห็นว่าหากมีการตั้งพรรคการเมืองนั้น แกนนำต้องอธิบายและตอบคำถามให้ชัดเจน ข้อ 1. แกนนำฯสามารถอธิบายได้ว่าถ้าตั้งพรรคพันธมิตรฯเป็นภาคการเมืองจะไม่กระทบต่อภาคประชาชนส่วนใดและให้การรับรับรองว่า หลังตั้งพรรคแล้วภาคประชาชนจะไม่หมดความชอบธรรม และจุดนี้อาจมีคนมองว่าการเมืองของพันธมิตรฯจะไปเหมือนกับพรรคเพื่อไทยที่ต่อสู้ให้กับคนเสื้อแดง ข้อ 2. ในการตั้งพรรคจะต้องแยกส่วนให้ชัดเจนว่า หน้าที่ของแต่ละส่วนเป็นอย่างไรทั้งการเมืองในสภาและการเมืองภาคประชาชนนอกสภา

ซึ่งทั้ง 2 ส่วน เหมือนจะทำงานสวนทางกัน ต้องมีคำอธิบายให้กระจ่างชัดเพื่อความชอบธรรมของภาคประชาชนนอกสภาที่ต้องไม่ลดลง ข้อ 3. ส่วนที่ทางแกนนำรับรองว่าพรรคการเมืองเป็นเครื่องมือส่วนหนึ่งของพันธมิตรฯชนิดหนึ่งเท่านั้นในการขับเคลื่อนภาคประชาชนส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างว่าถ้าเกิดสมมุติว่าพันธมิตรฯแพ้โหวตในสภา แล้วเกิดมีการเคลื่อนไหวนอกสภาจะถูกสังคมมองว่าแพ้ชวนตีหรือไม่
ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามในการโหวตตั้งหรือไม่ตั้งพรรคนั้นภาคใต้ถือว่าเป็นอิสระของแต่ละคน เราเคารพในความเป็นประชาธิปไตยผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่เป็นหลัก

นายสุวิชาญ สุวรรณาคะ
เสนอปลดล็อคแกนนำฯเคยพูดไม่ยุ่งการเมือง


นาย สุวิชาญ สุวรรณาคะ ตัวแทนจากพันธมิตรฯ ภาคตะวันออก กล่าวว่า ถ้ายังจำหลักเป้าหมายในการชุมนุมตั้งแต่ครั้งแรกได้ก็คือการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและในทุกวันนี้ก็ยังไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยากจะให้ความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พันธมิตรฯ ตะวันออก ยังยืนยันที่จะคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามมติเดิมเมื่อครั้งเข้าร่วมชุมนุมเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา เราทำสำเร็จในการขับไล่ระบอบทักษิณออกไปแล้ว และในขณะนี้เราจำเป็นที่จะต้องสร้างเกราะป้องกันตัวขึ้นมา เพราะเราถูกหมายเรียก หมายจับ ถูกเล่นงานเจ็บตัวไปหลายคนแล้ว เพราะฉะนั้นการตั้งพรรคการเมืองก็คือการสร้างเกราะป้องกันตัว พันธมิตรฯ ตะวันออก จึงเห็นด้วยกับการตั้งพรรคและที่สำคัญนั้นคือ นักโทษยังมีวันออกจากคุกได้ เพราะฉะนั้น แกนนำจากที่เคยประกาศเอาไว้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ไม่รับตำแหน่งทางการเมือง แต่ ณ เวลานี้สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เราต้องปกป้องแกนนำทั้ง 5 คน จึงขอเสนอให้มีการปลดล็อกคำกล่าวของแกนนำทุกท่านที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองทั้งหมด

บัดนี้เรามีมติว่าให้ตั้งพรรคการเมือง มีแกนนำที่เหมาะสม ควรจะให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสม เมื่อก่อนหน้านี้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นแกนนำหลักของเราก็ถูกลอบยิงเหตุการณ์นี้หากคุณสนธิยังเป็นนาย สนธิ ลิ้มทองกุล อยู่ ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะฉะนั้นจึงเห็นว่าควรจะให้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคการเมือง เพราะหากไม่มีแกนนำที่ดี การเมืองก็จะไม่มีพลัง เนื่องจาก ณ เวลานี้ได้มีการอนุมัติให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้เราไม่สามารถไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์ได้อีกต่อไป และการเมืองใหม่คือการเมืองที่ประชาชนสามารถพึ่งพาได้

นายสหัส อมรรัตนานนท์
การเมืองเก่าไทยทิ้งปัญหาจมปลักร้อยปี


นายสหัส อมรรัตนานนท์ ตัวแทนจากพันธมิตรฯ จังหวัดสระบุรี ภาคกลาง กล่าวว่าจากการพูดคุยในวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคกลางจากตัวแทนในแต่ละจังหวัดซึ่งเป็นภาคของการเกษตรกร และทั้งหมดก็ได้แสดงความคิดเห็นว่านักการเมืองที่อยู่ในรัฐสภา ณ เวลานี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ขอแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เพราะประเด็นที่จะแก้นั้น ล้วนแต่บัญญัติขึ้นเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองทั้งสิ้น ไม่มีกฎหมายใดที่จะเพิ่มสิทธิผลประโยชน์ของประชาชนเลย ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 190 หรือมาตรา 237 ที่บอกว่าต้องการให้แก้เป็นนักการเมืองที่บริหารพรรคกระทำความผิดทุจริตได้ใบแดงใดๆ ก็ตามไม่ถือว่าคณะกรรมการบริหารพรรคกระทำความผิดด้วยนั้น คิดว่าเป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของตนเองทั้งสิ้น และคิดว่า ณ ปัจจุบันนี้ไม่ควรที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนการตั้งพรรคฯ นั้น เห็นว่าการเมืองเป็นผลประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ หากพรรคที่เราเลือก หรือบุคคลที่เราเลือกเข้ามาให้บริหารประเทศมีความชอบธรรม มีคุณธรรม พันธมิตรฯ ภาคกลางเห็นว่าต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง การแก้ปัญหาของประเทศไทย เป็นร้อยๆปีก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความยากจน การเกษตร ที่ดิน หรือไม่กระทั่งปัญหาหนี้สิ้นเพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนได้เลย เพราะพรรคการเมืองต่างๆทั้งดีน้อยและเลวทั้งหลายที่ทำให้การแก้ปัญหาไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ พรรคพันธมิตรและพรรคการเมืองใหม่ที่จะตั้งขึ้นจะเป็นทางออก เพราะเป็นพรรคที่มาจากตัวแทนทุกภาคส่วน ทุกอาชีพ ให้ดำเนินไปได้จากพรรคการเมืองของเรา ประเด็นของภาคกลางยังอยากจะเสนอโครงสร้าง รายละเอียด อีกต่อไปในการจัดตั้งพรรคในอนาคต แต่ขอย้ำว่าพันธมิตรฯ ภาคกลางของสนับสนุนการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่อย่างเต็มที่

นายรัฐกร แก้วเกษ
ย้ำถึงเวลาคนดีเดินเข้าสู่สภาฯ


นายรัฐกร แก้วเกษ ตัวแทนจากเครือข่ายเยาวชนกู้ชาติ (Young PAD) แสดงความเห็นเกี่ยวกับก้าวต่อไปของพันธมิตรและการตั้งพรรคการเมืองว่า จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคการเมืองที่ซื้อเสียงแล้ว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นก็มิได้ส่งผลให้ดีขึ้น เพราะยังเชื่อกันว่านักการเมืองรุ่นใหม่ไม่สามารถดำเนินงานหรือบริหารประเทศได้ จึงทำให้พรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่งได้เข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ด้วยรูปแบบของ

รัฐบาลชุดนี้ที่เป็นรัฐบาลแบบผสมทำให้ แม้ว่าจะได้ผู้นำประเทศที่ถือว่ามีความสง่างามแต่ก็อยู่ในระบบการเมืองเก่าที่หมองหม่น น้ำเน่า จึงทำให้ความสง่างามนั้นหมดลง อย่างสิ้นเชิง ทางกลุ่ม Young pad จึงเห็นสมควรที่พันธมิตรฯ จะตั้งพรรคการเมือง แต่ควรจะใช้เวลาส่วนหนึ่ง ทำด้วยความใจเย็น ต้องทำให้สังคมเห็นด้วยเสียก่อนว่าการเมืองใหม่ จะเป็นความหวังของสังคมไทยอย่าง

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เห็นว่า ไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างยิ่ง เพราะกฎต้องเป็นกฎ มิใช่ว่าผู้เล่นที่ไม่ต้องการกฎที่จะมาผูกมัดตัวเองไม่ให้ทำชั่ว ทำเลว เลยต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงกฎอันนี้ มิได้ และอยากจะพูดถึงคำพูดของท่าน นาวาอากาศตรี ประสงค์ สุ่นศิริ ที่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องการแสวงหาอำนาจของพวกเรา ผมเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่คนดีจะต้องแสวงหาอำนาจ บ้านเมืองจะต้องมีอำนาจอย่างแท้จริง

นายทศพล แก้วทิมา
ระเบิดยังไม่กลัวนับประสาอะไรกับตั้งพรรคการเมือง


นายทศพล แก้วทิมา ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคตะวันตก ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า หลายคนมีความคิดเห็นว่าทำไมพันธมิตรจึงไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเนื่องจากว่า รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนอย่างแม้จะถูกกล่าวหาว่ามาจากการรัฐประหาร แต่รัฐธรรมนูญทุกฉบับก่อนหน้านั้น ก็มีจุดเริ่มต้นจากการรัฐประหารทั้งสิ้น และเมื่อดูการเข้าถึงกระบวนการยกร่าง มีฉบับไหนที่ให้ประชาชนเข้าถึงเท่ากับฉบับ 2550 หรือไม่ เพราะฉะนั้นหากต้องการที่จะแก้คุณต้องตอบคำถามของประชาชนก่อนว่าแก้ไปเพื่อประโยชน์อะไร รัฐธรรมนูญสามารถแก้ได้หากแก้เพื่อประเทศชาติและประชาชนเรายอม ถ้าจะแก้เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้นเราก็ยอม แต่ถ้าแก้แล้ว ส.ส. รัฐมนตรี นักการเมือง เข้าไปโกงได้ง่ายขึ้นเราไม่ให้แก้

ส่วนการตั้งพรรคการเมืองนั้นนายทศพล กล่าวว่า เราจะกลัวอะไร เราจัดชุมนุมถูกระเบิดตาย เรายังไม่กลัว นับประสาอะไรกับการตั้งพรรคเพื่อเข้าไปสร้างบ้านสร้างเมือง สร้างการเมืองใหม่ ถึงเวลาที่จะทำการเมืองเพื่อประโยชน์ของลูกหลานเราในอนาคต บนพื้นฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่าคิดว่าประชาธิปัตย์จะอยู่ไม่ได้ อย่าคิดว่าประชาชนคนอื่นจะอยู่ไม่ได้ 193 วันเราสู้มาโดยตลอด เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกหากเราจะเข้าไปสู้ในสภาโดยที่ทุกไม่ว่าจะเป็นลูกตาสีลูกตามา มีโอกาสเข้าไปนั่งในสภา ดังนั้น ถ้าเราจะมีพรรคการเมืองที่ให้อำนาจประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม เราพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่

นายวัฒนา ภูริลดาพันธ์
การเมืองเก่าไร้ความหวัง-ถึงเวลาตั้งพรรค


นาย วัฒนา ภูริลดาพันธ์ ตัวแทนจากพันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนล่าง กล่าวว่า พันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนล่างจะไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างแน่นอน ส่วนการตั้งพรรคการเมืองนั้น จริงอยู่ 5 แกนนำเคยพูดไว้ว่าจะไม่ทำ แต่เหตุการณ์ปัจจุบันที่บีบคั้น เราไม่สามารถที่จะต่อสู่ข้างถนนอย่างเดียวอีกต่อไป เราต้องเดินหน้าเข้าสู่สภา และร่วมกันใช้พลังของเราสร้างการเมืองใหม่ เข้าสู่สภาต่อไป เราเห็นด้วยอย่างเต็มที่ในการตั้งพรรค เพื่อเป็นพรรคการเมืองที่ไม่อิงกับผลประโยชน์ใดๆวันนี้ประเทศไทยเราไม่มีพรรคการเมืองใดที่จะเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้ นักการเมืองก็มีแต่หน้าเดิมๆอยู่กับมา 30 กว่าปี มีแต่ผลงานระยำ ก่อแต่ความเสียหายให้กับประเทศ ถ้าไม่ตั้งพรรคประชาชนประเทศชาติก็ไม่มีที่พึ่งที่หวัง จะมีแต่การเมืองเก่า วงจรอุบาทว์ก็ยังอยู่ต่อไป ทำความเสียหายให้ประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเราต้องมาชุมนุมขับไล่ซ้ำแล้วซ้ำอีก

ที่ผ่านมาเศรษฐกิจปี 2540 ท่ามกลางวิกฤตของประเทศชาติ ผมเห็นว่าพรรคไทยรักไทยคือทางเลือกใหม่ของเรา คิดว่าคนอย่างทักษิณ ที่รวยอยู่แล้วจะไม่โกง แต่ที่ไหนได้ก็ปรากฏว่าเราคิดผิด พันธมิตรมีรากฐานที่ดี เพราะว่ามีรากฐานจากประชาชนที่มีจิตใจที่จะทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง เราคิดถึงผลประโยชน์ของชาติมากกว่าส่วนตน เราเฝ้ามองความหวังที่จะมีพรรคการเมืองที่จะทำเพื่อประเทศชาติ ในขณะนี้แทบที่จะไม่มี เราไม่สามารถปล่อยให้นักการเมืองน้ำเน่าถ่วงความเจริญให้กับประเทศไทยอีกต่อไป เราไม่มีทางเลือกหรือความหวังอื่นใด นี่คือเหตุผลที่เราคิดว่าควรที่จะตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อประเทศชาติและประชาชน ขอย้ำว่าเราต้องการการเมืองใหม่ ต้องการการเมืองที่โปรงใส่และซื้อสัตย์

นายชุบ ชัยฤทธิ์ไชย
การเมืองคู่ขนานเป็นทางออก


นายชุบ ชัยฤทธิ์ไชย ตัวแทนจากพันธมิตรฯ ภาคอีสานตอนล่าง กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ว่า มาตรา 309 นั้น เป็นบทเฉพาะ ซึ่งมีสาระสำคัญคือการรับรองการตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาตรวจสอบการทำผิดของนักการเมือง ซึ่งมี 10 กว่าคดี ถ้ามีการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรานี้ ก็เท่ากับการนิรโทษกรรมความผิดเหล่านั้น ส่วนมาตรา 237 เป็นการกำกับการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม เพื่อป้องกันมิให้ ส.ส. ไปทำการทุจริตการเลือกตั้ง ความเห็นของพันธมิตรฯ อีสานใต้จึงมีมติว่าไม่ให้แก้และไม่ให้เลิก ส่วนมาตรา 190 เป็นการบังคับว่ารัฐบาลจะไปทำสนธิสัญญาที่อาจทำให้เสียดินแดน หรือมีปัญหาทางเศรษฐกิจและความมั่นคงอย่างมีนัยสำคัญ รัฐบาลต้องถามสภาก่อน เพราะเคยมีตัวอย่างในอดีต ที่นักการเมืองเลวๆ เอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกกับประโยชน์ส่วนตัว ในการทำสัญญากับต่างประเทศ เราจึงเห็นว่ามาตรานี้ต้องไม่เลิกและไม่แก้

ส่วนการตั้งพรรคนั้น ตัวแทนพันธมิตรฯ ภาคอีสานตอนล่าง กล่าวว่า พรรคการเมืองปัจจุบันไม่ตอบสนองต่อผลประโยชน์ทุกภาคส่วนอย่างเป็นธรรม และไม่ใช่ตัวแทนผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง พันธมิตรฯ เดินมาถึงทาง 2 แพร่ง เราเห็นว่าเรายังคงเดินแนวทางการเมืองภาคประชาชนต่อไป ส่วนการตั้งพรรค เราต้องตั้งเมื่อพร้อม อย่างไรก็ตาม พรรคการเมืองนั้นเป็นที่รวมของคนมีอุดมการณ์เดียวกัน พันธมิตรฯ ทุกคนก็อุดมการณ์เดียวกัน ถ้าอย่างนั้นเราจะรอทำไม เราตั้งได้เลย แต่ขอให้มีการเมืองภาคประชาขนคู่ขนานกันไป คู่กับการตั้งพรรคเพื่อสร้างนักการเมืองที่มีคุณภาพ

นายอำนาจ พละมี
สรส.ผสานเสียงตั้งพรรคการเมือง


นายอำนาจ พละมี รองเลขาธิการ ตัวแทนจากสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) แสดงความคิดเห็นว่า ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น สรส.ขอยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่เข้าร่วมกับพันธมิตร ว่าไม่เห็นด้วยที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในการฟอกผิดให้เป็นถูกของนักการเมืองที่ยังอยู่ในรัฐสภาอยู่ตอนนี้ ส่วนการตั้งพรรคนั้น สรส.เคยศึกษาและมีแนวคิดที่จะรวบรวมผู้คนทุกหมู่เหล่ามาร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเพื่อพัฒนาไปสู่กระบวนการจัดตั้งพรรคการเมือง เมื่อมวลชนพันธมิตรฯ เห็นว่าถึงเวลาที่เราจะดำเนินการทางการเมืองทั้งในสภาและนอกสภา เราจึงเห็นด้วยกับแนวทางการตั้งพรรคฯ ของเรา ส่วนรายละเอียดในการดำเนินการ วิธีการให้ได้มาซึ่งข้อบังคับพรรค ธรรมนูญพรรค กรรมการบริหาร ตลอดจนสมาชิกพรรคนั้น ให้เป็นไปตามมติของผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของพรรคที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ที่จะต้องรับเอาแนวทางของพันธมิตรฯ ที่เราจัดทำไว้แต่เดิมทั้งหมด





กำลังโหลดความคิดเห็น