xs
xsm
sm
md
lg

ไทยเจ้าภาพประชุมต้านโกง มาร์คชี้ทุจริตกัดกร่อนปชต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (28 ก.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงข่าวการจัดการประชุมนานาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ครั้งที่ 14 ซึ่งประเทศไทย โดยสำนักงาน ป.ป.ช. และกระทรวงยุติธรรม เป็นเจ้าภาพ ในระหว่างวันที่ 10-13 พ.ย. 52 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทุจริตเป็นภัยใหญ่หลวงต่อความมั่นคง และการพัฒนาทุกมิติ ทั้งเสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ และการเงินนั้น บุคคลที่ทำงานทั้งในภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมต่างตระหนักว่า ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ การแก้ปัญหาทั้งเฉพาะหน้า และระยะยาวก็เป็นเรื่องยาก และไม่ยั่งยืน
ในสังคมที่มีการทุจริตอย่างกว้างขวาง ได้ประมาณการณ์กันว่าการสูญเสียทรัพยากร อาจจะถึงร้อยละ 20-40 หรือมากกว่านั้นที่รั่วไหลออกไป หากคิดออกมาเป็นตัวเงินก็จะมีมูลค่ามากมายมหาศาล และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
"ในทางการเมืองก็เช่นกัน ระหว่างที่ผมเดินทางกลับจากสหรัฐฯได้อ่านหนังสือชื่อ democracy kill ซึ่งวิเคราะห์ถึงความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย ในหลายภูมิภาค โดยสาเหตุสำคัญมาจากเรื่องผลประโยชน์การทุจริต และการแย่งชิงอำนาจ จนทำให้ขบวนการประชาธิปไตยที่ควรจะศักดิ์สิทธิ์ ถูกบั่นทอน นำไปสู่ความขัดแย้ง และความรุนแรงในหลายสังคม การทุจริตคอร์รัปชั่น จึงถือเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในทุกประเทศ เพียงแต่อาจมีความหนักเบาต่างกัน และแต่ละประเทศก็มีมาตรการป้องกันที่ต่างกัน การประชุมครั้งนี้น่าจะช่วยจุดประกายความใสสะอาดให้กับประเทศไทย และประชาคมโลก และทำให้ทุกฝ่ายมีจิตสำนึก ตื่นตัวในการต่อต้านการทุจริตอย่างจริงจัง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการจัดการประชุมครั้งนี้ว่า นับเป็นความสำเร็จของประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ เกิดขึ้นจากมติของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการให้สำนักงานป.ป.ช. เสนอตัวขอรับการพิจารณาคัดเลือกจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ในระหว่างการประชุมครั้งที่ 13 ณ กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อปี 2551 ที่ผ่านมา
การประชุมที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ จะเป็นเวทีการประชุมว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตที่ใหญ่ที่สุดในระดับนานาชาติ ที่จัดให้มีขึ้นทุก 2 ปี โดยจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 1,500 คน จาก 140 ประเทศทั่วโลก ที่จะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการดำเนินการเพื่อต่อต้านการทุจริต ตลอดจนนำเสนอวิธีการที่จะรับมือการทุจริต และร่วมพัฒนาเครือข่ายระหว่างองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
สาระสำคัญในการนำมาหารือร่วมกันภายใต้หัวข้อการประชุมเรื่องการฟื้นฟูความเชื่อมั่น การปฏิบัติการ และความโปร่งใสนานาชาติในครั้งนี้ จะครอบคลุมแนวทางการฟื้นฟูความเชื่อมั่นภายหลังวิกฤติการณ์การเงินโลก รวมทั้งการจัดระเบียบระบบธรรมาภิบาลใหม่ ภายใต้สภาพแวดล้อมทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อพัฒนาไปสู่การสร้างกลยุทธ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาการทุจริตในระดับสากล โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักและความตื่นตัวเรื่องการต่อต้านการทุจริต และเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม ในด้านเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง เพราะปัญหาการทุจริตถือเป็นมะเร็งร้ายของสังคม ที่หยั่งรากลึกและลุกลามไปทั่ว จึงจำเป็นจะต้องกำจัดออกไปจากสังคมโลก ก่อนที่จะเป็นภัยคุกคาม ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเสถียรภาพทางการเมือง การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งนานาประเทศต้องเข้ามามีส่วนร่วม
กำลังโหลดความคิดเห็น