xs
xsm
sm
md
lg

จี้อสส.แจงเป็นพยานกล้ายางชี้กระทบความเชื่อถือองค์กร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุริยะใส กตะศิลา ผ้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าว วานนี้ (24 ก.ย.) ว่า มีความจำเป็น ที่เร่งด่วนที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) จะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิด ความกระจ่างต่อสังคม กรณีที่ คตส.ออกมาระบุว่ามีบุคคลระดับสูงใน อสส.ไปเป็นพยานให้กับจำเลยในคดี กล้ายาง คดีหวยบนดินและอาจส่งผลต่อคดีสำคัญอื่นๆ อีกหลายคดี
นอกจากนี้ กรณีที่นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ออกมา วิจารณ์การทำงานของ คตส.จนทำให้แพ้คดีกล้ายางนั้น จะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ เพราะผู้พูดยังมีตำแหน่งเป็นอธิบดีอัยการในคดีพิเศษด้วย เรื่องนี้เป็นเเรื่องผิดปกติ อาจจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังและจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรอัยการได้ จึงจำเป็นที่อัยการสูงสุดจะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้ประชาชนเคลือบแคลงในบทบาทของอัยหารสูงสุดว่าได้ทำหน้าที่ที่ควรทำแล้วหรือยัง มีการเมืองหรือผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
จะปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็น เรื่องสำคัญ อัยการสูงสุดในฐานะทนายแผ่นดิน รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชนจะต้องปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ แต่หากมีคนในองค์กรมีพฤติกรรมแบบนี้ ก็ต้องมีการชี้แจงว่าในทางกฎหมายทำได้หรือไม่ และในทางจริยธรรม เป็นเรื่องสมควรกระทำหรือไม่ อย่างไร ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 255 วรรค 6 ระบุชัดว่า พนักงานอัยการจะต้องไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการกระทบกระเทือนถึงการปฏิบัติหน้าที่ หรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
นายสุริยะใส กล่าวว่าหากจำเลยในคดีอาญาแผ่นดินสามารถเรียกตัวบุคคลระดับสูงในสำนักงานอัยการฯ ไปเบิกความเพื่อเป็นพยานให้กับจำเลยได้แบบนี้แล้ว จะเป็นอันตรายจนส่งผลให้กระบวนการยุติธรรมไม่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้ เพราะอัยการย่อมรู้สำนวนข้อกล่าวหาเป็นอย่างดี ซึ่งอาจไปแก้ต่างให้จำเลยจนหลุดพ้นคดี ความได้ในที่สุด
หากทางอัยการสูงสุดมีความจริงใจแทนที่จะไปวิจารณ์การทำงานของ คตส. ก็ควรจะหารือร่วมกับ คตส.เพื่อหาช่องทางอุทธรณ์คดีกล้ายาง เพราะตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เปิดช่องให้อุทธรณ์ได้ ภายใน 30 วันหากมีข้อมูลใหม่
วันเดียวกัน นายพิชา วิจินาศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย หนึ่งในเครือข่ายคนเสื้อแดง พร้อมสมาชิกเข่ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่รัฐตาม พ.ร.ช.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 39 (12) และเพื่อให้ตรวจสอบทรัพย์สินขององค์คณะผู้พิพากษาคดี ทุจริตกล้ายางอีกส่วนหนึ่งด้วยตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 87 (3)
นายพิชา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ก.ย.นายสนธิ ลิ้มทองกุลได้ให้สัมภาษณ์กับทุกสื่อโดยมีการกล่าวเตือนตุลาการเจ้าของสำนวนคดีกล้าบางว่าอย่าหวังลาภยศ ให้กล้าหาญในตัดสินอย่างยุติธรรม ทั้งยังระบุว่ามีผู้เป็นจำเลยในคดีนี้จะมีการวิ่งเต้น ซื้อคำพิพากษาและคดีนี้จะต้องยกฟ้อง และนายเนวิน จะออกมา 8ต่อ 1 ดังนั้นที่ตนมาวันนี้เนื่องจากเห็นว่าตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 39 (12) ผู้พิพากษาศาลฎีกา เมื่อเข้าดำรงตำแหน่ง ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินทุกรอบ 3 ปี ถามว่าผู้พิพากษาศาลฎีกาได้ยื่นหรือไม่ วันนี้สังคมคลางแคลงใจว่าทำไมการตัดสินคดีกล้ายางมีมติออกมาตรงกับคำพูดของ นายสนธิ และนายจตุพร พรมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยที่เคยพูดไว้ ก่อนจะมีคำตัดสินออกมา ก่อนหน้านี้ตนก็ได้มีการยื่นหนังสือกับประธานศาลฎีกาเพื่อให้ตรวจสอบ เรื่องนี้ด้วย ถ้าสถาบันศาลไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนจะทำเกิดกลียุค และวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวว่า คตส.ถืองบ 60 ล้านบาท และตั้งธง 13 เรื่อง ถ้าคนที่เคยอยู่พรรคไทยรักไทย ถอนตัวออกมาก่อนวันที่ 23 ธ.ค. 2550 คดีที่อยู่ใน คตส.จะถูกดึงเรื่องไว้หมด เช่นนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ย้ายข้าง คตส.ก็กลับลำไปเป็นพยานให้ สะท้อนว่า คตส.เป็นแหลงรวมคนที่เป็นปรปักษ์กับระบอบทักษิณ
น่าสนใจว่าในกระบวนการตุลาการเหตุใดเราจึงได้ยินข่าวมาก่อนแรมเดือนว่า คดีกล้ายางมติจะออกมายกฟ้อง 8 ต่อ 1 ทำไมข่าวจึงรั่วจนลิ่วล้อออกมาดีใจล่วงหน้า น่าสนใจว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำไมถึงยกฟ้องคดีนี้เป็นคดีแรก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ตายหมด ยกเว้นกรณีป.ป.ช.ขอขึ้นเงินเดือนตัวเอง ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช.เลื่อนการตัดสินคดีเขาพระวิหารออกไปจากเดิมที่จะตัดสินในวันที่ 22 ก.ย.นั้น เพราะกลัวจะกระชากใจประชาชนมากเกินไป เพราะคดีกล้ายางเพิ่งตัดสินออกมาแบบนั้น
นายจตุพร กล่าวว่า การที่นายเนวินออกมาพูดจาทำนองจะปกป้องสถาบันทั้งน้ำตาหลังรอดคดีกล้ายางนั้น อยากถามว่าต้องการสื่ออะไร ขอร้องอย่าเล่นบทนี้ ให้มากนัก เพราะเป็นการสร้างเรื่อง ถ้าบ้านเมืองนี้มีนายเนวินที่จงรักภักดีก็อยู่กันไม่ได้แล้ว
ส่วนบุคคลที่ พ.ต.ท.ทักษิณโพสต์ลงในเวปไซด์ทวิตเตอร์ว่า สามารถยกหู เคลียร์เรื่องให้นายเนวินได้นั้นเป็นใคร นายจตุพรกล่าวว่า ใครที่มีอำนาจมากที่สุด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษรู้ดีที่สุด เพราะหลายองค์กร อิสระไม่อิสระจริง เพราะเป็นองค์กรเถื่อน องค์กรทาส ปัญหาทั้งประเทศอยู่ที่พล.อ.เปรมอย่างเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น