ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ เรียกร้อง อสส.ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีไปเป็นพยานจำเลยในคดีกล้ายาง ทั้งที่เป็นทนายแผ่นดินกินภาษีประชาชน ย้อนถาม กม.ข้อใดเปิดช่องให้กระทำ หวั่นสังคมเคลือบแคลงกระทบความน่าเชื่อถือองค์กร เหน็บหากจริงใจต้องหาช่องยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน
วันนี้ (24 ก.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) จะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม กรณีที่ คตส.ออกมาระบุว่า มีบุคคลระดับสูงใน อสส.ไปเป็นพยานให้กับจำเลยในคดีกล้ายาง คดีหวยบนดินและอาจส่งผลต่อคดีสำคัญอื่นๆ อีกหลายคดี
และกรณีที่ นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ออกมาวิจารณ์การทำงานของ คตส.จนทำให้แพ้คดีกล้ายางนั้น จะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ เพราะผู้พูดยังมีตำแหน่งเป็นอธิบดีอัยการในคดีพิเศษด้วย เรื่องนี้เป็นเเรื่องผิดปกติ อาจจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรอัยการได้ จึงจำเป็นที่อัยการสูงสุดจะต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้ประชาชนเคลือบแคลง ในบทบาทของอัยการสูงสุด ว่า ได้ทำหน้าที่ที่ควรทำแล้วหรือยัง มีการเมืองหรือผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
นายสุริยะใส ระบุว่า จะปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อัยการสูงสุดในฐานะทนายแผ่นดิน รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชนจะต้องปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ แต่หากมีคนในองค์กรมีพฤติกรรมแบบนี้ก็ต้องมีการชี้แจงว่าในทางกฎหมายทำได้หรือไม่ และในทางจริยธรรมเป็นเรื่องสมควรกระทำหรือไม่ อย่างไร ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 255 วรรค 6 ระบุชัดว่า พนักงานอัยการจะต้องไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการกระทบกระเทือนถึงการปฏิบัติหน้าที่ หรือเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
“หากจำเลยในคดีอาญาแผ่นดินสามารถเรียกตัวบุคคลระดับสูงในสำนักงานอัยการ ไปเบิกความเพื่อเป็นพยานให้กับจำเลยได้แบบนี้แล้ว จะเป็นอันตรายจนส่งผลให้กระบวนการยุติธรรมไม่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้ เพราะอัยการย่อมรู้สำนวนข้อกล่าวหาเป็นอย่างดี ซึ่งอาจไปแก้ต่างให้จำเลยจนหลุดพ้นคดีความได้ในที่สุด” นายสุริยะใส กล่าวและว่า
หากทางอัยการสูงสุดมีความจริงใจ แทนที่จะไปวิจารณ์การทำงานของ คตส.ก็ควรจะหารือร่วมกับ คตส.เพื่อหาช่องทางอุทธรณ์คดีกล้ายาง เพราะตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เปิดช่องให้อุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน หากมีข้อมูลใหม่