โดย...ชำนาญ พิเชษฐพันธ์
chamnanktp@hotmail.com
ผมเคยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นมาเยอะ วิพากษ์วิจารณ์จนกระทั่งต้องยอมรับหลายครั้งหลายหนว่าที่วิพากษ์วิจารณ์ไปนั้น เป็นการวิพากษ์วิจารณ์อย่างผิดๆ เพราะขาดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์ หรือไม่ก็ไม่ได้คิดถึงเหตุและผลที่ควรจะคิดให้ดีเสียก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์
บางครั้งเลยเถิดไปถึงขนาดบอกว่า ถ้าผมเป็นเขา ผมจะทำอีกอย่างหนึ่ง ต้องดีกว่า ต้องแน่กว่าเขาอย่างแน่นอน
แล้ววันหนึ่งผมก็ไปดำรงตำแหน่งอย่างเขา พอรู้ข้อเท็จจริงและเหตุผลประกอบ ผมก็ทำไม่ได้อย่างที่วิพากษ์วิจารณ์ แถมยังทำแบบที่เขาทำอีกต่างหาก เพราะเมื่อไปเป็นอย่างเขา ไปเป็นคนตัดสินใจ ที่อาจมีคนได้รับผลกระทบมากมาย ต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจ ความระมัดระวังต้องมีมากขึ้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แล้วก็รอบด้าน ผมถึงเกิดตาสว่างรู้แจ้งเห็นจริงว่า การวิจารณ์นั้นง่าย แต่การทำที่ต้องรับผิดชอบนั้นยาก
ผมได้อ่านบทความของคุณธงไท เทอดอุดม ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการฉบับนี้ 2 ครั้ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สสส. และการสรรหาผู้จัดการของ สสส.
บังเอิญหรือไม่บังเอิญก็ตามแต่ ผมเป็นกรรมการสรรหาผู้จัดการ สสส. คนหนึ่งในจำนวน 7 คน บทความชิ้นแรกของคุณธงไท เขียนในระหว่างที่กระบวนการสรรหายังไม่แล้วเสร็จ ตำหนิกระบวนการสรรหาว่าไม่โปร่งใส ไม่เปิดเผยชื่อกรรมการสรรหา ไม่เปิดเผยชื่อผู้สมัคร พอบทความชิ้นนั้นของคุณธงไทตีพิมพ์ เจ้าหน้าที่ก็แจ้งให้ทราบ คณะกรรมการสรรหาก็ปรึกษาหารือกันเป็นการด่วน
ที่คุณธงไทวิพากษ์วิจารณ์ ผมเห็นว่าคุณธงไทยังขาดข้อมูลที่เหมาะสมก่อนวิพากษ์วิจารณ์ ผมไม่ตำหนิ แล้วผมก็เห็นใจ เพราะผมเป็นเหมือนคุณธงไทมาก่อนดังที่เรียนมาแต่ต้น
เมื่อเห็นบทความชิ้นแรกของคุณธงไท ผมก็สงสัย สงสัยที่คุณธงไทบอกว่า ไม่เปิดเผยชื่อคณะกรรมการสรรหา ไม่เปิดเผยชื่อผู้สมัคร ผมสงสัยว่าคุณธงไทอยากจะให้ใครบอก แล้วจะให้บอกใคร จะให้คณะกรรมการสรรหาบอก ก็ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะไปบอกกับใคร เพราะคณะกรรมการสรรหาได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการกองทุน มีนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการกองทุนเป็นผู้ลงลายมือชื่อแต่งตั้ง อำนาจหน้าที่กำหนดไว้ชัดเจน ซึ่งไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ใดในการประกาศโฆษณาว่าใครเป็นกรรมการสรรหาบ้าง
แล้วโดยความเป็นจริงแล้ว ชื่อและจำนวนกรรมการสรรหาเขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไร กรรมการกองทุน ที่ปรึกษา เจ้าหน้าที่ของ สสส. รู้หมด เพราะอยู่ในวาระการประชุม คงมีแต่บุคคลภายนอก ที่ไม่ใส่ใจแม้แต่จะสอบถามเจ้าหน้าที่เท่านั้นแหละ ที่ไม่รู้
ผมมีข้อสงสัยอีก สงสัยว่าคุณธงไทต้องการให้บอกใคร สสส. คงไม่รู้ว่าใครบ้างต้องการรู้เหมือนอย่างคุณธงไทอยากจะรู้ แค่ต้องการบอกสาธารณชนให้ระแวดระวังเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก็ทำกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว ยังต้องมาห่วงเรื่องที่คุณธงไทอยากจะทราบด้วย เป็นเรื่องที่ตามใจคนทุกคนไม่ได้จริงๆ
ในวันที่คณะกรรมการสรรหาหารือกันเกี่ยวกับบทความชิ้นแรกของคุณธงไท ผมมีความเห็นว่าคณะกรรมการสรรหาไม่ควรชี้แจงสื่อมวลชน แล้วก็ในนามของคณะกรรมการสรรหาก็ไม่ต้องบอกด้วยว่าใครเป็นกรรมการสรรหาบ้าง ใครเป็นผู้สมัครบ้าง
เหตุผลของผมก็คือ คณะกรรมการกองทุนเขาไม่ได้ปิดชื่อและจำนวนกรรมการสรรหา ใครอยากรู้ก็ไปถามเขา ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ก็ได้ ทำไมต้องให้ประกาศด้วย หรือว่ามีใครอยากรู้ชื่อเพื่อเอาไปวิ่งเต้น และถ้าคณะกรรมการประกาศชื่อ ผมก็กลัวใครบางคนที่มองโลกในแง่ลบบ่อยๆ จะบอกว่าเปิดโอกาสให้คนมาวิ่งเต้น ที่ผมกลัวอย่างนี้ ผมคงไม่ผิดนะ ที่กลัว
ส่วนชื่อผู้สมัครนั้น ผมเห็นว่าคณะกรรมการไม่ควรเปิดเผยชื่อเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าใครจะไปเปิดเผยชื่อคณะกรรมการก็ไม่เกี่ยว ที่ผมเห็นว่าไม่ควรเปิดเผยชื่อก็เพราะว่าผู้สมัครทุกท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เมื่อเป็นผู้ทรงคุณวุฒิก็เป็นผู้มีเกียรติ แล้วก็เป็นผู้เสียสละอีกด้วย เงินเดือนผู้จัดการ สสส. ไม่ใช่มากมายอะไร แถมมีหน้าที่การงานและภารกิจมากมาย เมื่อผู้จัดการมีได้เพียงคนเดียว ผู้สมัครคนอื่นก็ต้องไม่ได้รับการสรรหา ผมเคารพสิทธิของผู้ทรงคุณวุฒิที่เสียสละเหล่านั้น เคารพที่จะไม่ทำให้ชื่อเสียงของท่านด่างพร้อยหรือเสียหาย
อีกอย่างหนึ่ง ผู้สมัครทุกคนก็ต้องรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะจะมีการแสดงวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตั้ง 2 วันที่สามพราน ซึ่งคุณธงไทก็รู้ เพราะระบุในบทความของคุณธงไทอยู่แล้ว คุณธงไทก็ยังอุตส่าห์วิพากษ์วิจารณ์ได้อีกว่าเอาพวกเขาเหล่านั้นก็เก็บไปกักตัวอะไรทำนองนั้นอีก อย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นผู้มีเกียรติ ใครจะคิดไปได้ถึงขนาดเอาท่านไปกักไปเก็บเอาไว้
ผมกลัวด้วยครับ กลัวว่าเมื่อสื่อมวลชนบางคนรู้ชื่อผู้สมัครแล้ว ก็อาจเลือกโจมตีบางคน เอาส่วนที่ไม่ดีของเขามาตีแผ่ แล้วก็เอาส่วนดีของผู้สมัครบางคน หรืออาจจะเป็นส่วนไม่ดี มาปั้นให้เป็นส่วนดี เพื่อให้มีผลต่อความคิดเห็นต่อกรรมการสรรหา เชียร์ให้ผู้สมัครบางคนนั้น มีโอกาสได้รับการสรรหา ซึ่งน่าจะเป็นผลเสียต่อการสรรหา และต่อ สสส. มากกว่าผลดี
เมื่อผู้สมัครเขาจะรู้ว่าใครเป็นใครอยู่แล้ว ผมไม่แน่ใจนักว่าคนที่เรียกร้องอยากจะรู้นั้น จะรู้ไปเพื่อประโยชน์อะไรทั้งๆ ที่ไม่มีส่วนได้เสียอะไรเลย
แม้ว่าคณะกรรมการสรรหาจะเห็นว่าไม่ควรเปิดเผยชื่อทั้งชื่อกรรมการสรรหาและชื่อผู้สมัคร แต่ก็ไม่ได้ไปห้ามคนอื่นที่รู้ทั้งชื่อกรรมการสรรหาและชื่อผู้สมัครที่จะไปเปิดเผย เพราะไม่มีอำนาจไปห้ามเขา แล้วเขาก็ไม่ได้รู้เพราะกรรมการสรรหาไปบอกเขา บางคนมีหน้าที่รับเอกสารการสมัคร รู้ก่อนกรรมการสรรหาเสียอีก
หลังจากบทความฉบับแรกของคุณธงไทตีพิมพ์เพียงวันเดียว ก็มีหนังสือพิมพ์พิมพ์ชื่อผู้สมัครอย่างถูกต้องตั้งหลายฉบับ คณะกรรมการสรรหาก็ไม่ได้ไปว่ากล่าวหรือห้ามปรามเขา ในวันแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครท่านหนึ่งหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดว่าไปเปิดเผยชื่อของท่าน ท่านเห็นว่าปกติการสมัครงานในลักษณะนี้เขาไม่เปิดเผยชื่อกัน หน่วยงานต้นสังกัดปัจจุบันจะทราบ ทำอย่างนี้ต่อไปใครจะมาสมัคร ผมคิดว่าคุณธงไทคงเห็นใจผู้สมัครท่านนี้เหมือนผม
ในบทความชิ้นที่สองของคุณธงไท คุณธงไทสงสัยอีก สงสัยเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การสรรหา ผมอยากให้คุณธงไทออกแรงหน่อย ออกแรงสอบถามเจ้าหน้าที่ของ สสส. หน่อย ลองถามเขาหน่อยนะครับว่า การสรรหาผู้จัดการมีระเบียบหรือหลักเกณฑ์อะไรหรือไม่อย่างไร เพราะการสรรหาผู้จัดการ มีหลักเกณฑ์การสรรหาตามที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด เป็นระเบียบข้อบังคับของ สสส. แล้วก็มีนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการ สสส. เป็นผู้ลงนามประกาศใช้ ไม่ได้เป็นเอกสารที่ปกปิดอะไร แล้วก็เป็นระเบียบที่กำหนดขั้นตอนการสรรหาอย่างชัดเจน คณะกรรมการสรรหาจะทำการสรรหาตามอำเภอใจไม่ได้ ทุกขั้นตอนในการสรรหาชัดเจน โปร่งใน และตรวจสอบได้
วันนี้ กระบวนการสรรหาเสร็จสิ้นแล้ว ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนมีมติแต่งตั้งผู้จัดการคนใหม่แล้ว ตามระเบียบการสรรหา คณะกรรมการสรรหาพ้นหน้าที่ในการสรรหาแล้ว ผมก็พ้นจากการเป็นกรรมการสรรหาแล้ว
ไม่มีใครจะมาทำอะไรให้ผมเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผมและกรรมการคนอื่นทำไปแล้วได้ คงไม่มีอะไรเสียหายที่จะบอกคุณธงไทให้ทราบในสิ่งที่คุณธงไทอยากจะรู้ว่า คณะกรรมการสรรหาผู้จัดการ สสส. มี 7 คน ประกอบด้วย (1) นายแพทย์บรรลุ ศิริพานิช (2) นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน (3) ศาสตราจารย์นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ (4) ศาสตราจารย์นายแพทย์อุดมศิลป์ ศรีแสงงาม (5) ศาสตราภิชานไกรฤทธิ์ บุญยเกียรติ (6) นางสุวรรณี คำมั่น ในฐานะผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แล้วก็ (7) ผม นายชำนาญ พิเชษฐพันธ์
เมื่อเรื่องการสรรหาผู้จัดการ สสส. ที่คุณธงไทวิพากษ์วิจารณ์ไม่ค่อยจะถูกต้องกับข้อเท็จจริง และยังไม่ทราบเหตุผลของคณะกรรมการ ผมเลยไม่ค่อยมั่นใจเรื่องที่คุณธงไทบ่นเรื่องการอนุมัติเงินสนับสนุน เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แม้ผมจะเป็นกรรมการบริหารแผนอยู่ 2 คณะ หากคุณธงไทเคยขอทุนแล้วไม่ได้ มั่นใจว่าเข้าหลักเกณฑ์ของ สสส. ลองส่งอีเมลไปถึงผมบ้างก็ได้ เผื่อว่าผมจะสอบถามเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดูให้
chamnanktp@hotmail.com
ผมเคยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นมาเยอะ วิพากษ์วิจารณ์จนกระทั่งต้องยอมรับหลายครั้งหลายหนว่าที่วิพากษ์วิจารณ์ไปนั้น เป็นการวิพากษ์วิจารณ์อย่างผิดๆ เพราะขาดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์ หรือไม่ก็ไม่ได้คิดถึงเหตุและผลที่ควรจะคิดให้ดีเสียก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์
บางครั้งเลยเถิดไปถึงขนาดบอกว่า ถ้าผมเป็นเขา ผมจะทำอีกอย่างหนึ่ง ต้องดีกว่า ต้องแน่กว่าเขาอย่างแน่นอน
แล้ววันหนึ่งผมก็ไปดำรงตำแหน่งอย่างเขา พอรู้ข้อเท็จจริงและเหตุผลประกอบ ผมก็ทำไม่ได้อย่างที่วิพากษ์วิจารณ์ แถมยังทำแบบที่เขาทำอีกต่างหาก เพราะเมื่อไปเป็นอย่างเขา ไปเป็นคนตัดสินใจ ที่อาจมีคนได้รับผลกระทบมากมาย ต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจ ความระมัดระวังต้องมีมากขึ้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แล้วก็รอบด้าน ผมถึงเกิดตาสว่างรู้แจ้งเห็นจริงว่า การวิจารณ์นั้นง่าย แต่การทำที่ต้องรับผิดชอบนั้นยาก
ผมได้อ่านบทความของคุณธงไท เทอดอุดม ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการฉบับนี้ 2 ครั้ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สสส. และการสรรหาผู้จัดการของ สสส.
บังเอิญหรือไม่บังเอิญก็ตามแต่ ผมเป็นกรรมการสรรหาผู้จัดการ สสส. คนหนึ่งในจำนวน 7 คน บทความชิ้นแรกของคุณธงไท เขียนในระหว่างที่กระบวนการสรรหายังไม่แล้วเสร็จ ตำหนิกระบวนการสรรหาว่าไม่โปร่งใส ไม่เปิดเผยชื่อกรรมการสรรหา ไม่เปิดเผยชื่อผู้สมัคร พอบทความชิ้นนั้นของคุณธงไทตีพิมพ์ เจ้าหน้าที่ก็แจ้งให้ทราบ คณะกรรมการสรรหาก็ปรึกษาหารือกันเป็นการด่วน
ที่คุณธงไทวิพากษ์วิจารณ์ ผมเห็นว่าคุณธงไทยังขาดข้อมูลที่เหมาะสมก่อนวิพากษ์วิจารณ์ ผมไม่ตำหนิ แล้วผมก็เห็นใจ เพราะผมเป็นเหมือนคุณธงไทมาก่อนดังที่เรียนมาแต่ต้น
เมื่อเห็นบทความชิ้นแรกของคุณธงไท ผมก็สงสัย สงสัยที่คุณธงไทบอกว่า ไม่เปิดเผยชื่อคณะกรรมการสรรหา ไม่เปิดเผยชื่อผู้สมัคร ผมสงสัยว่าคุณธงไทอยากจะให้ใครบอก แล้วจะให้บอกใคร จะให้คณะกรรมการสรรหาบอก ก็ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะไปบอกกับใคร เพราะคณะกรรมการสรรหาได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการกองทุน มีนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการกองทุนเป็นผู้ลงลายมือชื่อแต่งตั้ง อำนาจหน้าที่กำหนดไว้ชัดเจน ซึ่งไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ใดในการประกาศโฆษณาว่าใครเป็นกรรมการสรรหาบ้าง
แล้วโดยความเป็นจริงแล้ว ชื่อและจำนวนกรรมการสรรหาเขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไร กรรมการกองทุน ที่ปรึกษา เจ้าหน้าที่ของ สสส. รู้หมด เพราะอยู่ในวาระการประชุม คงมีแต่บุคคลภายนอก ที่ไม่ใส่ใจแม้แต่จะสอบถามเจ้าหน้าที่เท่านั้นแหละ ที่ไม่รู้
ผมมีข้อสงสัยอีก สงสัยว่าคุณธงไทต้องการให้บอกใคร สสส. คงไม่รู้ว่าใครบ้างต้องการรู้เหมือนอย่างคุณธงไทอยากจะรู้ แค่ต้องการบอกสาธารณชนให้ระแวดระวังเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก็ทำกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว ยังต้องมาห่วงเรื่องที่คุณธงไทอยากจะทราบด้วย เป็นเรื่องที่ตามใจคนทุกคนไม่ได้จริงๆ
ในวันที่คณะกรรมการสรรหาหารือกันเกี่ยวกับบทความชิ้นแรกของคุณธงไท ผมมีความเห็นว่าคณะกรรมการสรรหาไม่ควรชี้แจงสื่อมวลชน แล้วก็ในนามของคณะกรรมการสรรหาก็ไม่ต้องบอกด้วยว่าใครเป็นกรรมการสรรหาบ้าง ใครเป็นผู้สมัครบ้าง
เหตุผลของผมก็คือ คณะกรรมการกองทุนเขาไม่ได้ปิดชื่อและจำนวนกรรมการสรรหา ใครอยากรู้ก็ไปถามเขา ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ก็ได้ ทำไมต้องให้ประกาศด้วย หรือว่ามีใครอยากรู้ชื่อเพื่อเอาไปวิ่งเต้น และถ้าคณะกรรมการประกาศชื่อ ผมก็กลัวใครบางคนที่มองโลกในแง่ลบบ่อยๆ จะบอกว่าเปิดโอกาสให้คนมาวิ่งเต้น ที่ผมกลัวอย่างนี้ ผมคงไม่ผิดนะ ที่กลัว
ส่วนชื่อผู้สมัครนั้น ผมเห็นว่าคณะกรรมการไม่ควรเปิดเผยชื่อเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าใครจะไปเปิดเผยชื่อคณะกรรมการก็ไม่เกี่ยว ที่ผมเห็นว่าไม่ควรเปิดเผยชื่อก็เพราะว่าผู้สมัครทุกท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เมื่อเป็นผู้ทรงคุณวุฒิก็เป็นผู้มีเกียรติ แล้วก็เป็นผู้เสียสละอีกด้วย เงินเดือนผู้จัดการ สสส. ไม่ใช่มากมายอะไร แถมมีหน้าที่การงานและภารกิจมากมาย เมื่อผู้จัดการมีได้เพียงคนเดียว ผู้สมัครคนอื่นก็ต้องไม่ได้รับการสรรหา ผมเคารพสิทธิของผู้ทรงคุณวุฒิที่เสียสละเหล่านั้น เคารพที่จะไม่ทำให้ชื่อเสียงของท่านด่างพร้อยหรือเสียหาย
อีกอย่างหนึ่ง ผู้สมัครทุกคนก็ต้องรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะจะมีการแสดงวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันตั้ง 2 วันที่สามพราน ซึ่งคุณธงไทก็รู้ เพราะระบุในบทความของคุณธงไทอยู่แล้ว คุณธงไทก็ยังอุตส่าห์วิพากษ์วิจารณ์ได้อีกว่าเอาพวกเขาเหล่านั้นก็เก็บไปกักตัวอะไรทำนองนั้นอีก อย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นผู้มีเกียรติ ใครจะคิดไปได้ถึงขนาดเอาท่านไปกักไปเก็บเอาไว้
ผมกลัวด้วยครับ กลัวว่าเมื่อสื่อมวลชนบางคนรู้ชื่อผู้สมัครแล้ว ก็อาจเลือกโจมตีบางคน เอาส่วนที่ไม่ดีของเขามาตีแผ่ แล้วก็เอาส่วนดีของผู้สมัครบางคน หรืออาจจะเป็นส่วนไม่ดี มาปั้นให้เป็นส่วนดี เพื่อให้มีผลต่อความคิดเห็นต่อกรรมการสรรหา เชียร์ให้ผู้สมัครบางคนนั้น มีโอกาสได้รับการสรรหา ซึ่งน่าจะเป็นผลเสียต่อการสรรหา และต่อ สสส. มากกว่าผลดี
เมื่อผู้สมัครเขาจะรู้ว่าใครเป็นใครอยู่แล้ว ผมไม่แน่ใจนักว่าคนที่เรียกร้องอยากจะรู้นั้น จะรู้ไปเพื่อประโยชน์อะไรทั้งๆ ที่ไม่มีส่วนได้เสียอะไรเลย
แม้ว่าคณะกรรมการสรรหาจะเห็นว่าไม่ควรเปิดเผยชื่อทั้งชื่อกรรมการสรรหาและชื่อผู้สมัคร แต่ก็ไม่ได้ไปห้ามคนอื่นที่รู้ทั้งชื่อกรรมการสรรหาและชื่อผู้สมัครที่จะไปเปิดเผย เพราะไม่มีอำนาจไปห้ามเขา แล้วเขาก็ไม่ได้รู้เพราะกรรมการสรรหาไปบอกเขา บางคนมีหน้าที่รับเอกสารการสมัคร รู้ก่อนกรรมการสรรหาเสียอีก
หลังจากบทความฉบับแรกของคุณธงไทตีพิมพ์เพียงวันเดียว ก็มีหนังสือพิมพ์พิมพ์ชื่อผู้สมัครอย่างถูกต้องตั้งหลายฉบับ คณะกรรมการสรรหาก็ไม่ได้ไปว่ากล่าวหรือห้ามปรามเขา ในวันแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครท่านหนึ่งหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดว่าไปเปิดเผยชื่อของท่าน ท่านเห็นว่าปกติการสมัครงานในลักษณะนี้เขาไม่เปิดเผยชื่อกัน หน่วยงานต้นสังกัดปัจจุบันจะทราบ ทำอย่างนี้ต่อไปใครจะมาสมัคร ผมคิดว่าคุณธงไทคงเห็นใจผู้สมัครท่านนี้เหมือนผม
ในบทความชิ้นที่สองของคุณธงไท คุณธงไทสงสัยอีก สงสัยเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การสรรหา ผมอยากให้คุณธงไทออกแรงหน่อย ออกแรงสอบถามเจ้าหน้าที่ของ สสส. หน่อย ลองถามเขาหน่อยนะครับว่า การสรรหาผู้จัดการมีระเบียบหรือหลักเกณฑ์อะไรหรือไม่อย่างไร เพราะการสรรหาผู้จัดการ มีหลักเกณฑ์การสรรหาตามที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด เป็นระเบียบข้อบังคับของ สสส. แล้วก็มีนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกรรมการ สสส. เป็นผู้ลงนามประกาศใช้ ไม่ได้เป็นเอกสารที่ปกปิดอะไร แล้วก็เป็นระเบียบที่กำหนดขั้นตอนการสรรหาอย่างชัดเจน คณะกรรมการสรรหาจะทำการสรรหาตามอำเภอใจไม่ได้ ทุกขั้นตอนในการสรรหาชัดเจน โปร่งใน และตรวจสอบได้
วันนี้ กระบวนการสรรหาเสร็จสิ้นแล้ว ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนมีมติแต่งตั้งผู้จัดการคนใหม่แล้ว ตามระเบียบการสรรหา คณะกรรมการสรรหาพ้นหน้าที่ในการสรรหาแล้ว ผมก็พ้นจากการเป็นกรรมการสรรหาแล้ว
ไม่มีใครจะมาทำอะไรให้ผมเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผมและกรรมการคนอื่นทำไปแล้วได้ คงไม่มีอะไรเสียหายที่จะบอกคุณธงไทให้ทราบในสิ่งที่คุณธงไทอยากจะรู้ว่า คณะกรรมการสรรหาผู้จัดการ สสส. มี 7 คน ประกอบด้วย (1) นายแพทย์บรรลุ ศิริพานิช (2) นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน (3) ศาสตราจารย์นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ (4) ศาสตราจารย์นายแพทย์อุดมศิลป์ ศรีแสงงาม (5) ศาสตราภิชานไกรฤทธิ์ บุญยเกียรติ (6) นางสุวรรณี คำมั่น ในฐานะผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แล้วก็ (7) ผม นายชำนาญ พิเชษฐพันธ์
เมื่อเรื่องการสรรหาผู้จัดการ สสส. ที่คุณธงไทวิพากษ์วิจารณ์ไม่ค่อยจะถูกต้องกับข้อเท็จจริง และยังไม่ทราบเหตุผลของคณะกรรมการ ผมเลยไม่ค่อยมั่นใจเรื่องที่คุณธงไทบ่นเรื่องการอนุมัติเงินสนับสนุน เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แม้ผมจะเป็นกรรมการบริหารแผนอยู่ 2 คณะ หากคุณธงไทเคยขอทุนแล้วไม่ได้ มั่นใจว่าเข้าหลักเกณฑ์ของ สสส. ลองส่งอีเมลไปถึงผมบ้างก็ได้ เผื่อว่าผมจะสอบถามเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดูให้