ASTVผู้จัดการรายวัน – ขุนคลังยอมรับแก้ปัญหาหนี้นอกระบบหวังผลการเมือง ใช้เครือข่ายการเมืองท้องถิ่นเจรจาลดหนี้ก่อนส่งให้แบงก์ออมสิน – ธ.ก.ส.รับช่วงต่อ ถกกระทรวงยุติธรรมออกกฎหมายสินเชื่อบุคคลดอกเบี้ยเก็บจากประชาชนอย่างเป็นธรรม
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้แก่ประชาชนในระดับฐานรากเป็นเรื่องที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ประชาชนยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น โดยขณะนี้ได้ให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชนทบทวนเป้าหมายในเชิงนโยบายอยู่ ขณะที่ธนาคารทั้ง 2 แห่งดังกล่าวยืนยันเบื้องต้นแล้วว่าพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือ รอเพียงแต่นโยบายจากกระทรวงการคลังอย่างเป็นทางการเท่านั้น
“ผมต้องหวังผลทางการเมืองอยู่แล้วในการฟื้นโครงการนี้ขึ้นมาแต่ที่สำคัญคือต้องการให้ประชาชนประมาณ 10% ที่ยังไม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินได้เข้าสู่ระบบเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไป ทั้งนี้จะต้องอาศัยเครือข่ายของท้องถิ่น ผ่านนักการเมืองท้องถิ่นทุกระดับในการเป็นเจ้าภาพตั้งโต๊ะเจรจาต่อรองทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้ต้องใช้เวลา ทั้งนี้ได้วางเป้าหมายไว้ว่าภายในปีนี้จะต้องเดินหน้าโครงการนี้ให้ได้” นายกรณ์กล่าว
***2 แบงก์พร้อมรับนโยบาย
สำหรับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบมีเป้าหมายว่าจะต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าไปประเมินความเป็นไปได้ของลูกหนี้ ความสามารถในการชำระหนี้ ก่อนที่จะจัดสรรเงินทดแทนให้แก่เจ้าหนี้นอกระบบ โดยขณะนี้ได้ให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชนทบทวนเป้าหมายในเชิงนโยบายอยู่ ขณะที่ธนาคารทั้ง 2 แห่งดังกล่าวยืนยันเบื้องต้นแล้วว่าพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือ รอเพียงแต่นโยบายจากกระทรวงการคลังอย่างเป็นทางการเท่านั้น
“ในปีนี้ทุกอย่างคงจะมีข้อสรุปว่าเรื่องนี้จะดำเนินการอย่างไรทั้งในส่วนขั้นตอนการลงทะเบียนผ่านธนาคารของรัฐทั้งสองแห่ง ซึ่งจะถือว่าเป็นการทบทวนข้อมูลที่เคยมีตั้งแต่ปี 2548 ว่าหนี้นอกระบบของคนไทยมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างนับแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งล่าสุด รวมทั้งต้องหาวิธีการบริหารจัดการอุปสรรคข้อปัญหาต่างๆ เพื่อให้โครงการนี้ลุล่วงไปได้” นายกรณ์กล่าว
***เชื่อมือออมสิน-ธ.ก.ส.เก็บข้อมูล
สำหรับกลไกหลักที่ธนาคารออมสินและธ.ก.ส.จะเข้ามาสานต่อนั้น จะเริ่มตั้งแต่ขึ้นทะเบียนใหม่ ซึ่งคาด 2 แบงก์จะตรวจสอบข้อมูลได้ดี เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักเป็นประชาชนระดับรากหญ้าและเกษตรกรรายย่อยอยู่แล้ว จากนั้นจะรับซื้อหนี้ เจรจาต่อรองหนี้จากเจ้าหนี้ รวมถึงปล่อยสินเชื่อเพิ่มในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยจะประเมินความสามารถชำระหนี้ของลูกหนี้ว่าอยู่ในระดับใดซึ่งจะต้องสอดคล้องกับความเป็นจริงมิให้ภายหลังเมื่อปล่อยไปแล้วจะกลายเป็นหนี้สูญและไม่กลับไปสู่การกู้หนี้นอกระบบอีก
ทั้งนี้ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ขึ้นทะเบียนคนจนไว้แล้วตั้งแต่ปี 49 ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบที่ส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชนจำนวน 5 ล้านราย โดยกลุ่มหนี้นอกระบบมีประมาณ 2 แสนราย หรือคิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ได้รับการแก้ไขแล้ว 1 แสนราย หรือ 6 พันล้านบาท ยังเหลืออีก 1 แสนรายซึ่งยังไม่รวมถึงลูกหนี้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในรอบปีที่ผ่านมาจึงต้องลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด
***สั่งศึกษา กม.สินเชื่อบุคคลคุมดอก
รมว.คลังกล่าวว่า ในฐานะกระทรวงการคลังมีหน้าที่แก้ปัญหาของประชาชนระดับฐานราก จึงได้สั่งการให้มีการศึกษากฎหมายเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งแยกต่างหากจากร่างพ.ร.บ.การติดตามทวงหนี้อย่างเป็นธรรม พ.ศ.... เพื่อใช้กำกับดูแลสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างรอบด้านที่ขณะนี้มีวิวัฒนาการขั้นสูง ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะกำกับดูแลอยู่บ้างแต่ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้จะได้นำไปหารือร่วมกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมที่ดูแลร่างพ.ร.บ.ติดตามธุรกิจบัตรเครดิต พ.ศ....
“เป็นไปได้ที่เมื่อมีกฎหมายใหม่ อาจจะออกใบอนุญาตให้เจ้าหนี้รายใหม่ๆที่ยังไม่เข้าสู่ระบบ สามารถเข้ามาปล่อยกู้หนี้ได้ตามกฎหมายรองรับกลุ่มลูกหนี้ที่มีข้อจำกัด หลังจากที่ขณะนี้การปล่อยกู้ยกระดับขึ้นไปมาก โดยคิดอัตราดอกเบี้ยสูงทั้งที่ดอกเบี้ยในระบบต่ำมากก็ไม่ยอมปรับลดลงมา ที่ผ่านมาเราไม่มีกฎหมายที่ชัดเจนเพียงพอในการควบคุมดูแลเรื่องเหล่านี้ มีเพียงธปท.ที่มีกฎหมายจากประกาศคณะปฏิวัติเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมสินเชื่อทุกประเภท และไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เท่าที่ควร จึงต้องปรับปรุงใหม่ ทั้งนี้ผมไม่ได้สนใจว่าหนี้นอกระบบของประชาชนจะเกิดจากอะไร แต่ให้ความสำคัญที่ความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก” นายกรณ์กล่าว
***ปีหน้ารับบทบาทดูแลเศรษฐกิจ
นายกรณ์ ยังกล่าวถึงแผนงานต่อจากนี้ว่า ภายใน 1 ปีข้างหน้า ได้วางเป้าหมายว่ากระทรวงการคลังจะต้องมีบบาทสำคัญดังนี้ ดูแลเศรษฐกิจโดยรวมให้มีเสถียรภาพ ซึ่งขณะนี้มั่นใจว่าเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว นอกจากนี้จะเร่งปฏิรูปการจัดเก็บภาษีต่าง ๆ ดูแลประชาชนที่ยังต้องพึ่งพารัฐบาล หาแนวทางแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนระดับฐานราก
***ออมสินรับดูแลรายย่อย
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงการการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบนโยบายจากรมว.คลัง แต่เบื้องต้นธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่รับความเดือดร้อนอยู่แล้วทั้งการขาดสภาพคล่องและการเป็นหนี้นอกระบบ โดยที่ผ่านมามีประชาชนเข้ามาขอกู้เงินอัตราดอกเบี้ยต่ำไปชำระหนี้นอกระบบมากขึ้น เฉพาะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวน 12 รายให้กู้รายละ 1 แสนบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเท่าธนาคารประชาชน ส่งผลให้สินเชื่อโดยรวมของธนาคาร 8 เดือนพุ่งขึ้นไปกว่า 2.5 แสนล้านบาท มีรายย่อยกู้เพิ่มจาก 1.6 ล้านรายเป็น 1.8 ล้านราย
ทั้งนี้ หากจะจะให้ออมสินเข้ามาแก้ไขหนี้นอกระบบก็พร้อมจำดำเนินการรับลงทะเบียนได้ทันที เพราะออสินมีสาขาทั่วประเทศกว่า 600 สาขา แต่การช่วยเหลือคงต้องมีการคัดแยกว่าเป็นกลุ่มไหน มีหนี้สินจากสาเหตุใด และใครเป็นเจ้าหนี้ หากเป็นกลุ่มเกษตรกรก็เป็นหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)จะดูแล หากเป็นผู้ประกอบการรายย่อย โชวห่วย ที่มีหนี้สินจากการประกอบอาชีพ และเพื่อการดำรงชีพก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
“หารช่วยเหลือคงไม่สามารถช่วยได้ทุกรายต้องดูว่าเป็นกลุ่มไหน และมีหนี้สินจากการประกอบอาชีพจริง เพื่อสกรีนกลุ่มที่มีหนี้สินจากการพนันหรือทำอาชีไม่สุจริต และการเจรจากับเจ้าหนี้คงเป็นหน้าที่ของลูกหนี้เอง เพราหากเจ้าหน้าที่แบงก์เข้าไปเจรจาคงไม่เหมาะสมนัก เพราะธนาคารไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหนี้เป็นใครซึ่งอาจเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล” นายเลอศักด์กล่าว.
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้แก่ประชาชนในระดับฐานรากเป็นเรื่องที่สำคัญและมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ประชาชนยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น โดยขณะนี้ได้ให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชนทบทวนเป้าหมายในเชิงนโยบายอยู่ ขณะที่ธนาคารทั้ง 2 แห่งดังกล่าวยืนยันเบื้องต้นแล้วว่าพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือ รอเพียงแต่นโยบายจากกระทรวงการคลังอย่างเป็นทางการเท่านั้น
“ผมต้องหวังผลทางการเมืองอยู่แล้วในการฟื้นโครงการนี้ขึ้นมาแต่ที่สำคัญคือต้องการให้ประชาชนประมาณ 10% ที่ยังไม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินได้เข้าสู่ระบบเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไป ทั้งนี้จะต้องอาศัยเครือข่ายของท้องถิ่น ผ่านนักการเมืองท้องถิ่นทุกระดับในการเป็นเจ้าภาพตั้งโต๊ะเจรจาต่อรองทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้ต้องใช้เวลา ทั้งนี้ได้วางเป้าหมายไว้ว่าภายในปีนี้จะต้องเดินหน้าโครงการนี้ให้ได้” นายกรณ์กล่าว
***2 แบงก์พร้อมรับนโยบาย
สำหรับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบมีเป้าหมายว่าจะต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่ายทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าไปประเมินความเป็นไปได้ของลูกหนี้ ความสามารถในการชำระหนี้ ก่อนที่จะจัดสรรเงินทดแทนให้แก่เจ้าหนี้นอกระบบ โดยขณะนี้ได้ให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชนทบทวนเป้าหมายในเชิงนโยบายอยู่ ขณะที่ธนาคารทั้ง 2 แห่งดังกล่าวยืนยันเบื้องต้นแล้วว่าพร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือ รอเพียงแต่นโยบายจากกระทรวงการคลังอย่างเป็นทางการเท่านั้น
“ในปีนี้ทุกอย่างคงจะมีข้อสรุปว่าเรื่องนี้จะดำเนินการอย่างไรทั้งในส่วนขั้นตอนการลงทะเบียนผ่านธนาคารของรัฐทั้งสองแห่ง ซึ่งจะถือว่าเป็นการทบทวนข้อมูลที่เคยมีตั้งแต่ปี 2548 ว่าหนี้นอกระบบของคนไทยมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างนับแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งล่าสุด รวมทั้งต้องหาวิธีการบริหารจัดการอุปสรรคข้อปัญหาต่างๆ เพื่อให้โครงการนี้ลุล่วงไปได้” นายกรณ์กล่าว
***เชื่อมือออมสิน-ธ.ก.ส.เก็บข้อมูล
สำหรับกลไกหลักที่ธนาคารออมสินและธ.ก.ส.จะเข้ามาสานต่อนั้น จะเริ่มตั้งแต่ขึ้นทะเบียนใหม่ ซึ่งคาด 2 แบงก์จะตรวจสอบข้อมูลได้ดี เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักเป็นประชาชนระดับรากหญ้าและเกษตรกรรายย่อยอยู่แล้ว จากนั้นจะรับซื้อหนี้ เจรจาต่อรองหนี้จากเจ้าหนี้ รวมถึงปล่อยสินเชื่อเพิ่มในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยจะประเมินความสามารถชำระหนี้ของลูกหนี้ว่าอยู่ในระดับใดซึ่งจะต้องสอดคล้องกับความเป็นจริงมิให้ภายหลังเมื่อปล่อยไปแล้วจะกลายเป็นหนี้สูญและไม่กลับไปสู่การกู้หนี้นอกระบบอีก
ทั้งนี้ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ขึ้นทะเบียนคนจนไว้แล้วตั้งแต่ปี 49 ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบที่ส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชนจำนวน 5 ล้านราย โดยกลุ่มหนี้นอกระบบมีประมาณ 2 แสนราย หรือคิดเป็นมูลหนี้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ได้รับการแก้ไขแล้ว 1 แสนราย หรือ 6 พันล้านบาท ยังเหลืออีก 1 แสนรายซึ่งยังไม่รวมถึงลูกหนี้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในรอบปีที่ผ่านมาจึงต้องลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด
***สั่งศึกษา กม.สินเชื่อบุคคลคุมดอก
รมว.คลังกล่าวว่า ในฐานะกระทรวงการคลังมีหน้าที่แก้ปัญหาของประชาชนระดับฐานราก จึงได้สั่งการให้มีการศึกษากฎหมายเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งแยกต่างหากจากร่างพ.ร.บ.การติดตามทวงหนี้อย่างเป็นธรรม พ.ศ.... เพื่อใช้กำกับดูแลสินเชื่อส่วนบุคคลอย่างรอบด้านที่ขณะนี้มีวิวัฒนาการขั้นสูง ทั้งนี้ที่ผ่านมาแม้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะกำกับดูแลอยู่บ้างแต่ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้จะได้นำไปหารือร่วมกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมที่ดูแลร่างพ.ร.บ.ติดตามธุรกิจบัตรเครดิต พ.ศ....
“เป็นไปได้ที่เมื่อมีกฎหมายใหม่ อาจจะออกใบอนุญาตให้เจ้าหนี้รายใหม่ๆที่ยังไม่เข้าสู่ระบบ สามารถเข้ามาปล่อยกู้หนี้ได้ตามกฎหมายรองรับกลุ่มลูกหนี้ที่มีข้อจำกัด หลังจากที่ขณะนี้การปล่อยกู้ยกระดับขึ้นไปมาก โดยคิดอัตราดอกเบี้ยสูงทั้งที่ดอกเบี้ยในระบบต่ำมากก็ไม่ยอมปรับลดลงมา ที่ผ่านมาเราไม่มีกฎหมายที่ชัดเจนเพียงพอในการควบคุมดูแลเรื่องเหล่านี้ มีเพียงธปท.ที่มีกฎหมายจากประกาศคณะปฏิวัติเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมสินเชื่อทุกประเภท และไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เท่าที่ควร จึงต้องปรับปรุงใหม่ ทั้งนี้ผมไม่ได้สนใจว่าหนี้นอกระบบของประชาชนจะเกิดจากอะไร แต่ให้ความสำคัญที่ความสามารถในการชำระหนี้เป็นหลัก” นายกรณ์กล่าว
***ปีหน้ารับบทบาทดูแลเศรษฐกิจ
นายกรณ์ ยังกล่าวถึงแผนงานต่อจากนี้ว่า ภายใน 1 ปีข้างหน้า ได้วางเป้าหมายว่ากระทรวงการคลังจะต้องมีบบาทสำคัญดังนี้ ดูแลเศรษฐกิจโดยรวมให้มีเสถียรภาพ ซึ่งขณะนี้มั่นใจว่าเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว นอกจากนี้จะเร่งปฏิรูปการจัดเก็บภาษีต่าง ๆ ดูแลประชาชนที่ยังต้องพึ่งพารัฐบาล หาแนวทางแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนระดับฐานราก
***ออมสินรับดูแลรายย่อย
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงการการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบนโยบายจากรมว.คลัง แต่เบื้องต้นธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่รับความเดือดร้อนอยู่แล้วทั้งการขาดสภาพคล่องและการเป็นหนี้นอกระบบ โดยที่ผ่านมามีประชาชนเข้ามาขอกู้เงินอัตราดอกเบี้ยต่ำไปชำระหนี้นอกระบบมากขึ้น เฉพาะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวน 12 รายให้กู้รายละ 1 แสนบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเท่าธนาคารประชาชน ส่งผลให้สินเชื่อโดยรวมของธนาคาร 8 เดือนพุ่งขึ้นไปกว่า 2.5 แสนล้านบาท มีรายย่อยกู้เพิ่มจาก 1.6 ล้านรายเป็น 1.8 ล้านราย
ทั้งนี้ หากจะจะให้ออมสินเข้ามาแก้ไขหนี้นอกระบบก็พร้อมจำดำเนินการรับลงทะเบียนได้ทันที เพราะออสินมีสาขาทั่วประเทศกว่า 600 สาขา แต่การช่วยเหลือคงต้องมีการคัดแยกว่าเป็นกลุ่มไหน มีหนี้สินจากสาเหตุใด และใครเป็นเจ้าหนี้ หากเป็นกลุ่มเกษตรกรก็เป็นหน้าที่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)จะดูแล หากเป็นผู้ประกอบการรายย่อย โชวห่วย ที่มีหนี้สินจากการประกอบอาชีพ และเพื่อการดำรงชีพก็จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
“หารช่วยเหลือคงไม่สามารถช่วยได้ทุกรายต้องดูว่าเป็นกลุ่มไหน และมีหนี้สินจากการประกอบอาชีพจริง เพื่อสกรีนกลุ่มที่มีหนี้สินจากการพนันหรือทำอาชีไม่สุจริต และการเจรจากับเจ้าหนี้คงเป็นหน้าที่ของลูกหนี้เอง เพราหากเจ้าหน้าที่แบงก์เข้าไปเจรจาคงไม่เหมาะสมนัก เพราะธนาคารไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหนี้เป็นใครซึ่งอาจเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล” นายเลอศักด์กล่าว.
